ผลบอล ชิงแชมป์อาเซียน รอบชิงชนะเลิศ ไทย พบ ออสเตรเลีย

การแข่งขันฟุตบอล ชิงแชมป์อาเซียน รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง ทีมชาติไทย พบกับ ทีมชาติออสเตรเลีย ที่สนาม มานาฮาน สเตเดียม ประเทศอินโดนีเซีย

การแข่งขันฟุตบอล ชิงแชมป์อาเซียน รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง ทีมชาติไทย พบกับ ทีมชาติออสเตรเลีย ที่สนาม มานาฮาน สเตเดียม ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันพุธที่ 3 กรกฎาคม 2567 จบลงด้วยผลเสมอ 1-1 และออสเตรเลียชนะการดวลจุดโทษ 9-8 คว้าแชมป์ไปครอง

สรุปการแข่งขัน ไทย พบ ออสเตรเลีย

  • นาทีที่ 33
    ไทยขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่แนวรับออสเตรเลียพลาด และเป็น ปรเมศ ละอองดี ที่ฉกบอลไปยิงให้ไทยขึ้นนำ
  • ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 45+3
    ออสเตรเลียตีเสมอ 1-1 จากจังหวะยิงไกลของ ควินน์ แม็คนิโคล

ครึ่งหลังไม่มีประตูเพิ่มเติม จบเกมเสมอกัน 1-1 ต้องตัดสินแชมป์ด้วยการยิงจุดโทษ ผลปรากฏว่าออสเตรเลียยิงแม่นยำกว่า ชนะไปด้วยสกอร์รวม 9-8 คว้าแชมป์อาเซียนรุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี ไปครอง

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม ไทย พบ ออสเตรเลีย

  • ทีมชาติไทย U16 (4-3-3)
    ศุภกร พูลผล (GK), ภูริพันธ์ โพธิ์ทอง, ภูริณัฐ พูลกำลัง, ศุภวิชญ์ ผสม, ดนุพล บุบผา (C), ณัฐกิตติ์ โพธิ์ศรี, ชัยวัฒน์ เงินมา, ปรเมศ ละอองดี, สรกฤช แก้วศรี, ศิวกร พลสรรค์, คณพศ อินทะสิงห์
  • ทีมชาติออสเตรเลีย U16
    รายชื่อผู้เล่นไม่มีระบุในบทความ

การวิเคราะห์บอลไทย พบ ออสเตรเลีย

ทีมชาติไทย U16

  • จุดแข็ง: การเล่นที่มีความสามารถในการใช้จังหวะผิดพลาดของคู่แข่งเพื่อทำประตู การเล่นที่มีความมุ่งมั่นและมีการสร้างโอกาสในการทำประตูจากจังหวะโต้กลับ
  • จุดอ่อน: การป้องกันในช่วงทดเวลาเจ็บที่ทำให้เสียประตูตีเสมอ ความสามารถในการควบคุมเกมในช่วงเวลาที่สำคัญและการยืนเกมรับที่ต้องปรับปรุง

ทีมชาติออสเตรเลีย U16

  • จุดแข็ง: ความสามารถในการยิงไกลและการใช้โอกาสในการทำประตูที่มีความแม่นยำ การเล่นที่มีความมุ่งมั่นและการไม่ยอมแพ้จนถึงช่วงท้ายเกม
  • จุดอ่อน: การเสียบอลในจังหวะสำคัญและการป้องกันที่ยังไม่แน่นอน

สรุป
การแข่งขันนี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถและความมุ่งมั่นของทั้งสองทีม ทีมชาติไทยมีการเล่นที่ดีแต่ต้องปรับปรุงในการยืนเกมรับในช่วงท้ายเกม ส่วนออสเตรเลียมีความแข็งแกร่งในการเล่นจนถึงนาทีสุดท้ายและความสามารถในการยิงจุดโทษที่ยอดเยี่ยม ส่งผลให้พวกเขาคว้าแชมป์ไปครอง

สำหรับทีมชาติไทย U16 จะเดินทางกลับประเทศไทยและเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี รอบคัดเลือก ที่จังหวัดชลบุรี ในช่วงระหว่างวันที่ 23-27 ตุลาคม 2567 โดยไทยอยู่ร่วมสายกับ อินเดีย, บรูไน และ เติร์กเมนิกสถาน

ที่ประชุม ก.ตร. มีมติเห็นชอบ บิ๊กโจ๊ก ออกจากราชการ

ในวันที่ 20 มิถุนายน 2567 ที่ประชุม ก.ตร. มีมติเห็นชอบตามมติของคณะอนุกรรมการ ก.ตร. วินัย ว่าคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ “บิ๊กโจ๊ก” ออกจากราชการ เป็นไปตามกฎหมาย

ในวันที่ 20 มิถุนายน 2567 ที่ประชุม ก.ตร. มีมติเห็นชอบตามมติของคณะอนุกรรมการ ก.ตร. วินัย ว่าคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือบิ๊กโจ๊กออกจากราชการ เป็นไปตามกฎหมาย

ผู้บัญชาการสำนักงาน ก.ตร. ชี้แจงว่าคำสั่งที่เกี่ยวข้องสองฉบับคือ คำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน และคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจออกจากราชการไว้ก่อน เป็นไปตามหลักเกณฑ์ในพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 โดย ก.ตร. ได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบโดยไม่มีผู้คัดค้าน

พร้อมยังกล่าวว่าการพิจารณายกเลิกหรือเพิกถอนคำสั่งดังกล่าวอยู่ในอำนาจของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) โดยผู้ร้องได้ใช้สิทธิ์ตามกฎหมายเรียบร้อยแล้ว และให้รอการพิจารณาของ ก.พ.ค.ตร. ต่อไป ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาพิจารณาประมาณ 120 วัน

วุฒิสภาเห็นชอบ พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ยกระดับสิทธิเท่าเทียมสำหรับทุกเพศ

“กฎหมายสมรสเท่าเทียม” เมื่อเวลา 14:51 ที่ประชุมวุฒิสภาได้ลงมติเห็นชอบใน พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม โดยมีผู้ร่วมลงมติจำนวน 152 คน เห็นชอบ 130 เสียง ไม่เห็นชอบ 4 เสียง

วันนี้ (18 มิถุนายน) ที่ประชุมวุฒิสภาสมัยวิสามัญครั้งที่ 1 มีวาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่…) พ.ศ…. หรือ “กฎหมายสมรสเท่าเทียม” เมื่อเวลา 14:51 ที่ประชุมวุฒิสภาได้ลงมติเห็นชอบใน พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม โดยมีผู้ร่วมลงมติจำนวน 152 คน เห็นชอบ 130 เสียง ไม่เห็นชอบ 4 เสียง งดออกเสียง 18 เสียง

เนื้อหาหลักของกฎหมายสมรสเท่าเทียม

  1. สถานะทางกฎหมายของคู่สมรส: คู่สมรสจะมีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมายเช่นเดียวกัน
  2. อายุการสมรส: กำหนดให้อายุการสมรสเป็น 18 ปี จากเดิม 17 ปี
  3. คำว่า “ชาย” และ “หญิง”: ถูกแทนที่ด้วย “บุคคล” และ “ผู้หมั้น”
  4. การครอบคลุมบุคคลทุกเพศ: การสมรสหรือแต่งงานครอบคลุมบุคคลทุกเพศ ไม่จำกัดเฉพาะเพศชายและเพศหญิง

ขั้นตอนต่อไป สมรสเท่าเทียม

นายกรัฐมนตรีจะนำร่างกฎหมายขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตและจะมีการบังคับใช้ภายใน 120 วันหลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา

ความสำคัญของกฎหมายนี้

การผ่านร่างกฎหมายในวันนี้ทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่ 3 ในเอเชีย (รองจากไต้หวันและเนปาล) และเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม และนับเป็นประเทศที่ 38 ของโลกที่มีกฎหมายสมรสเท่าเทียม ถือเป็นบทสรุปการต่อสู้กว่าสิบปีที่น่ายินดีอย่างยิ่ง

สรุปข่าว ลัทธิถวายตัวเพชรบูรณ์

เธอและแฟนหนุ่มถูกหลอกเข้าลัทธิถวายตัว โดนบังคับให้มีเพศสัมพันธ์กับพระและเซ็กซ์หมู่กับลูกศิษย์ อ้างว่าเป็นการบรรลุธรรมขั้นสูงสุด

เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2567 หญิงสาววัย 38 ปี ได้เข้าร้องเรียนกับเพจสายไหมต้องรอดว่า เธอและแฟนหนุ่มถูกหลอกเข้าลัทธิถวายตัว โดนบังคับให้มีเพศสัมพันธ์กับพระและเซ็กซ์หมู่กับลูกศิษย์ อ้างว่าเป็นการบรรลุธรรมขั้นสูงสุด

เรื่องราวเริ่มจากหญิงสาวและสามีเดินทางไปที่สำนักสงฆ์ในจังหวัดเพชรบูรณ์ พบกับพระชื่อดังที่อ้างว่าครอบครัวของเธอกำลังถูกทำของใส่ พระจึงเสนอทำพิธีถอนของ ในช่วงแรก พิธีเป็นไปตามปกติและไม่มีการทำพิธีเชิงเพศสัมพันธ์ หลังทำพิธีเธอรู้สึกว่าชีวิตดีขึ้นจึงศรัทธาพระองค์นี้

แต่ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา พระมักสอนเรื่อง “กาม” โดยอ้างว่าร่างกายเป็นสิ่งมลายดับสูญ ต้องละอัตตาเพื่อบรรลุธรรม พระยังแชร์ภาพลามกอนาจารในกลุ่มแชตและบังคับให้ผู้เสียหายส่งภาพอวัยวะเพศของตนเอง

ในปี 2564 พระสงฆ์เลื่อนขั้นให้เธอและแฟนหนุ่มเป็นระดับธรรมะขั้นสูงสุด อ้างว่าใกล้มรณภาพและต้องการพลังงานเพื่อมีชีวิตรอด จึงเสนอพิธีถวายตัวแก่พระ โดยบังคับให้มีเพศสัมพันธ์กับพระและถ่ายคลิปวิดีโอและภาพ

หลังจากนั้น พระยังให้เธอและแฟนหนุ่มทำพิธีลักษณะนี้ต่อเนื่อง โดยให้มีเพศสัมพันธ์หมู่กับลูกศิษย์ 4-5 ราย อ้างว่าเป็นการบรรลุธรรมขั้นสูง

ในปี 2565 ทั้งคู่เริ่มรู้สึกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ถูกต้องตามหลักพุทธศาสนา จึงตัดสินใจไม่ยุ่งกับสำนักสงฆ์นี้อีก หลังจากนั้นเข้าพบจิตแพทย์เพื่อบำบัดสุขภาพจิต ปัจจุบันจิตใจเริ่มดีขึ้นแล้ว จึงตัดสินใจร้องเรียนกับเพจดังเพื่อเป็นอุทาหรณ์แก่สังคม

ล่าสุด เฟซบุ๊กของสำนักสงฆ์ โพสต์ว่าพระรูปนี้ได้ลาสิกขาแล้ว และสำนักสงฆ์ขอยุติการเป็นที่พักสงฆ์นับจากนี้เป็นต้นไป เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายเพิ่มเติม

ลัทธิถวายตัวเพชรบูรณ์

สรุป ม้วนเดียวจบ เกี่ยวกับ วันเข้าพรรษา

การเข้าพรรษาเริ่มต้นมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าได้บัญญัติให้พระภิกษุสงฆ์อยู่ประจำที่ในช่วงฤดูฝน เพื่อไม่ให้เหยียบย่ำพืชผลและสัตว์เล็กๆ

ประวัติวันเข้าพรรษา

การเข้าพรรษาเริ่มต้นมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าได้บัญญัติให้พระภิกษุสงฆ์อยู่ประจำที่ในช่วงฤดูฝน เพื่อไม่ให้เหยียบย่ำพืชผลและสัตว์เล็กๆ ที่ออกมาหาอาหารในช่วงนี้ การเข้าพรรษายังเป็นช่วงเวลาที่พระสงฆ์ได้มีโอกาสศึกษาธรรมะและปฏิบัติธรรมอย่างเข้มงวด

ความหมายของวันเข้าพรรษา

วันเข้าพรรษาเป็นวันที่พระภิกษุสงฆ์จะอยู่ประจำวัด ไม่ออกไปค้างคืนที่อื่นเป็นระยะเวลา 3 เดือน ในช่วงฤดูฝน โดยเริ่มต้นตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ไปจนถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 การเข้าพรรษานี้เป็นประเพณีที่สืบทอดมาจากสมัยพุทธกาล เพื่อป้องกันการเหยียบย่ำพืชผลและสัตว์เล็กๆ ในช่วงฤดูฝน

วันเข้าพรรษา ทำอะไรบ้าง

  1. การทำบุญตักบาตร: พุทธศาสนิกชนจะนำข้าวสาร อาหารแห้ง และของใช้ที่จำเป็นไปถวายพระสงฆ์
  2. การฟังธรรม: เข้าร่วมฟังพระธรรมเทศนาเพื่อเสริมสร้างศรัทธาและปัญญา
  3. การถวายเทียนพรรษา: เพื่อให้แสงสว่างในการศึกษาธรรมและการปฏิบัติธรรมของพระสงฆ์
  4. การปฏิบัติธรรม: การรักษาศีล ปฏิบัติธรรม และการสวดมนต์
  5. การงดเว้นอบายมุข: เช่น งดดื่มสุรา งดการเล่นพนัน

หลักธรรมวันเข้าพรรษา

หลักธรรมที่สำคัญใน วันเข้าพรรษา ได้แก่

  1. ความอดทน (ขันติ): อดทนต่อความยากลำบากในช่วงเข้าพรรษา
  2. ความเพียร (วิริยะ): พยายามศึกษาธรรมะและปฏิบัติธรรมอย่างต่อเนื่อง
  3. ความเมตตา (เมตตา): มีเมตตาต่อสัตว์และสิ่งแวดล้อม ไม่เหยียบย่ำหรือทำลาย
  4. การรักษาศีล (ศีล): ปฏิบัติตามศีลและข้อปฏิบัติที่พระพุทธเจ้าได้บัญญัติไว้

กรีกโยเกิร์ต กับ โยเกิร์ต แตกต่างกันอย่างไร มีประโยชน์อย่างไร

กรีกโยเกิร์ต และ โยเกิร์ต ธรรมดามีคุณค่าทางโภชนาการที่ดีทั้งคู่ แต่กรีกโยเกิร์ตจะมีปริมาณโปรตีนสูงและน้ำตาลต่ำกว่า

กรีกโยเกิร์ต และ โยเกิร์ต ธรรมดามีคุณค่าทางโภชนาการที่ดีทั้งคู่ แต่กรีกโยเกิร์ตจะมีปริมาณโปรตีนสูงและน้ำตาลต่ำกว่า ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ต้องการโปรตีนมากขึ้นหรือต้องการควบคุมน้ำตาลในอาหาร

กรีกโยเกิร์ต และโยเกิร์ตธรรมดาแตกต่างกัน ดังนี้

1. กระบวนการผลิต

  • โยเกิร์ตธรรมดา: ผลิตโดยการหมักนมด้วยเชื้อแบคทีเรียจนเกิดเป็นเนื้อโยเกิร์ต จากนั้นผ่านกระบวนการกรองเบื้องต้น
  • กรีกโยเกิร์ต: ผลิตเหมือนโยเกิร์ตธรรมดา แต่จะผ่านการกรองซ้ำอีกหลายครั้งเพื่อเอาน้ำเวย์ออก ทำให้เนื้อโยเกิร์ตมีความหนาและเข้มข้นกว่า

2. เนื้อสัมผัสและรสชาติ

  • โยเกิร์ตธรรมดา: เนื้อสัมผัสจะนุ่มและค่อนข้างเหลว รสชาติมักจะหวานและเปรี้ยวเบาๆ
  • กรีกโยเกิร์ต: เนื้อสัมผัสจะหนาและครีมมี่มากกว่า รสชาติจะเข้มข้นและมีความเปรี้ยวมากกว่า

3. สารอาหาร

  • โปรตีน: กรีกโยเกิร์ตมีปริมาณโปรตีนสูงกว่าโยเกิร์ตธรรมดา เพราะผ่านการกรองน้ำเวย์ออก
  • คาร์โบไฮเดรต: กรีกโยเกิร์ตมีปริมาณคาร์โบไฮเดรตต่ำกว่า เนื่องจากการกรองน้ำเวย์ซึ่งมีน้ำตาลแลคโตสออกไป
  • ไขมัน: ขึ้นอยู่กับชนิดของนมที่ใช้ทำโยเกิร์ต หากใช้นมพร่องมันเนยจะมีปริมาณไขมันต่ำ

4. ประโยชน์ต่อสุขภาพ

  • โปรตีนสูง: กรีกโยเกิร์ตมีปริมาณโปรตีนสูง ซึ่งเป็นประโยชน์ในการสร้างกล้ามเนื้อและซ่อมแซมเซลล์
  • น้ำตาลต่ำ: เนื่องจากการกรองน้ำเวย์ออก ทำให้กรีกโยเกิร์ตมีปริมาณน้ำตาลต่ำกว่าโยเกิร์ตธรรมดา

5. การใช้งาน

  • โยเกิร์ตธรรมดา: มักนิยมใช้ในการทำสมูทตี้ หรือกินคู่กับผลไม้และซีเรียล
  • กรีกโยเกิร์ต: ใช้เป็นฐานสำหรับทำดิป ซอส หรือแม้กระทั่งใช้แทนมายองเนสในบางเมนูเนื่องจากเนื้อสัมผัสที่หนาและครีมมี่

ประโยชน์ของกรีกโยเกิร์ต

กรีกโยเกิร์ตมีประโยชน์มากมายที่ดีต่อสุขภาพดังนี้

1. โปรตีนสูง

  • สร้างและซ่อมแซมกล้ามเนื้อ: โปรตีนในกรีกโยเกิร์ตช่วยสร้างและซ่อมแซมกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ออกกำลังกายหรือคนที่ต้องการเพิ่มกล้ามเนื้อ
  • ช่วยอิ่มนาน: การบริโภคโปรตีนสูงช่วยให้อิ่มนาน ลดความหิวระหว่างมื้ออาหาร

2. น้ำตาลต่ำ

  • ควบคุมน้ำหนัก: เนื่องจากกรีกโยเกิร์ตมีน้ำตาลต่ำ จึงเหมาะสำหรับคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนักหรือลดน้ำหนัก
  • ลดความเสี่ยงโรคเบาหวาน: การบริโภคน้ำตาลน้อยช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวาน

3. แคลเซียมสูง

  • บำรุงกระดูกและฟัน: กรีกโยเกิร์ตเป็นแหล่งของแคลเซียมที่ดี ช่วยในการบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง
  • ป้องกันโรคกระดูกพรุน: การบริโภคแคลเซียมเพียงพอช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนในผู้สูงอายุ

4. โปรไบโอติกส์

  • ส่งเสริมการทำงานของระบบย่อยอาหาร: กรีกโยเกิร์ตมีโปรไบโอติกส์ ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่ดี ช่วยในการย่อยอาหารและการดูดซึมสารอาหาร
  • เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน: โปรไบโอติกส์ยังช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ

5. ไขมันต่ำ (ในบางชนิด)

  • ดีต่อสุขภาพหัวใจ: การบริโภคไขมันต่ำช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด
  • ควบคุมน้ำหนัก: การเลือกกรีกโยเกิร์ตที่ไขมันต่ำเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก

6. วิตามินและแร่ธาตุ

  • วิตามินบี12: ช่วยในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงและบำรุงระบบประสาท
  • โพแทสเซียม: ช่วยในการควบคุมความดันโลหิตและสมดุลของเหลวในร่างกาย

การบริโภค กรีกโยเกิร์ต เป็นประจำสามารถช่วยเสริมสร้างสุขภาพที่ดีได้หลายด้าน ทั้งด้านโภชนาการและการเสริมสร้างระบบต่างๆ ของร่างกาย

ส่องแคปชั่นทะเล เอาใจคนโสด แบบเสี่ยวๆ หรือแบบน่ารัก เรามีหมด

การถ่ายภาพทะเลเป็นสิ่งที่หลายคนชื่นชอบ และการเพิ่ม แคปชั่นทะเล ให้กับภาพถ่ายเหล่านั้นก็ช่วยเพิ่มความน่าสนใจและสื่อถึงอารมณ์ในช่วงเวลานั้นได้มากขึ้น

ทะเลเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความงดงามและความสงบ เมื่อเราได้เดินทางไปเยือน ไม่ว่าจะเป็นเสียงคลื่นที่ซัดเข้าฝั่ง สายลมที่พัดเย็นสบาย หรือภาพพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม ทุกสิ่งเหล่านี้รวมกันทำให้ทะเลเป็นสถานที่ที่พิเศษและเต็มไปด้วยความทรงจำ การถ่ายภาพทะเลเป็นสิ่งที่หลายคนชื่นชอบ และการเพิ่ม แคปชั่นทะเล ให้กับภาพถ่ายเหล่านั้นก็ช่วยเพิ่มความน่าสนใจและสื่อถึงอารมณ์ในช่วงเวลานั้นได้มากขึ้น ในบทความนี้ เราจะมาแชร์แคปชั่นทะเลหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นแคปชั่นเสี่ยวๆ น่ารักๆ หรือแบบตลกๆ หวังว่าแคปชั่นเหล่านี้จะช่วยเติมเต็มความทรงจำและทำให้คุณสนุกกับการแชร์ประสบการณ์ที่ทะเลมากขึ้น

แคปชั่นทะเลคนโสด

  1. ทะเลยังมีคลื่น แต่คนโสดอย่างฉันไม่มีใคร
  2. มาทะเลแล้วเหงา เพราะไม่มีเขามาด้วย
  3. ทะเลยังสวย แต่คนโสดอย่างฉันก็สวยไม่แพ้กัน
  4. ทะเลยังมีทราย แล้วเมื่อไหร่ใจฉันจะมีเธอ
  5. มาทะเลกับเพื่อน แต่ใจอยากไปกับแฟน
  6. ทะเลที่กว้างใหญ่ ยังไม่เหงาเท่าใจฉันที่โสด
  7. มาทะเลแล้วใจเซ เพราะไม่มีใครมาเคียงข้าง
  8. ทะเลยังไม่เค็มเท่าใจที่โสด
  9. มาทะเลแล้วได้คลื่น แต่ยังไม่ได้คนมาคลายเหงา
  10. ทะเลยังมีน้ำ แต่ใจฉันยังไม่มีเธอ

แคปชั่นทะเลเสี่ยวๆ

  1. ทะเลยังมีคลื่น แล้วเมื่อไหร่ใจฉันจะมีเธอ
  2. ไปทะเลไม่เหงา เพราะมีเงาคู่ใจ
  3. ทะเลยังไม่เค็มเท่าใจที่คิดถึงเธอ
  4. อยากให้เธอเป็นทะเล เพราะเธอทำให้ใจเราเซทุกที
  5. คลื่นทะเลยังสู้คลื่นในใจฉันไม่ได้
  6. ทะเลยังมีทราย แล้วเมื่อไหร่ใจจะมีเธอ
  7. คลื่นยังไหลไปที่ฝั่ง เหมือนใจฉันที่ไหลไปหาเธอ
  8. ทะเลกับเธอ เหมือนกันตรงที่ทำให้ใจเราเซ
  9. เธอเหมือนทะเล ทำให้ใจฉันซัดเซ
  10. มองทะเลแล้วเหงา เพราะไม่มีเธอมาอยู่ข้างๆ

แคปชั่นทะเลน่ารักๆ

  1. ทะเลแสนสวย แต่ยังไม่สวยเท่าเธอ
  2. ไปทะเลต้องใส่บิกินี่ แต่ถ้าอยากได้คนดีๆ ต้องใส่ใจ
  3. ชีวิตต้องมีทะเล และต้องมีเธอ
  4. ไปทะเลไม่ได้ต้องการแค่พักผ่อน แต่อยากพักใจด้วย
  5. ทะเลกับเธอ เหมือนกันตรงที่ทำให้ใจฉันหวั่นไหว
  6. หลงรักทะเลแล้วไง ยังไงก็ยังรักเธอ
  7. ทะเลมีคลื่น แต่ฉันมีเธอในใจ
  8. ไปทะเลเถอะ จะได้ไม่เหงา
  9. ทะเลจะสวยที่สุด ถ้ามีเธออยู่ด้วย
  10. หัวใจฉันเหมือนทะเล ที่รักเธออย่างไม่มีวันหมด

แคปชั่นทะเลตลกๆ

  1. ไปทะเลเจอหาดทราย แต่ถ้าไปกับเรา เจอหาดใหญ่
  2. ทะเลยังไม่เค็มเท่าใจเธอที่ทิ้งเรา
  3. ไปทะเลเจอปลา แต่ถ้าไปกับเรา เจอหนี้
  4. ทะเลยังมีหาด แล้วเมื่อไหร่เธอจะมีใจ
  5. ทะเลมีคลื่น แล้วเมื่อไหร่ใจเธอจะคลื่นไส้
  6. ไปทะเลทีไร น้ำทะเลก็ไม่ลดเท่ากระเป๋าตังค์เรา
  7. ทะเลยังมีปู แต่ถ้าไปกับเรา เจอหมูปิ้ง
  8. ไปทะเลทั้งที อย่าลืมเอาเธอไปด้วย จะได้ไม่ต้องเหงา
  9. ทะเลสวยดี แต่ไม่ดีเท่าที่เราอยู่ในใจเธอ
  10. ไปทะเลอย่าลืมทาครีมกันแดด แต่ถ้ารักเรามากๆ ไม่ต้องทาครีมกันหนีเลย

อ่านเพิ่มเติม https://www.sanook.com/campus/1404123/

ประวัติ และ ความสำคัญ เทศกาลไหว้บ๊ะจ่าง จากตำนานสู่ประเพณี

เทศกาลไหว้บ๊ะจ่าง หรือที่เรียกกันว่า เทศกาลไหว้ขนมจ้าง (端午节) เป็นเทศกาลสำคัญที่เฉลิมฉลองในประเทศจีน และประเทศอื่นๆ ในเอเชีย

เทศกาลไหว้บ๊ะจ่าง คืออะไร

เทศกาลไหว้บ๊ะจ่าง หรือที่เรียกกันว่า เทศกาลไหว้ขนมจ้าง (端午节) เป็นเทศกาลสำคัญที่เฉลิมฉลองในประเทศจีน และประเทศอื่นๆ ในเอเชีย เช่น ไต้หวัน ฮ่องกง และไทย ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 5 ของเดือน 5 ตามปฏิทินจันทรคติจีน ซึ่งส่วนใหญ่ตรงกับช่วงเดือนพฤษภาคมหรือมิถุนายน

ความสำคัญของเทศกาลไหว้บ๊ะจ่าง

เทศกาลไหว้บ๊ะจ่างมีความสำคัญทั้งในด้านวัฒนธรรมและประเพณี โดยเป็นโอกาสให้ครอบครัวและชุมชนมารวมตัวกัน ทำกิจกรรมต่างๆ เช่น การทำบ๊ะจ่าง (ขนมจ้าง) แข่งเรือมังกร และการไหว้บรรพบุรุษ นอกจากนี้ยังเป็นเทศกาลที่แสดงถึงความเคารพและระลึกถึงบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์จีน

ที่มาของเทศกาลไหว้บ๊ะจ่าง

เทศกาลไหว้บ๊ะจ่างมีที่มาจากตำนานของ “ชวีหยวน” (屈原) นักปราชญ์และกวีที่มีชื่อเสียงในสมัยรัฐจั้นกั๋ว (Warring States Period) ของจีน ชวีหยวนเป็นข้าราชการที่มีความรักและห่วงใยประเทศชาติ แต่เมื่อประเทศถูกศัตรูบุกรุกและตนเองถูกเนรเทศจากราชสำนัก ชวีหยวนจึงตัดสินใจจบชีวิตด้วยการกระโดดแม่น้ำมิโล

เมื่อชาวบ้านทราบข่าวการตายของชวีหยวน พวกเขาพยายามช่วยเหลือด้วยการออกเรือพายไปตามหาศพและโยนข้าวเหนียวห่อด้วยใบไผ่ลงแม่น้ำเพื่อไม่ให้ปลาและสัตว์น้ำกินร่างของชวีหยวน ซึ่งการกระทำนี้ได้กลายมาเป็นประเพณีการทำบ๊ะจ่างในปัจจุบัน

ประเพณีและกิจกรรมในเทศกาลไหว้บ๊ะจ่าง

  1. การทำบ๊ะจ่าง: บ๊ะจ่างหรือขนมจ้างคือข้าวเหนียวที่ห่อด้วยใบไผ่ และมักมีไส้ต่างๆ เช่น หมู เห็ด ถั่วแดง และไข่เค็ม ซึ่งถือเป็นอาหารหลักในเทศกาลนี้
  2. การแข่งเรือมังกร: เป็นกิจกรรมที่นิยมมากในเทศกาลไหว้บ๊ะจ่าง โดยเป็นการแข่งเรือที่มีการประดับตกแต่งเป็นรูปมังกร และมักมีการตีกรับหรือกลองเพื่อสร้างจังหวะและบรรยากาศ
  3. การไหว้บรรพบุรุษ: ในช่วงเทศกาลนี้ ผู้คนจะทำพิธีไหว้บรรพบุรุษเพื่อแสดงความเคารพและระลึกถึงผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว

สรุป

เทศกาลไหว้บ๊ะจ่าง เป็นเทศกาลที่มีความสำคัญทางวัฒนธรรมและประเพณีจีน เป็นการแสดงถึงความเคารพต่อบรรพบุรุษและบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ อีกทั้งยังเป็นโอกาสให้ครอบครัวและชุมชนได้มารวมตัวกันทำกิจกรรมที่มีความสนุกสนานและมีความหมาย

การเฉลิมฉลองเทศกาลนี้ในแต่ละปีไม่เพียงแต่เป็นการรักษาประเพณีและวัฒนธรรม แต่ยังเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวและชุมชนให้แน่นแฟ้นขึ้นอีกด้วย

เกรย์สัน เมอร์เรย์ (Grayson Murray) โปรกอล์ฟชาวอเมริกัน เสียชีวิตแล้ว

เกรย์สัน เมอร์เรย์ (Grayson Murray) โปรกอล์ฟชาวอเมริกันวัย 30 ปี ได้ตัดสินใจจบชีวิตตัวเองเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา

เกรย์สัน เมอร์เรย์ (Grayson Murray) โปรกอล์ฟชาวอเมริกันวัย 30 ปี เสียชีวิตแล้ว เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา

หลังจาก เกรย์สัน เมอร์เรย์ (Grayson Murray)  ถอนตัวจากการแข่งขันชาร์ลส ชวาบ คัพ ชาเลนจ์ไปเพียงวันเดียว ครอบครัวของเขาได้ออกแถลงการณ์ยืนยันสาเหตุการเสียชีวิต

เมอร์เรย์ เคยคว้าชัยชนะในรายการ Sony Open เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา และเขาเผยว่าได้เลิกดื่มแอลกอฮอล์มาแล้วกว่า 8 เดือน นอกจากนี้เขายังมีกำหนดจะแต่งงานในเร็วๆ นี้

ลุค โดนัลด์ อดีตนักกอล์ฟมือ 1 ของโลก และเจย์ โมนาฮัน ผู้บริหาร PGA Tour ได้แสดงความเสียใจและให้กำลังใจแก่ครอบครัวเมอร์เรย์

ขุดพบ โกลเด้นบอย (Golden Boy) 50 ปีก่อน เพชรประดับหายเกลี้ยง

ข่าวล่าสุดจากพิพิธภัณฑ์ศิลปะ The Metropolitan Museum of Art (The MET) รัฐนิวยอร์ค สหรัฐฯ ได้ตัดสินใจส่งคืนโบราณวัตถุสองชิ้นสำคัญให้แก่ประเทศไทย หนึ่งในนั้นคือ โกลเด้นบอย (Golden Boy)

การค้นพบและการส่งคืนโบราณวัตถุที่หายไปนานกว่า 50 ปีเป็นเหตุการณ์ที่สะเทือนใจและน่าภาคภูมิใจในเวลาเดียวกัน ข่าวล่าสุดจากพิพิธภัณฑ์ศิลปะ The Metropolitan Museum of Art (The MET) รัฐนิวยอร์ค สหรัฐฯ ได้ตัดสินใจส่งคืนโบราณวัตถุสองชิ้นสำคัญให้แก่ประเทศไทย หนึ่งในนั้นคือ โกลเด้นบอย (Golden Boy) ประติมากรรมสำริดอะไหล่ทองทั้งองค์ โบราณวัตถุเหล่านี้มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2567 การค้นพบว่าโกลเด้นบอยมีต้นกำเนิดจากหมู่บ้านยางโป่งสะเดา อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ทำให้เกิดความตื่นเต้นและความสนใจในเรื่องราวของการค้นพบนี้

ดร.ทนงศักดิ์ หาญวงษ์ นักวิชาการอิสระด้านโบราณคดี ได้เล่าถึงการสืบค้นโบราณวัตถุนี้ว่าต้องใช้เวลานานกว่า 3 ปี ในการต่อจิ๊กซอว์ข้อมูลจากหนังสือ ขแมร์บอนด์ และ ขแมร์โกลด์ ที่เขียนโดยดักลาส แลตช์ฟอร์ด นายหน้าค้าโบราณวัตถุ ซึ่งได้ระบุชัดเจนว่าโกลเด้นบอยพบที่จังหวัดบุรีรัมย์ โดยมีคำว่า “ละหาน” และ “บ้านยาง” ในพิกัดข้อมูล เมื่อนำทีมสำรวจลงพื้นที่ก็พบกับครอบครัวที่เคยขุดพบโกลเด้นบอย และได้ยืนยันว่ามีการค้นพบโกลเด้นบอยในบริเวณปราสาทบ้านยางโป่งสะเดา

นางนิล อายุ 69 ปี ผู้ขุดพบโกลเด้นบอยได้เล่าเรื่องราวการค้นพบในปี 2517 ขณะที่กำลังขุดมันบริเวณนั้นกับสามี เมื่อพบเห็นท่อนขาดำคล้ำและขุดต่อจนพบพระพุทธรูปโกลเด้นบอย นางนิลได้นำพระพุทธรูปกลับมาที่บ้านและล้างทำความสะอาดจนเห็นแสงพุ่งออกมา นางนิลจึงได้นำไปประกาศขายในกรุงเทพฯ และได้ขายให้กับชาวต่างชาติในราคา 1,200,000 บาท อย่างไรก็ตาม นางนิลได้แสดงความเสียใจที่โกลเด้นบอยในปัจจุบันขาดเพชรประดับต่างๆ ที่เคยมีบนองค์โกลเด้นบอย

การส่งคืนโกลเด้นบอยทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ต่างรู้สึกดีใจและภาคภูมิใจ ชาวบ้านต้องการให้มีการนำโกลเด้นบอยมาแสดงในพื้นที่เพื่อให้คนในท้องถิ่นได้เห็นและกราบไหว้เป็นสิริมงคล อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านก็ยอมรับว่าการเก็บรักษาโกลเด้นบอยในหมู่บ้านอาจไม่ปลอดภัย เนื่องจากมูลค่าที่สูง จึงเห็นสมควรให้เก็บรักษาในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เพื่อให้คนไทยทุกคนได้เห็นและศึกษาต่อไป