นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้บรรยายในหัวข้อ “ศาลรัฐธรรมนูญกับการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน” ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี
เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2567 นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้บรรยายในหัวข้อ “ศาลรัฐธรรมนูญกับการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน” ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี
โดยในระหว่างการบรรยายนายอุดมได้กล่าวถึง คำวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล โดยระบุว่า การยุบพรรคทำให้พรรคประชาชนได้รับเงินบริจาคจำนวนมากถึง 20-30 ล้านบาท ในช่วงสองวันแรกหลังจากพรรคถูกยุบพรรค
นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม โดนกระแสในโลกออนไลน์ว่าเป็นการพูดที่ไม่เหมาะสม ในการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 5 ต่อ 4 เสียง วินิจฉัยให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลง เนื่องจากการแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2567 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 5 ต่อ 4 เสียง วินิจฉัยให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลง เนื่องจากการแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งที่รู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่านายพิชิตขาดคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ ส่งผลให้นายเศรษฐาต้องพ้นจากตำแหน่งทันที และคณะรัฐมนตรีทั้งคณะต้องพ้นจากตำแหน่งด้วยเช่นกัน
หลังคำวินิจฉัยของศาล แฮชแท็ก #เศรษฐาทวีสิน และ #ศาลรัฐธรรมนูญ ได้พุ่งขึ้นติดเทรนด์ฮิตอันดับ 1 และ 2 ในประเทศไทย ตามลำดับ โดยประชาชนต่างแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับอนาคตของการเมืองไทย และจับตาดูว่าใครจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่นายเศรษฐาได้ริเริ่มว่าจะถูกยกเลิกหรือไม่
จากสถานการณ์นี้ คณะรัฐมนตรีรักษาการ ซึ่งนำโดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีคนที่ 1 มีทางเลือก 2 ทาง
ปัจจุบันมี 7 รายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่อยู่ในบัญชีของพรรคการเมือง ซึ่งประกอบด้วย
อีกหนึ่งประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างมากคือชะตากรรมของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งเป็นโครงการที่นายเศรษฐาได้ริเริ่มขึ้น หลายคนกังวลว่าโครงการนี้อาจถูกยกเลิกหรือหยุดชะงักภายหลังการเปลี่ยนแปลงนายกรัฐมนตรี
ในช่วงเวลานี้ สังคมต่างจับตาดูการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของประเทศไทยอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่และการดำเนินนโยบายสำคัญต่าง ๆ ที่จะมีผลกระทบต่ออนาคตของประเทศ
ศาลรัฐธรรมนูญได้มีมติ 5 ต่อ 4 เสียง วินิจฉัยให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลง
วันนี้ (14 ส.ค. 2567) ศาลรัฐธรรมนูญได้มีมติ 5 ต่อ 4 เสียง วินิจฉัยให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลง เนื่องจากการแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยศาลเห็นว่านายเศรษฐาทราบหรือควรรู้อยู่แล้วว่านายพิชิต ขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ แต่ยังคงนำความกราบบังคมทูลเพื่อโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ถือเป็นการปฏิบัติที่มิชอบตามรัฐธรรมนูญ และฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง
สมาชิกวุฒิสภาจำนวน 40 คนได้ยื่นคำร้องต่อประธานวุฒิสภาให้ส่งเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่าการแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน ซึ่งเคยถูกศาลฎีกามีคำสั่งจำคุก 6 เดือนในคดีละเมิดอำนาจศาล และถูกมองว่าเป็นบุคคลที่กระทำการอันไม่ซื่อสัตย์สุจริต ส่งผลให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนายพิชิต ชื่นบาน สิ้นสุดลง
จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนี้ ส่งผลให้คณะรัฐมนตรีของนายเศรษฐาทั้งคณะพ้นจากตำแหน่ง ถือเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญในประวัติศาสตร์การเมืองไทย คำวินิจฉัยนี้ยังชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการปฏิบัติหน้าที่อย่างซื่อสัตย์สุจริตและเป็นที่ประจักษ์ตามมาตรฐานจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
กรณีนี้สืบเนื่องมาจากการแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีการตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับคุณสมบัติและพฤติกรรมในอดีตของนายพิชิต ทั้งนี้ รัฐบาลได้สอบถามไปยังสำนักงานกฤษฎีกาและได้รับคำยืนยันว่าสามารถแต่งตั้งได้ แต่ในท้ายที่สุด ศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่าการแต่งตั้งดังกล่าวเป็นการขาดความซื่อสัตย์สุจริตและไม่เหมาะสม
เหตุการณ์นี้เป็นการตอกย้ำถึงความสำคัญของการพิจารณาคุณสมบัติและจริยธรรมของบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และความรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรีในการตัดสินใจแต่งตั้งบุคคลในคณะรัฐมนตรี
ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ 9-0 เสียง สั่งยุบพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นหมุดหมายสำคัญในประวัติศาสตร์การเมืองไทย
ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ 9-0 เสียง สั่งยุบพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นหมุดหมายสำคัญในประวัติศาสตร์การเมืองไทย การตัดสินครั้งนี้เป็นผลมาจากคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่มีมติเอกฉันท์เสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคและตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 10 ปี
ศาลรัฐธรรมนูญสั่งเพิกถอนสิทธิ์ของกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลที่ดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2564 – 31 มกราคม 2567 ซึ่งรวมถึงกรรมการบริหารพรรคทั้งสองยุค โดยเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ศาลมีคำสั่ง
ล่าสุด สถานทูตสหรัฐและสถานกงสุลในประเทศไทยได้เผยแพร่แถลงการณ์โดยโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แมทธิว มิลเลอร์ เกี่ยวกับการยุบพรรคก้าวไกล ระบุว่า
“สหรัฐอเมริกามีความกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไทยในวันนี้ ซึ่งมีคำสั่งยุบพรรคก้าวไกลและตัดสิทธิทางการเมืองของแกนนำพรรค 11 คน”
การยุบพรรคก้าวไกล และการตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลเป็นการกระทำที่มีผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อการเมืองไทย และได้ก่อให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ทั้งภายในประเทศและจากนานาชาติ
