ดราม่า นายก ใช้ iPad อ่านสคริปต์ ระหว่างประชุมผู้นำ ACD

ข่าวการเมืองวันนี้ ในท้ายที่สุด นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ได้ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการลดอคติและเปิดใจในการรับฟังและเรียนรู้จากเหตุการณ์เหล่านี้

กลายเป็นประเด็นร้อนที่ถูกพูดถึงในโลกออนไลน์ เมื่อมีภาพของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก้มหน้าอ่าน iPad ระหว่างการพบหารือกับ นายมัสอูด เปเซชกียาน ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ในการประชุมผู้นำ Asia Cooperation Dialogue (ACD) ณ กรุงโดฮา รัฐกาตาร์ จนมีชาวเน็ตบางคนวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบว่า การอ่านจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เช่นนี้แสดงให้เห็นถึงความไม่พร้อมและสร้างความอับอายให้กับประเทศ

การตอบกลับดราม่า นายก และการชี้แจงของนายกรัฐมนตรี

ข่าวการเมือง นายกฯ แพทองธาร ไม่ปล่อยให้ประเด็นนี้คาราคาซัง โดยเธอได้ตอบกลับคอมเมนต์ดังกล่าวผ่านสื่อออนไลน์ด้วยการชี้แจงว่า การอ่านจาก iPad เป็นเรื่องปกติในการประชุมระดับโลก ซึ่งผู้นำหลายประเทศก็ทำเช่นเดียวกัน เนื่องจากการประชุมเหล่านี้เป็นการตกลงในข้อตกลงที่ต้องมีความแม่นยำและเป็นทางการ การอ่านตามสคริปต์จึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เพื่อให้เนื้อหาถูกต้องและตรงกับที่ตกลงไว้ทุกประการ เธอยังได้กล่าวเสริมว่า การพบปะในลักษณะของการสนทนาแบบทวิภาคี (bilateral) จะเน้นการพูดคุยแบบไม่ต้องอ่านเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดียิ่งขึ้น

เสียงสนับสนุนและการทบทวนประเด็นวิจารณ์

นอกจากการตอบกลับบนสื่อออนไลน์แล้ว น.ส.แพทองธารยังได้โพสต์สรุปเรื่องนี้บน Instagram โดยระบุว่าทุกครั้งที่เข้าร่วมการประชุมระดับนานาชาติ เธอเตรียมตัวอย่างรอบคอบและศึกษาข้อมูลเสมอ การใช้ iPad เพื่ออ่านสคริปต์จึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรตีความว่าเป็นการขาดความรู้หรือไม่พร้อม แต่เป็นขั้นตอนที่จำเป็นในการปฏิบัติงานอย่างมืออาชีพ

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ก็ได้ออกมาชี้แจงเพิ่มเติมว่า การอ่านสคริปต์ในการประชุมระดับนานาชาติเช่นนี้เป็นเรื่องปกติ เนื่องจากข้อความที่ถูกอ่านต้องตรงตามที่ตกลงกันไว้ทุกคำ ไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้เหมือนกับการปราศรัยทั่วไป ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการทางการทูตและการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

ข้อสรุป การให้โอกาสและการลดอคติ

ข่าวการเมืองวันนี้ ในท้ายที่สุด นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ได้ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการลดอคติและเปิดใจในการรับฟังและเรียนรู้จากเหตุการณ์เหล่านี้ พร้อมเชิญชวนให้คนไทยสนับสนุนและให้กำลังใจกันในการนำพาประเทศก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง

นายก ลงพื้นที่ทำเนียบรัฐบาลครั้งแรก ท่ามกลางการชุมนุมประท้วง

ข่าวการเมือง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้ามายังทำเนียบรัฐบาลด้วยรถตู้ Lexus สีดำ ทะเบียน พพ 267

ข่าวการเมือง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้ามายังทำเนียบรัฐบาลด้วยรถตู้ Lexus สีดำ ทะเบียน พพ 267 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถคันใหม่ที่ได้รับจากนายทักษิณ ชินวัตร เพื่อใช้ในการทำงาน อย่างไรก็ตาม ในเช้าวันเดียวกันนั้น มีกลุ่มผู้ชุมนุมจาก เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) และ ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) ได้มารวมตัวกันประท้วงบริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล ทำให้นายกรัฐมนตรีต้องเปลี่ยนเส้นทางเข้าทำเนียบโดยใช้ทางสะพานอรทัยแทนการเข้าทางประตู 1

ประชุม ครม. ครั้งแรกอย่างเป็นทางการ

เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งถือเป็นการประชุมครั้งแรกของรัฐบาลชุดนี้ โดยมีรัฐมนตรีทุกคนเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ไม่มีรัฐมนตรีคนใดลาประชุม

วาระสำคัญในการประชุม

ข่าวการเมือง สำหรับวาระการประชุม ครม. ครั้งนี้ มีเรื่องเพื่อพิจารณา 18 เรื่อง และมีวาระเพื่อทราบ 2 เรื่อง นอกจากนี้ยังมีวาระเพื่อทราบหากไม่มีข้อทักท้วง 1 เรื่อง และวาระเพื่อเป็นข้อมูลอีก 1 เรื่อง การประชุมครั้งนี้ถือเป็นการเริ่มต้นอย่างเป็นทางการของรัฐบาลแพทองธาร ในการบริหารประเทศ

เปิดตัวกองทุนฟื้นฟูการอ่าน ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยปี 2567

ข่าวการเมือง จากข้อมูลล่าสุด อุทกภัยในปีนี้ได้สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจไทยกว่า 24,251 ล้านบาท

สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) ได้จัดตั้ง “กองทุนฟื้นฟูการอ่าน เพื่อผู้ประสบอุทกภัย ปี 2567” เพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งส่งผลกระทบต่อโรงเรียน ห้องสมุด และร้านหนังสือหลายแห่ง โดยสมาคมได้เริ่มต้นสมทบเงินจำนวน 200,000 บาท เพื่อช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประสบภัย

สถานการณ์อุทกภัยและความเสียหายที่เกิดขึ้น

ข่าวการเมือง จากข้อมูลล่าสุด อุทกภัยในปีนี้ได้สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจไทยกว่า 24,251 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีสถานศึกษาที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด 423 โรงเรียน และ 54 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาใน 32 จังหวัด อุทกภัยได้สร้างความเสียหายทั้งต่ออาคารเรียน อุปกรณ์การเรียนการสอน และสิ่งปลูกสร้างต่างๆ รวมถึงห้องน้ำและพื้นที่โดยรอบ

การเชิญชวนร่วมบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย

สมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ ได้ออกมาชักชวนสมาชิกและผู้สนใจร่วมบริจาคเงินเพื่อสนับสนุน “กองทุนฟื้นฟูการอ่าน เพื่อผู้ประสบอุทกภัย ปี 2567” โดยทุกการบริจาคจะถูกนำไปช่วยเหลือโรงเรียน ห้องสมุด และร้านหนังสือในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ  ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป

การติดต่อเพื่อขอรับความช่วยเหลือ

นอกจากการบริจาคแล้ว สมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ ยังเปิดช่องทางให้ผู้ประสบภัยสามารถแจ้งขอรับความช่วยเหลือได้ที่ อีเมล info@pubat.or.th ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้สามารถดำเนินการช่วยเหลือฟื้นฟูโรงเรียนและร้านหนังสือในพื้นที่ประสบอุทกภัยอย่างรวดเร็ว

สรุป
การจัดตั้งกองทุนนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการฟื้นฟูการอ่านและช่วยเหลือชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย สมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ หวังว่ากองทุนนี้จะช่วยลดความเดือดร้อนและสนับสนุนการฟื้นฟูโรงเรียน ห้องสมุด และร้านหนังสือในพื้นที่ที่ประสบภัย

รองนายก ลงพื้นที่ลำปาง ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมและการฟื้นฟู

ข่าวการเมือง กรมชลประทานได้เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาอุทกภัยในระยะยาว โดยมีแผนศึกษาการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำของแม่น้ำวัง

ข่าวการเมือง เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2567 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ลงพื้นที่จังหวัดลำปาง เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วมจากพายุดีเปรสชั่นยางิและซูลิก ที่ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากลงสู่เขื่อนกิ่วคอหมาเกินความจุของเขื่อน ส่งผลให้ต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำเพื่อป้องกันความเสียหาย โดยมีนายเดช เล็กวิชัย รองอธิบดีกรมชลประทาน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่และบรรยายสรุปสถานการณ์ ณ เขื่อนกิ่วคอหมา อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง

ผลกระทบจากการระบายน้ำเขื่อนกิ่วคอหมา

สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดลำปางเกิดจากฝนที่ตกหนักต่อเนื่อง ทำให้มีปริมาณน้ำในเขื่อนกิ่วคอหมาและเขื่อนกิ่วลมเพิ่มขึ้น ต้องมีการระบายน้ำออก ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายน้ำในเขตอำเภอเมืองลำปาง พื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนหลายแห่งได้รับความเสียหาย กรมชลประทานได้ออกประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำเฝ้าระวังและยกของขึ้นที่สูง

การฟื้นฟูและช่วยเหลือประชาชน

ปัจจุบันสถานการณ์น้ำในพื้นที่คลี่คลายแล้ว หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มเติม คาดว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติในไม่ช้า กรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันสนับสนุนเครื่องมือและกำลังพลในการฟื้นฟูพื้นที่ เช่น การฉีดล้างทำความสะอาดบ้านเรือนและถนนหนทางที่ได้รับความเสียหาย

แนวทางแก้ไขปัญหาระยะยาว

ข่าวการเมือง กรมชลประทานได้เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาอุทกภัยในระยะยาว โดยมีแผนศึกษาการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำของแม่น้ำวัง การเพิ่มความจุของเขื่อนกิ่วคอหมาและเขื่อนกิ่วลม รวมถึงการก่อสร้างแนวผันน้ำเลี่ยงเขตเศรษฐกิจในอำเภอเมืองลำปาง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในอนาคต

รองนายกฯ ภูมิธรรม เปิดเผยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม และได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการฟื้นฟู เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็ว

“พร้อมพงศ์” ปิดสวิตช์ ประวิตร พร้อมเปิดหลักฐานการลาประชุม

ข่าวการเมืองวันนี้ จากการตรวจสอบพบว่า พลเอกประวิตรขาดการโหวตกฎหมายสำคัญถึง 13 ครั้ง จากทั้งหมด 16 ครั้ง ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 81.25

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย ได้ออกมาเปิดเผยว่า ในวันพุธที่ 25 กันยายนนี้ เขาจะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ตรวจสอบการลาประชุมของ ส.ส. โดยเฉพาะพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ โดยพร้อมพงศ์ยืนยันว่า จากหลักฐานที่รวบรวมมา เชื่อว่าจะสามารถเอาผิดพลเอกประวิตรได้

ข่าวการเมืองวันนี้ จากการตรวจสอบพบว่า พลเอกประวิตรขาดการโหวตกฎหมายสำคัญถึง 13 ครั้ง จากทั้งหมด 16 ครั้ง ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 81.25 ในขณะที่ส.ส.ส่วนใหญ่มีการลาประชุมเฉลี่ยเพียงร้อยละ 3.91 พร้อมพงศ์ตั้งข้อสังเกตว่าการขาดประชุมนี้อาจเป็นการละเลยหน้าที่ และเป็นการทรยศต่อประชาชนที่ไว้วางใจเลือกเข้ามาทำงานในสภาฯ

พร้อมพงศ์ ยังยืนยันว่า ในวันพุธนี้ เขาจะเปิดเผยหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่าพลเอกประวิตรไปทำอะไรในวันที่ขาดการประชุม โดยในบางครั้งพลเอกประวิตรได้ลงพื้นที่ช่วยประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี แต่ควรทำในวันศุกร์ เสาร์ หรืออาทิตย์ แทนที่จะขาดประชุมสภาฯ นอกจากนี้ นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล ยังเปิดเผยว่า ตลอดการประชุมสภาฯ พลเอกประวิตรไม่เคยเข้าร่วมประชุมเลย

พร้อมพงศ์ ยังย้ำว่า การตรวจสอบครั้งนี้จะไม่มี “มวยล้มต้มคนดู” และประชาชนจะต้องตะลึงกับหลักฐานที่ถูกเปิดเผย

ผลการดีเบต ทรัมป์-แฮร์ริส โพลชี้ แฮร์ริสชนะ

การดีเบตระหว่างสองแคนดิเดตประธานาธิบดีของสหรัฐฯ คือ คามาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต และ โดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน เป็นที่จับตามองอย่างมาก

การดีเบตระหว่างสองแคนดิเดตประธานาธิบดีของสหรัฐฯ คือ คามาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต และ โดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน เป็นที่จับตามองอย่างมาก ผลสำรวจความเห็นทันทีหลังการดีเบตโดยสำนักข่าว CNN ระบุว่า แฮร์ริสได้รับคะแนนสนับสนุนสูงถึง 63% ขณะที่ทรัมป์ได้เพียง 37% นับเป็นการพลิกโพลจากการดีเบตครั้งก่อน ที่ทรัมป์เอาชนะประธานาธิบดีโจ ไบเดนด้วยคะแนน 67-33% อย่างชัดเจน

ผลการดีเบตและความเห็นจากสองฝ่าย

หลังการดีเบตจบลง นักการเมืองจากทั้งสองพรรคต่างออกมาแสดงความคิดเห็น ทอม คอตตอน วุฒิสมาชิก จากพรรครีพับลิกัน กล่าวว่าทรัมป์สามารถปกป้องตนเองได้ดี โดยเน้นย้ำว่าช่วงที่เขาเป็นประธานาธิบดี สถานการณ์ดีขึ้นมากกว่าในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา ส่วนคริส เมอร์ฟี วุฒิสมาชิกจากพรรคเดโมแครตกล่าวว่าทรัมป์ไม่สามารถอธิบายได้ว่าเขาจะนำพาประเทศไปในทิศทางใดหากได้รับเลือกตั้งอีกครั้ง ขณะที่แฮร์ริสแสดงจุดยืนที่ชัดเจนมากกว่า

ผลสำรวจและสถานการณ์ในรัฐสมรภูมิ

ผลสำรวจจาก New York Times-Siena College ระบุว่าคะแนนนิยมในระดับชาติของทรัมป์นำแฮร์ริสที่ 48-47% อย่างไรก็ตาม แฮร์ริสนำอยู่เล็กน้อยในหลายโพลที่สำรวจในรัฐสมรภูมิสำคัญ เช่น วิสคอนซิน มิชิแกน และเพนซิลเวเนีย ขณะที่ในรัฐอื่น ๆ อย่างแอริโซนา จอร์เจีย เนวาดา และนอร์ธแคโรไลนา ทั้งคู่มีคะแนนเท่ากัน รัฐสมรภูมิทั้งเจ็ดนี้ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะชี้ขาดผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี

หากแฮร์ริสชนะการเลือกตั้ง เธอจะสร้างประวัติศาสตร์เป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐฯ และเป็นผู้ที่มีเชื้อสายเอเชียใต้คนแรก รวมถึงเป็นประธานาธิบดีคนที่สองของสหรัฐฯ ที่เป็นคนผิวดำ

อ่านเพิ่มเติม https://www.sanook.com/news/9558114/

นายก นำคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ถ่ายภาพหมู่ก่อนประชุม ครม. นัดพิเศษ

ข่าวการเมือง ที่ได้รับความสนใจจากสื่อและชาวเน็ตคือการที่นายกฯ แพทองธาร เดินทางเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในทำเนียบรัฐบาลด้วยรถตู้เมอร์เซเดส เบนซ์

เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2567 เวลา 09.15 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ได้ถ่ายภาพหมู่ร่วมกันที่สนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ก่อนเริ่มประชุมคณะรัฐมนตรี (นัดพิเศษ) โดยมีสื่อมวลชนทั้งในประเทศและต่างประเทศให้ความสนใจอย่างมาก บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคักจากการรายงานข่าวของสื่อทุกแขนง

ประเด็นสำคัญในการประชุม ครม. นัดพิเศษ

ในการประชุมครั้งนี้มีการพิจารณาและให้ความเห็นชอบคำแถลงนโยบายของรัฐบาล พร้อมแจ้งกำหนดวันที่คณะรัฐมนตรีจะนำเสนอคำแถลงต่อรัฐสภา นอกจากนี้ ยังมีการนัดหมายการประชุมรัฐสภาเพื่อให้ความเห็นชอบนโยบายของรัฐบาลใหม่

เลขเด็ดจากทะเบียนรถนายกฯ แพทองธาร

ข่าวการเมือง ที่ได้รับความสนใจจากสื่อและชาวเน็ต คือ การที่นายกฯ แพทองธาร เดินทางเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในทำเนียบรัฐบาลด้วยรถตู้เมอร์เซเดส เบนซ์ ป้ายทะเบียน ขจ 995 ซึ่งใช้เป็นประจำ ทำให้มีการจับตาเลขทะเบียนนี้เพื่อนำไปเสี่ยงโชค

นายกแพทองธาร เริ่มทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลอย่างเป็นทางการ

การเข้าทำเนียบรัฐบาลครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในฐานะนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม นางสาวแพทองธารจะเริ่มทำงานอย่างเป็นทางการที่ทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 16 กันยายน 2567 หลังจากเตรียมการที่ตึกชินวัตร 3 ในระยะแรก

ข่าวการเมือง นายก พร้อมรับมือสถานการณ์การเมืองอย่างเต็มที่

ข่าวการเมืองวันนี้ นายกฯ แพทองธาร ย้ำว่าจะมีการประเมินการทำงานในช่วง 3 เดือนแรก เพื่อให้ประชาชนทราบถึงความคืบหน้า

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ เกี่ยวกับการเริ่มทำงานของรัฐบาลชุดใหม่ โดยเน้นการติดตามงานอย่างใกล้ชิด และจะหารือกับรัฐมนตรีทุกสัปดาห์เพื่อให้สามารถติดตามความคืบหน้านโยบายและการดำเนินงานได้อย่างรวดเร็ว

แนวทางการทำงานของรัฐบาลใหม่

ข่าวการเมืองวันนี้ นายกฯ แพทองธาร ย้ำว่าจะมีการประเมินการทำงานในช่วง 3 เดือนแรก เพื่อให้ประชาชนทราบถึงความคืบหน้า นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีจะนัดหารือกับรัฐมนตรีทุกสัปดาห์ โดยสลับกระทรวงกันไป เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างใกล้ชิดและสามารถติดตามผลได้

รับมือปัญหาทางกฎหมายและความต่อเนื่องของนโยบาย

นายกฯ ยังระบุว่ารัฐบาลมีทีมกฎหมายที่เข้มแข็งในการรับมือกับสถานการณ์ทางการเมืองและกฎหมาย โดยมีการปรึกษาหารือกันภายในคณะรัฐมนตรีอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การทำงานดำเนินไปอย่างรอบคอบและรัดกุม นายกฯ ยังย้ำถึงความตั้งใจที่จะทำงานให้ครบ 3 ปี เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องของนโยบาย

ตอบคำถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับนายทักษิณ

เมื่อถูกถามถึงเรื่องความเชื่อมโยงกับนายทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีตอบว่าเธอจะไม่ขอตอบเรื่องนี้อีกต่อไป เพราะต้องการเดินหน้าไปข้างหน้า พร้อมเน้นว่า “วิสัยทัศน์ที่ดีไม่ว่าจะมาจากใครก็ตาม คือสิ่งที่ดี”

นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและโครงการดิจิทัล วอลเล็ต

สำหรับนโยบายเร่งด่วนในการกระตุ้นเศรษฐกิจ นายกฯ แพทองธาร ได้ระบุว่าโครงการ ดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท จะเป็นหนึ่งในนโยบายแรกที่เน้นย้ำและผลักดันทันที โดยมอบหมายให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง อธิบายรายละเอียดเพิ่มเติม

การเมืองวันนี้ เปิดรายชื่อ ครม.แพทองธาร

รายชื่อ ครม.แพทองธาร หลัง เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่พระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

ข่าวการเมืองวันนี้ วันที่ 3 กันยายน 2567 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่พระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งได้เลือกสรรบุคคลที่เหมาะสมดำรงตำแหน่งเพื่อบริหารราชการแผ่นดิน โดยมีรายชื่อผู้ที่ได้รับแต่งตั้งในตำแหน่งสำคัญดังนี้

รายชื่อ ครม.แพทองธาร

รองนายกรัฐมนตรี

  • นายภูมิธรรม เวชยชัย (ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม)
  • นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ (ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม)
  • นายอนุทิน ชาญวีรกูล (ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย)
  • นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค (ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน)
  • นายพิชัย ชุณหวชิร (ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง)
  • นายประเสริฐ จันทรรวงทอง (ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม)

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสำคัญ

  • นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ (กระทรวงการต่างประเทศ)
  • นายสรวงศ์ เทียนทอง (กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา)
  • นายวราวุธ ศิลปอาชา (กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์)
  • นางสาวศุภมาส อิศรภักดี (กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม)
  • นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์)
  • นายพิชัย นริพทะพันธุ์ (กระทรวงพาณิชย์)
  • นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน (กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม)
  • พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง (กระทรวงยุติธรรม)
  • นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ (กระทรวงแรงงาน)
  • นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล (กระทรวงวัฒนธรรม)
  • พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ (กระทรวงศึกษาธิการ)
  • นายสมศักดิ์ เทพสุทิน (กระทรวงสาธารณสุข)
  • นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ (กระทรวงอุตสาหกรรม)

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสำคัญ

  • นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ (กระทรวงการคลัง)
  • นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล (กระทรวงการคลัง)
  • นายอัครา พรหมเผ่า (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์)
  • นายสุชาติ ชมกลิ่น (กระทรวงพาณิชย์)
  • นางสาวชาบีดา ไทยเศรษฐ์ (กระทรวงมหาดไทย)
  • นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล (กระทรวงศึกษาธิการ)

ประกาศมีผลตั้งแต่วันที่ 3 กันยายน 2567 เป็นต้นไป

ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 9-0 ยุบพรรคก้าวไกล ตัดสิทธิกก.บห. 10 ปี

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ 9-0 เสียง สั่งยุบพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นหมุดหมายสำคัญในประวัติศาสตร์การเมืองไทย

การตัดสินยุบพรรคก้าวไกล

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ 9-0 เสียง สั่งยุบพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นหมุดหมายสำคัญในประวัติศาสตร์การเมืองไทย การตัดสินครั้งนี้เป็นผลมาจากคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่มีมติเอกฉันท์เสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคและตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 10 ปี

ผลกระทบต่อกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล

ศาลรัฐธรรมนูญสั่งเพิกถอนสิทธิ์ของกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลที่ดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2564 – 31 มกราคม 2567 ซึ่งรวมถึงกรรมการบริหารพรรคทั้งสองยุค โดยเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ศาลมีคำสั่ง

ปฏิกิริยาจากสหรัฐอเมริกา

ล่าสุด สถานทูตสหรัฐและสถานกงสุลในประเทศไทยได้เผยแพร่แถลงการณ์โดยโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แมทธิว มิลเลอร์ เกี่ยวกับการยุบพรรคก้าวไกล ระบุว่า

“สหรัฐอเมริกามีความกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไทยในวันนี้ ซึ่งมีคำสั่งยุบพรรคก้าวไกลและตัดสิทธิทางการเมืองของแกนนำพรรค 11 คน”

แถลงการณ์ยังระบุเพิ่มเติมว่า

  • คำตัดสินนี้ลิดรอนสิทธิ์ของชาวไทยกว่า 14 ล้านคนที่ลงคะแนนเสียงให้พรรคก้าวไกลในการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤษภาคม 2566
  • คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญเสี่ยงต่อการบั่นทอนกระบวนการประชาธิปไตยของไทย และขัดกับความปรารถนาของชาวไทยต่ออนาคตที่มั่นคงและเป็นประชาธิปไตย
  • การมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนโดยทั่วถึงเสริมสร้างความสมานฉันท์ในสังคม และเป็นองค์ประกอบสำคัญของสถาบันระดับชาติที่เข้มแข็ง
  • สหรัฐฯ ไม่ได้สนับสนุนพรรคการเมืองใด แต่ในฐานะพันธมิตรและมิตรใกล้ชิดที่มีความสัมพันธ์อันแนบแน่นยาวนาน เรียกร้องให้ไทยดำเนินการเพื่อให้ประชาชนทุกคนมีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างแท้จริง และเพื่อปกป้องประชาธิปไตย รวมถึงเสรีภาพในการสมาคมและการแสดงออก

การยุบพรรคก้าวไกล และการตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลเป็นการกระทำที่มีผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อการเมืองไทย และได้ก่อให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ทั้งภายในประเทศและจากนานาชาติ