ประกาศ เพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวสำหรับข้าราชการและลูกจ้างประจำ

วันที่ 29 สิงหาคม 2567 ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ ระเบียบกระทรวงการคลังใหม่เกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวของข้าราชการและลูกจ้างประจำ ของส่วนราชการ โดยมีรายละเอียดที่สำคัญดังนี้

วันที่ 29 สิงหาคม 2567 ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ ระเบียบกระทรวงการคลังใหม่เกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวของข้าราชการและลูกจ้างประจำ ของส่วนราชการ โดยมีรายละเอียดที่สำคัญดังนี้

การปรับเพดานเงินเดือนและค่าจ้าง

  • เงินเดือนหรือค่าจ้างไม่ถึงเดือนละ 14,600 บาท: ข้าราชการและลูกจ้างประจำที่มีเงินเดือนไม่ถึงจำนวนนี้จะได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวเดือนละ 2,000 บาท แต่เมื่อรวมเงินเดือนหรือค่าจ้างแล้วจะต้องไม่เกินเดือนละ 14,600 บาท
  • กรณีที่เงินเดือนไม่ถึงเดือนละ 11,000 บาท: หากข้าราชการหรือลูกจ้างประจำมีรายได้รวมไม่ถึงเดือนละ 11,000 บาท จะได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวเพิ่มเติมเพื่อให้รายได้รวมถึงเดือนละ 11,000 บาท

ลูกจ้างชั่วคราว

  • เงินเดือนไม่ถึงเดือนละ 11,000 บาท: ลูกจ้างชั่วคราวที่มีวุฒิการศึกษาระดับต่ำกว่าปริญญาตรีและมีเงินเดือนไม่ถึงเดือนละ 11,000 บาท จะได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวเพิ่มขึ้นจนถึงเดือนละ 11,000 บาท

ทหารกองประจำการ

  • เงินเดือนรวมกับเบี้ยเลี้ยงไม่ถึงเดือนละ 11,000 บาท: ทหารกองประจำการที่ได้รับเงินเดือนรวมกับเบี้ยเลี้ยงประจำไม่ถึงเดือนละ 11,000 บาท จะได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวเพิ่มเติมตามอัตราที่กระทรวงกลาโหมกำหนด แต่ต้องไม่เกินเดือนละ 11,000 บาท

การปรับโครงสร้างเงินเดือนและค่าจ้างในอนาคต

หากมีการปรับโครงสร้างเงินเดือนของข้าราชการและโครงสร้างค่าจ้างของลูกจ้าง กระทรวงการคลังอาจเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อปรับปรุงหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวให้สอดคล้องกับโครงสร้างที่ปรับใหม่

หมายเหตุ: ระเบียบนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป

ส่องแฟนสาว พาเวล ดูรอฟ ซีอีโอ Telegram

พาเวล ดูรอฟ (Pavel Durov) มหาเศรษฐีชาวรัสเซียและผู้ก่อตั้งแอปพลิเคชันส่งข้อความ Telegram ถูกจับกุมที่สนามบิน Le Bourget ใกล้กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

ข่าวต่างประเทศ การจับกุม พาเวล ดูรอฟ ที่ปารีส

เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2567 พาเวล ดูรอฟ (Pavel Durov) มหาเศรษฐีชาวรัสเซียและผู้ก่อตั้งแอปพลิเคชันส่งข้อความ Telegram ถูกจับกุมที่สนามบิน Le Bourget ใกล้กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยเจ้าหน้าที่สำนักงานต่อต้านการฉ้อโกงของฝรั่งเศส เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะที่เขาเดินทางมาจากอาเซอร์ไบจานด้วยเครื่องบินส่วนตัว

ข้อกล่าวหาที่เผชิญ

นายดูรอฟกำลังเผชิญกับข้อกล่าวหาหลายประการที่ร้ายแรง รวมถึงการสมรู้ร่วมคิดในการแสวงหาประโยชน์จากเด็ก การค้ายาเสพติด และกิจกรรมอาชญากรรมอื่น ๆ โดยสื่อรัสเซียได้รายงานอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับกรณีนี้และพาดหัวข่าวที่ตั้งคำถามถึงแรงจูงใจเบื้องหลังการจับกุม โดยเปรียบเทียบสถานการณ์นี้กับการกล่าวหาผู้นำประเทศว่าต้องรับผิดชอบต่ออาชญากรรมที่เกิดขึ้นในประเทศของตน

การตอบสนองของ Telegram

Telegram ได้ออกแถลงการณ์ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยยืนยันว่าแพลตฟอร์มได้ปฏิบัติตามกฎหมายของสหภาพยุโรปและมาตรการควบคุมเนื้อหา พร้อมทั้งยืนยันว่านายดูรอฟ “ไม่มีอะไรต้องปิดบัง” แถลงการณ์นี้ยังได้วิพากษ์วิจารณ์แนวคิดที่ว่าผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์มควรต้องรับผิดชอบต่อการใช้งานผลิตภัณฑ์ในทางที่ผิดโดยกลุ่มคนที่ไม่ซื่อสัตย์

บทบาทของยูเลีย วาวิโลวา

ยูเลีย วาวิโลวา หญิงสาววัย 24 ปี ซึ่งเดินทางไปกับนายดูรอฟในวันเกิดเหตุ ถูกคาดการณ์ว่าอาจมีบทบาทสำคัญในการจับกุมครั้งนี้ เนื่องจากเธอโพสต์เกี่ยวกับการเดินทางบนโซเชียลมีเดีย ทำให้เกิดการคาดเดาว่าเธออาจบังเอิญหรือจงใจเปิดเผยตำแหน่งของนายดูรอฟ

ผลกระทบและการวิพากษ์วิจารณ์

การจับกุมครั้งนี้ก่อให้เกิดปฏิกิริยาต่าง ๆ ทั้งจากในรัสเซียและในวงการการเมืองระดับโลก โดยนักวิเคราะห์และบุคคลสาธารณะได้วิพากษ์วิจารณ์ว่าการจับกุมนายดูรอฟอาจมีแรงจูงใจทางการเมือง และอาจเป็นการโจมตีต่อเสรีภาพในการพูดและความเป็นส่วนตัว

การดำเนินคดีและการขยายเวลาควบคุมตัว

อัยการกรุงปารีส ได้ขยายเวลาการควบคุมตัวนายดูรอฟจนถึงวันที่ 28 สิงหาคม 2567 เพื่อตรวจสอบข้อกล่าวหาทั้งหมด ซึ่งรวมถึงการไม่ให้ความร่วมมือในการสืบสวนคดีอาชญากรรมทางไซเบอร์และอาชญากรรมทางการเงิน

ผลกระทบต่อรัสเซียและอนาคตของ Telegram

หลายคนกังวลว่าการจับกุมนี้ อาจส่งผลกระทบต่อรัสเซียและอนาคตของ Telegram โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากข้อมูลเชิงลึกของแพลตฟอร์มถูกเข้าถึงโดยหน่วยข่าวกรองของประเทศตะวันตก

อ่านข่าวต่างประเทศเพิ่มเติม https://www.sanook.com/news/world/

ราชตฤณมัยฯ ลุย Entertainment Complex พร้อมแผนกาสิโน

ราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทย หรือที่รู้จักกันในชื่อ “สนามม้านางเลิ้ง” ได้จัดการประชุมใหญ่และเปิดตัวโครงการ “The Royal Siam Haven”

เปิดโครงการ 

เมื่อวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา ราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทย หรือที่รู้จักกันในชื่อ “สนามม้านางเลิ้ง” ได้จัดการประชุมใหญ่และเปิดตัวโครงการ “The Royal Siam Haven” ซึ่งเป็นโครงการ Entertainment Complex ขนาดใหญ่ มูลค่าการลงทุนกว่า 2 แสนล้านบาท

แผนการพัฒนา Entertainment Complex

ดร.อริย์ธัช รัตนศุทธพบูลย์ รองประธานกรรมการอำนวยการและนายสนามราชตฤณมัยสมาคมฯ ได้ยืนยันว่าขณะนี้โครงการอยู่ในขั้นตอนการหาพื้นที่ที่เหมาะสม โดย Entertainment Complex นี้จะมีการบริการความบันเทิงหลากหลายประเภท อาทิ สนามม้า ศูนย์การเรียนรู้ Sport Complex ต่าง ๆ เช่น สนามกอล์ฟ สนามมวย สนามเทนนิส สระว่ายน้ำ รวมถึงโรงแรม 6 ดาว โรงพยาบาล ยอร์ชคลับ ภัตตาคารหรู โรงละคร และกิจกรรมบันเทิงอื่น ๆ โดยมีเป้าหมายให้เป็นสถานบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย

แผนการก่อสร้าง

การก่อสร้างจะถูกแบ่งเป็นเฟส โดยเฟสแรกจะเริ่มจากสนามม้า จากนั้นจะต่อด้วย Sport Complex และโรงแรม 6 ดาว ส่วนเฟสต่อไปจะเป็นสถานบันเทิงต่าง ๆ โดยคาดว่าโครงการทั้งหมดจะใช้เวลา 3-5 ปี และจะเริ่มเห็นโครงการเป็นรูปเป็นร่างในปี 2570 หากไม่มีปัญหาหรืออุปสรรคในการดำเนินการ

แผนกาสิโนในอนาคต

ดร.อริย์ธัช ยังกล่าวถึงข่าวลือเรื่องกาสิโนว่า ปัจจุบันกฎหมายเกี่ยวกับคาสิโนยังไม่ผ่านการเห็นชอบ ดังนั้นโครงการกาสิโนยังไม่สามารถดำเนินการได้ในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม หากกฎหมายผ่านในอนาคต ก็อาจมีการพัฒนาโครงการกาสิโนด้วยเช่นกัน

ความคืบหน้าของกฎหมาย Entertainment Complex

คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบในหลักการตั้งแต่เดือนเมษายน 2567 และได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังศึกษาจัดทำร่างกฎหมายควบคู่กับการตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร เพื่อรับฟังข้อคิดเห็น ปรับปรุงร่าง และเสนอให้คณะรัฐมนตรีต่อไป

สิ้นแล้ว “หลวงปู่ก้ำ กลฺยาณธมฺโม” พระเกจิดังแห่งจังหวัดพะเยา

หลวงปู่ก้ำ กลฺยาณธมฺโม หรือพระราชมงคลวิสุทธิ์ เจ้าอาวาสวัดบุญเกิด อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา ได้มรณภาพไปอย่างสงบในเช้าวันนี้

ความอาลัยของศิษยานุศิษย์และพุทธศาสนิกชน

หลวงปู่ก้ำ กลฺยาณธมฺโม หรือพระราชมงคลวิสุทธิ์ เจ้าอาวาสวัดบุญเกิด อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา ได้มรณภาพไปอย่างสงบในเช้าวันนี้ ส่งผลให้ศิษยานุศิษย์และพุทธศาสนิกชนในพื้นที่ต่างเดินทางมาร่วมไว้อาลัยกันอย่างต่อเนื่อง หลวงปู่ก้ำเป็นที่รู้จักในฐานะพระเกจิที่มีจริยวัฒน์งดงาม และเป็นที่เคารพนับถืออย่างสูงในจังหวัดพะเยา

ประวัติและคุณงามความดีของหลวงปู่ก้ำ

หลวงปู่ก้ำ มีอายุถึง 103 ปี 83 พรรษา เป็นอดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 6 และอดีตเจ้าอาวาสวัดบุญเกิด ท่านเป็นพระสงฆ์ที่เปี่ยมด้วยคุณงามความดี และเก่งในด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย ท่านยังเป็นพระนักการศึกษาและนักพัฒนาที่ได้ส่งเสริมการศึกษาทั้งทางโลกและทางธรรม โดยจัดตั้งโรงเรียนปริยัติธรรมและโรงเรียนระดับอนุบาลจนถึงประถมศึกษาในบริเวณวัด นอกจากนี้ยังมีส่วนในการส่งเสริมการศึกษาของสถานศึกษาแทบทุกแห่งในอำเภอดอกคำใต้

การมรณภาพและการไว้อาลัย

หลวงปู่ก้ำ ได้มรณภาพอย่างสงบหลังจากนอนพักผ่อนในช่วงคืนที่ผ่านมา การจากไปของท่านเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่สำหรับศิษยานุศิษย์และพุทธศาสนิกชนในจังหวัดพะเยา ท่ามกลางความอาลัยที่ยิ่งใหญ่ของผู้คนที่เคารพนับถือท่านเป็นอย่างมาก

อุตุ เตือน ฝนตกหนัก-ลมแรง 26-28 ส.ค. 67 ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนเรื่องฝนตกหนักถึงหนักมากและคลื่นลมแรง โดยมีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 26 – 28 สิงหาคม 2567

ฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลัน

กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนเรื่องฝนตกหนักถึงหนักมากและคลื่นลมแรง โดยมีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 26 – 28 สิงหาคม 2567 ในหลายพื้นที่ของประเทศไทย ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก

สาเหตุของสภาพอากาศแปรปรวน

สภาพอากาศในช่วงนี้เกิดจากร่องมรสุมที่เลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน รวมถึงมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ซึ่งมีกำลังแรงขึ้น นอกจากนี้ยังมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนบนเคลื่อนผ่านภาคเหนือตอนบนและประเทศเมียนมา

คลื่นลมแรงในทะเลอันดามันและอ่าวไทย

ในช่วงวันที่ 27 – 29 สิงหาคม 2567 คาดว่าทะเลอันดามันตอนบนจะมีคลื่นสูง 2 – 3 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นอาจสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และทะเลอันดามันตอนล่างจะมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร สำหรับชาวเรือในบริเวณดังกล่าวควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และควรหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าว

คำแนะนำสำหรับประชาชน

ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยควรระมัดระวังและเตรียมความพร้อมรับมือกับสภาพอากาศที่อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งนี้ควรติดตามข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดเพื่อความปลอดภัย

อ่านข่าวเต็มๆ พยากรณ์อากาศวันนี้

เตือน 10 จังหวัดภาคกลางและกรุงเทพ ระวังน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น

สถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา

นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้รับแจ้งจากกรมชลประทานว่า ในช่วงวันที่ 24 – 30 สิงหาคม 2567 ประเทศไทยจะมีฝนตกต่อเนื่อง โดยเฉพาะในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคกลาง และภาคใต้ ส่งผลให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น

คาดการณ์ระดับน้ำเพิ่มสูง

ในวันที่ 26 สิงหาคม 2567 ที่สถานี C.2 อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ คาดว่าปริมาณน้ำจะไหลผ่านประมาณ 1,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และเมื่อรวมกับน้ำจากลำน้ำสาขาประมาณ 200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะทำให้ปริมาณน้ำที่เหนือเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ที่ประมาณ 1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

เพื่อป้องกันการเกิดน้ำท่วม กรมชลประทานจำเป็นต้องระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราระหว่าง 700 – 900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะทำให้พื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำในจังหวัดอ่างทอง พระนครศรีอยุธยา และบริเวณแม่น้ำน้อย มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีก 0.40 – 0.80 เมตร ตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไป

การเตรียมพร้อมใน 10 จังหวัดภาคกลางและกรุงเทพฯ

กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ประสานงานกับ 10 จังหวัดภาคกลาง ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร ให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ

การประชาสัมพันธ์และการเตรียมพร้อม

ปภ. ได้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงภาคเอกชนที่ประกอบกิจการในแม่น้ำ เช่น งานก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง แพร้านอาหาร และประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ให้เฝ้าระวังระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น และเตรียมพร้อมในการขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง นอกจากนี้ ปภ. ยังได้ประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อตรวจสอบแนวคันกั้นน้ำและเตรียมความพร้อมช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง

คำแนะนำสำหรับประชาชน

ประชาชนควรติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด หากได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยได้ที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” ทุกที่ ทุกเวลา

สทนช. ประกาศเฝ้าระวัง น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่า 35 จังหวัด

ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับการประกาศเตือน ควรเตรียมความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ออกประกาศฉบับที่ 11/2567 เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2567 เรื่องการเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระหว่างวันที่ 24-30 สิงหาคม 2567

การคาดการณ์สภาพอากาศและการเตรียมความพร้อม

สทนช. ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ ซึ่งพบว่าร่องมรสุมพาดผ่านหลายพื้นที่ในประเทศไทย รวมถึงมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังแรงขึ้น ทำให้บางพื้นที่อาจเกิดฝนตกหนัก สทนช. จึงได้ประเมินพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม

พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมในภาคต่างๆ

ภาคเหนือ: จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ 
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร และนครพนม
ภาคตะวันตก: จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์
ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด
ภาคใต้: จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง และสตูล

การเตรียมความพร้อมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  1. ติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำ: หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องติดตามสภาพอากาศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีฝนตกสะสม
  2. ตรวจสอบและซ่อมแซมแนวคันน้ำ: ให้มีการตรวจสอบแนวคันบริเวณริมแม่น้ำและพนังกั้นน้ำ พร้อมเตรียมความพร้อมของเครื่องจักรและเครื่องมือ
  3. เตรียมแผนรับสถานการณ์น้ำหลาก: วางแผนการบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสม พร้อมทั้งปรับการบริหารจัดการน้ำในแหล่งเก็บกักน้ำ
  4. ประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำ: แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงเพื่อเตรียมพร้อมในการอพยพหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน

ข้อแนะนำสำหรับประชาชนในพื้นที่เสี่ยง

ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับการประกาศเตือน ควรเตรียมความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยและสามารถอพยพได้อย่างทันท่วงทีในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน

พยากรณ์อากาศวันนี้ ฝนถล่ม 36 จังหวัด ภาคเหนืออ่วม

กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศพยากรณ์อากาศสำหรับ 24 ชั่วโมงข้างหน้า โดยระบุว่าภาคเหนือตอนบนจะมีฝนตกต่อเนื่องหลายพื้นที่

วันนี้ 22 ส.ค. กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศพยากรณ์อากาศสำหรับ 24 ชั่วโมงข้างหน้า โดยระบุว่าภาคเหนือตอนบนจะมีฝนตกต่อเนื่องหลายพื้นที่ โดยเฉพาะฝนตกหนักถึงหนักมากในบางแห่ง ขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีฝนตกหนักบางพื้นที่

ความเสี่ยงน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

กรมอุตุฯ เตือนประชาชนในบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ที่ตั้งอยู่บริเวณลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่มต่ำ

สาเหตุของฝนตกหนัก

ฝนตกหนักในวันนี้เกิดจากร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของภาคเหนือและประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน นอกจากนี้ยังมีแนวพัดสอบของลมตะวันออกเฉียงใต้และลมตะวันตกเฉียงใต้ในระดับบนที่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย

คำแนะนำสำหรับชาวเรือ

สำหรับบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร แต่บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นอาจสูงมากกว่า 1 เมตร กรมอุตุฯ ขอให้ชาวเรือหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองเพื่อความปลอดภัย

แพร่ เตือน น้ำท่วม อาจเท่าปี 2554 ยกระดับการเฝ้าระวัง

สถานการณ์น้ำท่วม ในจังหวัดแพร่มีแนวโน้มวิกฤต หลังจากเกิดฝนตกหนัก ต่อเนื่องหลายวัน ศูนย์บริหารจัดการน้ำจังหวัดแพร่ ได้ออกประกาศเตือนประชาชน

สถานการณ์น้ำท่วม ในจังหวัดแพร่มีแนวโน้มวิกฤต หลังจากเกิดฝนตกหนัก ต่อเนื่องหลายวัน ศูนย์บริหารจัดการน้ำจังหวัดแพร่ ได้ออกประกาศเตือนประชาชน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2567 โดยระบุว่า ปริมาณน้ำที่ไหลมาจากอำเภอปงและอำเภอเชียงม่วน จังหวัดพะเยา มีมากถึง 1,390 ลบ.ม. ต่อวินาที ผ่านสถานีห้วยสัก ตำบลสะเอียบ ทำให้มีโอกาสเกิดน้ำท่วมในระดับเดียวกับปี 2554

แม่น้ำยมเพิ่มระดับต่อเนื่อง บางสถานีเริ่มล้นตลิ่ง

สถานการณ์น้ำในแม่น้ำยม ณ เวลา 20.00 น. วันที่ 21 สิงหาคม 2567 พบว่า

  • สถานี Y.20 บ้านห้วยสัก อ.สอง จ.แพร่ ระดับน้ำ 12.04 เมตร จากระดับตลิ่ง 8.10 เมตร ปริมาณน้ำ 1,551.20 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำล้นตลิ่งและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
  • สถานี Y.1C บ้านน้ำโค้ง อ.เมือง จ.แพร่ ระดับน้ำ 7.13 เมตร จากระดับตลิ่ง 8.20 เมตร ปริมาณน้ำ 801.60 ลบ.ม./วินาที แนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
  • สถานี Y.37 บ้านวังชิ้น อ.วังชิ้น จ.แพร่ ระดับน้ำ 7.87 เมตร จากระดับตลิ่ง 11.00 เมตร ปริมาณน้ำ 644.00 ลบ.ม./วินาที มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

มาตรการเตรียมความพร้อมและคำแนะนำจากผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่

นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวเตือนประชาชนให้เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำท่วม โดยแนะนำให้เก็บของมีค่า ย้ายรถไปยังที่สูง และให้ความช่วยเหลือชาวบ้านในการเก็บของล่วงหน้าก่อนที่น้ำจะท่วม

ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ยังได้เน้นย้ำให้ประชาชนเฝ้าระวังและติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด โดยใช้ฝายแม่ยมในการหน่วงน้ำให้อยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ เพื่อป้องกันน้ำท่วมรุนแรงเหมือนปี 2554

สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดแพร่ ยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำยมยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากไม่ดำเนินการเตรียมการล่วงหน้าอาจเกิดน้ำท่วมใหญ่ซ้ำรอยปี 2554 ได้

อ่านข่าวเพิ่มเติม น้ำท่วมเชียงราย วิกฤตหนัก รถตู้นักเรียนติดกลางน้ำ

น้ำท่วมเชียงราย วิกฤตหนัก รถตู้นักเรียนติดกลางน้ำ

สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดเชียงราย ยังคงวิกฤตจากฝนตกหนักต่อเนื่อง ส่งผลให้น้ำป่าจากเทือกเขาชายแดนไทย-ลาว

สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดเชียงราย ยังคงวิกฤตจากฝนตกหนักต่อเนื่อง ส่งผลให้น้ำป่าจากเทือกเขาชายแดนไทย-ลาว ไหลทะลักลงสู่หลายพื้นที่ในอำเภอเทิงและอำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย น้ำป่าที่ไหลบ่าเข้าท่วมถนนและบ้านเรือนประชาชน ทำให้เกิดปัญหาการสัญจรและความเสียหายอย่างมาก

คลิปน้ำท่วมเชียงรายสุดระทึก! รถตู้นักเรียนติดกลางน้ำ

เฟซบุ๊ก “ธนกฤต มาตย์ภูธร” ได้เผยแพร่คลิปเหตุการณ์ระทึกขวัญ เมื่อรถตู้นักเรียนพยายามฝ่าน้ำท่วมเพื่อพานักเรียนกลับบ้าน แต่ต้องติดอยู่กลางน้ำเนื่องจากน้ำท่วมลึกมาก นักเรียนและครูที่อยู่บนรถต่างตกใจอย่างมาก มีนักเรียนบางคนร้องไห้ด้วยความกลัว โชคดีที่มีคนเข้ามาช่วยอุ้มนักเรียนไปอยู่บนสันดอนใกล้ ๆ เพื่อรอเรือจากตำรวจน้ำมารับ ก่อนที่จะประสานผู้ปกครองให้มารับนักเรียนกลับบ้าน

สถานการณ์น้ำท่วมในอำเภอเทิงและเวียงแก่น เชียงราย

น้ำป่าที่ไหลท่วมในอำเภอเทิงและเวียงแก่น ส่งผลให้หลายพื้นที่ถูกน้ำท่วมอย่างหนัก น้ำที่ท่วมขยายเป็นวงกว้างทำให้ถนนหลายสายไม่สามารถใช้สัญจรได้ นอกจากนี้ ยังมีนักเรียนจำนวนมากติดค้างอยู่ในโรงเรียนเวียงแก่นวิทยาคม เนื่องจากน้ำท่วมฉับพลันทำให้ไม่สามารถออกมาได้ ขณะนี้คณะครูได้จัดหาอาหารให้กับนักเรียนและดูแลความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด

เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือประชาชนและนักเรียน

ในขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมยังคงรุนแรง ทางหน่วยกู้ภัยและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เร่งเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ติดอยู่ในบ้าน และอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัย มีการติดตั้งศูนย์พักพิงและเตรียมความพร้อมในการจัดการสถานการณ์น้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ

สถานการณ์ในอำเภอเทิง เชียงราย ยังคงน่าเป็นห่วง เนื่องจากระดับน้ำยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และฝนยังคงตกไม่หยุด ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้เรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันในการช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ รวมถึงเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้นต่อเนื่องในวันข้างหน้า

อ่านเพิ่มเติม น้ำท่วมเชียงราย