เงินดิจิทัลเฟส 2 คลังตอบแล้ว จะเริ่มเมื่อไหร่ และ ใครได้บ้าง

สำหรับกลุ่มคนที่ลงทะเบียนเงินดิจิทัล 10,000 บาทไปแล้ว นายเผ่าภูมิยืนยันว่า ผู้ลงทะเบียนจะได้รับเงินแน่นอน

คำตอบจากกระทรวงการคลัง

โครงการเงินดิจิทัลเฟส 2 ที่รัฐบาลจะมอบเงิน 10,000 บาทให้ประชาชนนั้น เป็นโครงการที่ได้รับความสนใจอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ได้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” เมื่อเดือนสิงหาคม 2567 หลายคนสงสัยว่า เมื่อไหร่เงินนี้จะได้รับ และจะมีการแจกจ่ายให้กับทุกคนหรือไม่ ล่าสุด นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้ให้ข้อมูลชัดเจนเกี่ยวกับโครงการดังกล่าว

การดำเนินงานดิจิทัลเฟส 2 ต้องเว้นช่วงเวลา

นายเผ่าภูมิ ระบุว่า โครงการเงินดิจิทัลเฟส 2 จะต้องมีการเว้นระยะเวลาเพื่อรอจังหวะที่เหมาะสม เนื่องจากต้องการให้เม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง และป้องกันไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนกับการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงเวลาเดียวกัน โดยในปัจจุบัน คณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ นำโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กำลังอยู่ระหว่างการหารือเพื่อกำหนดเวลาที่เหมาะสมในการเริ่มเฟส 2

การแจกเงินดิจิทัลเฟส 2 จะมีการพิจารณาเพิ่มเติม

สำหรับกลุ่มคนที่ลงทะเบียนเงินดิจิทัล 10,000 บาทไปแล้ว นายเผ่าภูมิยืนยันว่า ผู้ลงทะเบียนจะได้รับเงินแน่นอน แต่ยังคงต้องรอการพิจารณาในรายละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ วิธีการ และช่วงเวลาการแจกจ่ายจากคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะทำการพิจารณาแนวคิดต่าง ๆ เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์เศรษฐกิจในช่วงนั้น

ข้อสรุปเบื้องต้น

ผู้ที่ลงทะเบียนผ่านแอปฯ “ทางรัฐ” จะมีสิทธิ์ได้รับเงินดิจิทัลเฟส 2 ทุกคน แต่ยังคงต้องรอการประกาศวันที่แน่นอนและรายละเอียดเพิ่มเติมจากรัฐบาล

ลงทะเบียนเงินดิจิตอล เริ่ม 1 สิงหาคม 2567

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง แถลงข่าวเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2567 เกี่ยวกับ โครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต

แถลงการณ์จากกระทรวงการคลัง

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง แถลงข่าวเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2567 ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล เกี่ยวกับ โครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต โดยมีข้อมูลสำคัญดังนี้

การลงทะเบียนเงินดิจิตอล

  • เริ่มลงทะเบียน: 1 สิงหาคม – 15 กันยายน 2567
  • วิธีการลงทะเบียน: ผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้จาก App Store สำหรับ iOS และ Google Play สำหรับ Android
  • คุณสมบัติผู้รับสิทธิ์:
    • สัญชาติไทย
    • มีอายุ 16 ปีขึ้นไป ณ วันที่ 15 กันยายน 2567
    • รายได้ไม่เกิน 840,000 บาทต่อปีภาษี 2566
    • เงินฝากรวมไม่เกิน 500,000 บาท ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567
    • ไม่เป็นผู้ต้องโทษจำคุกหรือถูกระงับสิทธิในมาตรการอื่น ๆ ของรัฐ

งบประมาณโครงการเงินดิจิตอล

  • งบประมาณปี 2567: 122,000 ล้านบาทจากงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม และการบริหารจัดการงบประมาณอีก 43,000 ล้านบาท
  • งบประมาณปี 2568: 152,700 ล้านบาทจากกรอบงบประมาณรายจ่าย และการบริหารจัดการงบประมาณอีก 132,300 ล้านบาท
  • รวมทั้งหมด: 4.5 แสนล้านบาท สำหรับประชาชน 45 ล้านคน

การลงทะเบียนร้านค้า

  • เริ่มลงทะเบียน: 1 ตุลาคม 2567
  • รายละเอียดเพิ่มเติม: จะมีการแถลงข่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณสมบัติและวิธีการสมัคร

การแจกเงิน

  • เริ่มใช้จ่าย: ไตรมาส 4 ของปี 2567
  • เงื่อนไขการใช้จ่าย: ประชาชนสามารถใช้จ่ายกับร้านค้าขนาดเล็กและร้านสะดวกซื้อในเขตอำเภอที่ตนเองมีทะเบียนบ้านอยู่ โดยต้องซื้อขายแบบพบหน้า (Face to Face)

ข้อมูลเพิ่มเติม

  • เว็บไซต์โครงการ: www.digitalwallet.go.th
  • สอบถามข้อมูล: ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน (Call Center) สายด่วน โทร. 1111

นายจุลพันธ์ได้ย้ำว่า ประชาชนที่สนใจควรดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” และทำการยืนยันตัวตนล่วงหน้า เพื่อให้การลงทะเบียนเป็นไปอย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย.