แคนดิเดตนายก หลังเศรษฐา ทวีสิน พ้นตำแหน่ง

รายชื่อแคนดิเดตนายก หลังเศรษฐา ทวีสิน พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ส่งผลให้คณะรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ ตามมาตรา 167

หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 5 ต่อ 4 วินิจฉัยให้ นายเศรษฐา ทวีสิน พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ส่งผลให้คณะรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ ตามมาตรา 167 วรรคหนึ่ง และต้องสรรหานายกรัฐมนตรีคนใหม่ จากบัญชีของพรรคการเมืองที่มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 หรือ 25 คน ปัจจุบันมีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคร่วมรัฐบาลดังนี้

รายชื่อแคนดิเดตนายก

  1. พรรคเพื่อไทย (141 เสียง)
    • น.ส.แพทองธาร ชินวัตร
    • นายชัยเกษม นิติสิริ
  2. พรรคภูมิใจไทย (71 เสียง)
    • นายอนุทิน ชาญวีรกูล
  3. พรรคพลังประชารัฐ (40 เสียง)
    • พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
  4. พรรครวมไทยสร้างชาติ (36 เสียง)
    • พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
    • นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาพ
  5. พรรคประชาธิปัตย์ (25 เสียง)
    • นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์

ขั้นตอนการสรรหานายกรัฐมนตรีคนใหม่

หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรจะเรียกประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ โดยนายกรัฐมนตรีจะต้องเป็นผู้ที่มีรายชื่ออยู่ในบัญชีของพรรคการเมืองที่มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมด

ความสำคัญของการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่

การเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่เป็นขั้นตอนสำคัญในการฟื้นฟูความเชื่อมั่นและความต่อเนื่องในการบริหารประเทศ โดยแคนดิเดตจากทั้ง 5 พรรคการเมืองใหญ่ในครั้งนี้จะเป็นตัวแทนที่สำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายและการบริหารประเทศในอนาคต

เศรษฐา ทวีสิน พ้นตำแหน่ง พร้อมคณะรัฐมนตรี

ศาลรัฐธรรมนูญได้มีมติ 5 ต่อ 4 เสียง วินิจฉัยให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลง

คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ประเด็นเศรษฐา ทวีสิน

วันนี้ (14 ส.ค. 2567) ศาลรัฐธรรมนูญได้มีมติ 5 ต่อ 4 เสียง วินิจฉัยให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลง เนื่องจากการแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยศาลเห็นว่านายเศรษฐาทราบหรือควรรู้อยู่แล้วว่านายพิชิต ขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ แต่ยังคงนำความกราบบังคมทูลเพื่อโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ถือเป็นการปฏิบัติที่มิชอบตามรัฐธรรมนูญ และฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง

ประเด็น เศรษฐา ทวีสิน ที่นำมาสู่คำวินิจฉัย

สมาชิกวุฒิสภาจำนวน 40 คนได้ยื่นคำร้องต่อประธานวุฒิสภาให้ส่งเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่าการแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน ซึ่งเคยถูกศาลฎีกามีคำสั่งจำคุก 6 เดือนในคดีละเมิดอำนาจศาล และถูกมองว่าเป็นบุคคลที่กระทำการอันไม่ซื่อสัตย์สุจริต ส่งผลให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนายพิชิต ชื่นบาน สิ้นสุดลง

ผลกระทบจากคำวินิจฉัย

จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนี้ ส่งผลให้คณะรัฐมนตรีของนายเศรษฐาทั้งคณะพ้นจากตำแหน่ง ถือเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญในประวัติศาสตร์การเมืองไทย คำวินิจฉัยนี้ยังชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการปฏิบัติหน้าที่อย่างซื่อสัตย์สุจริตและเป็นที่ประจักษ์ตามมาตรฐานจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

ความเป็นมา

กรณีนี้สืบเนื่องมาจากการแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีการตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับคุณสมบัติและพฤติกรรมในอดีตของนายพิชิต ทั้งนี้ รัฐบาลได้สอบถามไปยังสำนักงานกฤษฎีกาและได้รับคำยืนยันว่าสามารถแต่งตั้งได้ แต่ในท้ายที่สุด ศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่าการแต่งตั้งดังกล่าวเป็นการขาดความซื่อสัตย์สุจริตและไม่เหมาะสม

เหตุการณ์นี้เป็นการตอกย้ำถึงความสำคัญของการพิจารณาคุณสมบัติและจริยธรรมของบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และความรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรีในการตัดสินใจแต่งตั้งบุคคลในคณะรัฐมนตรี