หญิงวัย 38 รับสารภาพ กรณีอ้างท้องทิพย์ แต่ลูกหาย ในที่สุดไม่ใช่เรื่องจริง

ล่าสุดมีข้อสรุปจากการตรวจสอบของกระทรวงสาธารณสุขว่า หญิงคนดังกล่าวไม่ได้ตั้งครรภ์จริง หรือท้องทิพย์

กรณีที่หญิงวัย 38 ปี อ้างว่าตั้งครรภ์และฝากท้องที่โรงพยาบาลปทุมธานี ก่อนเกิดเหตุการณ์เด็กในครรภ์หายไปอย่างไร้คำอธิบาย ล่าสุดมีข้อสรุปจากการตรวจสอบของกระทรวงสาธารณสุขว่า หญิงคนดังกล่าวไม่ได้ตั้งครรภ์จริง หรือท้องทิพย์

ข้อเท็จจริงจากการตรวจสอบทางการแพทย์

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานีเปิดเผยว่า หญิงคนดังกล่าวเข้ารับบริการที่โรงพยาบาล 15 ครั้ง แต่มีเพียง 4 ครั้งที่อ้างว่ามาฝากครรภ์ โดยเมื่อ ตรวจสอบ OPD การ์ด พบว่า มีเพียงครั้งเดียวที่พบแพทย์จริง เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2567 แต่เป็นเพียงการรักษาอาการปวดเมื่อย คลื่นไส้ อาเจียน ไม่ใช่การฝากครรภ์

การตรวจครรภ์ที่แท้จริงเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2568 หลังพบว่าประจำเดือนขาด 2 เดือน ซึ่งหมายความว่าการตั้งครรภ์เพิ่งเริ่มขึ้น ไม่ใช่ระยะเวลา 9 เดือนตามที่อ้าง

คำให้การขัดแย้งของผู้กล่าวหา

ระหว่างแถลงข่าว เจ้าหน้าที่ให้หญิงคนดังกล่าวชี้ตัวสูตินารีแพทย์ที่อ้างว่าตรวจครรภ์ให้ แต่เธอกลับระบุว่า ไม่มีแพทย์คนดังกล่าวในห้อง อย่างไรก็ตาม มีสูตินารีแพทย์รายหนึ่งยืนยันว่า ตนเป็นผู้ตรวจครรภ์ให้เมื่อเดือนมกราคม 2568 ซึ่งขัดแย้งกับคำกล่าวอ้างที่ว่าตั้งครรภ์มาแล้ว 9 เดือน

หญิงวัย 38 รับสารภาพ ท้องทิพย์

ล่าสุด นางกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ได้พูดคุยกับหญิงคนดังกล่าวเป็นการส่วนตัว โดยแจ้งให้เธอทราบว่าเรื่องที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของกระทรวงและสร้างความวุ่นวายต่อรัฐ จนในที่สุด หญิงคนดังกล่าวยอมรับว่าไม่ได้ตั้งครรภ์จริง

อย่างไรก็ตาม เธอปฏิเสธที่จะเปิดเผยเหตุผลที่ทำไป

ผลกระทบจากเหตุการณ์ท้องทิพย์

กรณีนี้สร้างความเข้าใจผิดอย่างมากต่อสังคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอาจต้องพิจารณาดำเนินคดีในข้อหาที่เกี่ยวข้องต่อไป ขณะเดียวกัน ทางโรงพยาบาลปทุมธานีและกระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่าจะใช้กรณีนี้เป็นบทเรียนในการจัดการกับข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง เพื่อป้องกันการเกิดเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันในอนาคต