ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก เปิดใจ ไม่ได้รับผลกระทบจากข่าว เชน ธนา

ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ เป็นนักแสดงหญิงชาวไทยที่มีผลงานโดดเด่นในวงการบันเทิงไทย เธอเริ่มต้นอาชีพการแสดงตั้งแต่อายุยังน้อย

ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ เป็นนักแสดงหญิงชาวไทยที่มีผลงานโดดเด่นในวงการบันเทิงไทย เธอเริ่มต้นอาชีพการแสดงตั้งแต่อายุยังน้อย และได้รับความนิยมจากผลงานภาพยนตร์และละครโทรทัศน์หลายเรื่อง

ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก นักแสดงสาว เผยถึงประเด็นที่เคยเป็นพรีเซนเตอร์ให้แบรนด์ของ เชน ธนา อดีตนักร้องหนุ่มที่กำลังเผชิญปัญหาคดีฉ้อโกง ว่าเธอไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากเรื่องนี้

ใบเฟิร์น ยืนยันว่าได้ค่าตัวครบถ้วนและหมดสัญญากับแบรนด์ไปนานกว่า 1 ปีแล้ว ระหว่างทำงานร่วมกันก็ไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งสิ้น อีกทั้งก่อนรับงาน เธอและทีมงานได้ตรวจสอบอย่างละเอียดทุกครั้ง

สำหรับข่าวผู้เสียหายที่เกี่ยวข้อง เธอระบุว่าไม่ทราบรายละเอียด เพราะไม่ได้ติดตามความเคลื่อนไหวของแบรนด์ตั้งแต่หมดสัญญาแล้ว

“ตอนเห็นข่าวก็ตกใจ แต่ส่วนตัวไม่ได้กังวล เพราะทุกอย่างจบไปแล้วตั้งแต่หมดสัญญา” ใบเฟิร์นกล่าวปิดท้ายผลงานที่โดดเด่น

ประวัติใบเฟิร์น พิมพ์ชนก

  • ชื่อเต็ม: พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์
  • ชื่อเล่น: ใบเฟิร์น
  • วันเกิด: 30 กันยายน พ.ศ. 2535
  • การศึกษา: จบการศึกษาจากคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

ผลงานที่โดดเด่น

  • ภาพยนตร์:
    • “สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก” (2553)
    • “Friend Zone ระวัง..สิ้นสุดทางเพื่อน” (2562)
  • ละครโทรทัศน์:
    • “หลงไฟ” (2560)
    • “ใบไม้ที่ปลิดปลิว” (2562)

วิธีเช็คว่าร้าน Subway สาขาไหนของจริง

เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้บริการร้าน Subway ที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือร้านที่ถูกยกเลิกสิทธิ์แฟรนไชส์แล้ว ทาง Subway Thailand ได้แนะนำวิธีการตรวจสอบง่ายๆ ดังนี้

เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้บริการร้าน Subway ที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือร้านที่ถูกยกเลิกสิทธิ์แฟรนไชส์แล้ว ทาง Subway Thailand ได้แนะนำวิธีการตรวจสอบง่ายๆ ดังนี้

วิธีเช็คว่าร้าน Subway สาขาไหนของจริง

1. สังเกตหน้าร้าน

  • ร้าน Subway ที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องจะต้องมี ป้ายแสดงเลขที่ร้าน และ เครื่องหมาย Authorized Franchise ติดไว้อย่างชัดเจน

2. ตรวจสอบเมนูและวัตถุดิบ

  • ร้าน Subway ที่ถูกต้องตามมาตรฐานจะมีเมนูและวัตถุดิบครบถ้วน เช่น อโวคาโด, มะกอก และวัตถุดิบอื่นๆ ที่เป็นของแท้ตามแบรนด์

รายชื่อสาขา Subway ที่ได้รับสิทธิโดยถูกต้อง:

  1. พัทยากลาง (ใกล้หาด)
  2. สนามบินภูเก็ต – ห้องรับรองผู้โดยสารระหว่างประเทศ
  3. สุขุมวิท 23
  4. เอาต์เลตมอลล์ พัทยา
  5. สยาม พารากอน
  6. สนามบินภูเก็ต – ห้องรับรองผู้โดยสารภายในประเทศ (1)
  7. สนามบินภูเก็ต – ห้องรับรองผู้โดยสารภายในประเทศ (2)
  8. สนามบินดอนเมือง ระหว่างประเทศ
  9. ฟอร์จูนทาวน์
  10. บางจากสุขุมวิท 62
  11. โรงเรียนนานาชาติ บางกอกพัฒนา
  12. เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต
  13. โรงพยาบาลเวชธานี
  14. อมาติโอ ชิล ปาร์ค
  15. ปั๊ม ปตท. เดอะ ดีล แจ้งวัฒนะ
  16. หาดจอมเทียน
  17. โรงพยาบาล เมคปาร์ค
  18. มอเตอร์เวย์ (ขาเข้า)
  19. สนามบินดอนเมือง อาคารเทอร์มินัล 2 ชั้น 1
  20. เอ็มควอเทียร์
  21. สนามบินดอนเมือง ผู้โดยสารภายในประเทศ
  22. ฮาบิโตะ
  23. สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 3 แอร์ไซด์
  24. สนามบินเชียงใหม่-ชาร์เตอร์
  25. สนามบินภูเก็ต – บริเวณเช็กอิน
  26. มอเตอร์เวย์ (ขาออก)
  27. โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
  28. ไมค์ ช้อปปิ้งมอลล์
  29. ชาลีเพลส (ซอยบัวขาว)
  30. คาลเท็กซ์ บางใหญ่
  31. สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 1 อาคารผู้โดยสารขาเข้า
  32. สนามบินสุวรรณภูมิ ภายในประเทศ
  33. อาคารซีดับเบิ้ลยู ทาวเวอร์
  34. ตลาดรวมทรัพย์
  35. เทอร์มินอล 21 (อโศก)
  36. ไทม์สแควร์
  37. พีที รัชดาภิเษก
  38. สนามบินดอนเมือง อาคารเทอร์มินัล 2 ชั้น 4
  39. สนามบินสุวรรณภูมิ ผู้โดยสารระหว่างประเทศ
  40. สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 3
  41. สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4
  42. ปั๊มบางจาก เกษตรนวมินทร์
  43. สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 (Concourse E)
  44. ถนนเลียบหาดป่าตอง
  45. สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 3 อาคารใหม่ 1
  46. เซ็นทรัล ฟลอเรสต้า
  47. อ่าวนาง
  48. นิมมานเหมินท์ ซอย 10
  49. เมกา บางนา
  50. ฮักมอลล์ ขอนแก่น
  51. สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 (Concourse C)

หมายเหตุ

การเลือกใช้บริการร้านที่ได้รับอนุญาตจะช่วยให้คุณมั่นใจในคุณภาพอาหารและการบริการที่ตรงตามมาตรฐานของ Subway

เยาวชนเกาหลีเหนือ สมัครเข้ากองทัพกว่าล้านคน

ข่าวต่างประเทศ รายงานจาก KCNA ระบุว่าเยาวชนเกาหลีเหนือ รวมถึงนักศึกษาและเจ้าหน้าที่จากสหพันธ์เยาวชน ได้ลงทะเบียนเพื่อสมัครเข้าร่วมหรือกลับเข้ากองทัพเป็นจำนวนมาก

ความตึงเครียดระหว่างเกาหลีเหนือ และ เกาหลีใต้ยังคงพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในปี 2567 โดยล่าสุด สำนักข่าวกลางเกาหลี (KCNA) รายงานว่า มีเยาวชนเกาหลีเหนือมากกว่า 1.4 ล้านคนสมัครเข้าร่วมกองทัพภายในระยะเวลาเพียง 2 วัน เพื่อร่วมต่อสู้ในสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า “สงครามศักดิ์สิทธิ์” ท่ามกลางความขัดแย้งที่เพิ่มสูงขึ้นบนคาบสมุทรเกาหลี

เกาหลีเหนืออ้างเยาวชนแห่เข้าร่วมกองทัพมากกว่า 1.4 ล้านคน

ข่าวต่างประเทศ รายงานจาก KCNA ระบุว่าเยาวชนเกาหลีเหนือ รวมถึงนักศึกษาและเจ้าหน้าที่จากสหพันธ์เยาวชน ได้ลงทะเบียนเพื่อสมัครเข้าร่วมหรือกลับเข้ากองทัพเป็นจำนวนมาก การกระทำนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของประชาชนในชาติที่ต้องการปกป้องประเทศจากศัตรู โดย KCNA ย้ำว่าความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นนี้จะนำไปสู่ “การต่อสู้เพื่อทำลายล้างศัตรูด้วยอาวุธแห่งการปฏิวัติ”

นอกจากนี้ ยังมีคำขู่จากรัฐบาลเกาหลีเหนือที่เตือนว่า หากเกิดสงครามขึ้น สาธารณรัฐเกาหลี หรือเกาหลีใต้จะ “ถูกลบหายไปจากแผนที่” ซึ่งเป็นการเพิ่มแรงกดดันและความขัดแย้งระหว่างสองประเทศบนคาบสมุทรเกาหลี

การปะทะระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ทวีความรุนแรง

สถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีเกิดความตึงเครียดอย่างหนักในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะกรณีล่าสุดที่เกาหลีเหนือระเบิดถนนและทางรถไฟที่เชื่อมต่อกับเกาหลีใต้ นอกจากนี้ ยังมีการกล่าวหาว่าเกาหลีใต้ส่งโดรนเข้ามาในพื้นที่กรุงเปียงยางเพื่อลอบปล่อยใบปลิวโฆษณาชวนเชื่อ สิ่งเหล่านี้นำไปสู่การตอบโต้ด้วยอาวุธจากกองทัพเกาหลีใต้ รวมถึงการยิงปืนขู่เพื่อแสดงความพร้อมในการป้องกันประเทศ

นักวิเคราะห์เชื่อว่าสถานการณ์จะไม่บานปลายเป็นสงคราม

แม้ความตึงเครียดจะเพิ่มสูงขึ้น แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนยังเชื่อว่าสถานการณ์ระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ไม่น่าจะบานปลายไปถึงการทำสงครามเต็มรูปแบบ ศ. คัง ทง-วาน ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองระบุว่า “รัฐบาลเกาหลีเหนือมักใช้การเผชิญหน้าทางทหารเพื่อเสริมสร้างความภักดีต่อรัฐบาลภายในประเทศ” และยังเชื่อว่าเปียงยางมีเป้าหมายในการใช้ความตึงเครียดนี้เพื่อเพิ่มการสนับสนุนภายในประเทศมากกว่าการเปิดฉากสงคราม

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ยังชี้ให้เห็นว่า เกาหลีใต้และเกาหลีเหนือต่างอยู่ในภาวะที่ไม่มีใครยอมประนีประนอม แต่สถานการณ์อาจยังคงอยู่ในระดับของ “สงครามน้ำลาย” มากกว่าการปะทะทางทหารอย่างแท้จริง

สรุป การเพิ่มจำนวนของเยาวชนเกาหลีเหนือ ที่สมัครเข้าร่วมกองทัพ ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มสูงขึ้น แสดงให้เห็นถึงความขัดแย้งระหว่างสองเกาหลีที่ยังคงคุกรุ่นอยู่

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เชื่อว่าสถานการณ์จะไม่บานปลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ แต่ยังคงเป็นความตึงเครียดทางการเมืองที่ใช้เพื่อสร้างแรงกดดันทั้งภายในและภายนอกประเทศ

เลียม เพย์น One Direction เสียชีวิตในวัย 31 ปี ที่อาร์เจนตินา

ข่าวสุดช็อกในวงการเพลง เมื่อ เลียม เพย์น (Liam Payne) อดีตสมาชิกวงบอยแบนด์ระดับโลก One Direction

ข่าวสุดช็อกในวงการเพลง เมื่อ เลียม เพย์น (Liam Payne) อดีตสมาชิกวงบอยแบนด์ระดับโลก One Direction เสียชีวิตในวัยเพียง 31 ปี ที่โรงแรม Casa Sur กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2567

โดยสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เพย์นตกลงมาจากชั้น 3 ของโรงแรม และจากแถลงการณ์ของโฆษกกระทรวงความมั่นคงแห่งบัวโนสไอเรสยืนยันว่าเหตุการณ์นี้เกิดจากการที่เพย์นกระโดดลงจากระเบียงห้องของตนเอง หลังเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ามีชายแสดงอาการก้าวร้าว อาจอยู่ภายใต้อิทธิพลของยาและแอลกอฮอล์

การเดินทางในวงการเพลงและการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่

เลียม เพย์น เข้าสู่วงการบันเทิงจากการออดิชันรายการ The X Factor ในปี 2008 และกลับมาอีกครั้งในปี 2010 จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของวง One Direction ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามทั่วโลก วงมีอัลบั้มติดอันดับ 1 ของอังกฤษถึง 4 อัลบั้ม มียอดขายกว่า 70 ล้านแผ่น และประสบความสำเร็จอย่างมากกับซิงเกิลและการแสดงคอนเสิร์ตทั่วโลก

ผลงานเดี่ยวและชีวิตส่วนตัว

หลังการพักวงในปี 2015 เพย์นเปิดตัวผลงานเดี่ยวในปี 2017 ด้วยซิงเกิล Strip That Down ที่ไต่ชาร์ตสูงถึงอันดับ 3 ในสหราชอาณาจักร และผลงานร่วมกับ ริต้า โอรา ในเพลง For You ซาวด์แทร็กภาพยนตร์เรื่อง Fifty Shades Freed ก็ติด 10 อันดับแรกเช่นกัน ในด้านชีวิตส่วนตัว เพย์นแต่งงานกับ เชอรีล โคล ในปี 2016 และมีลูกชายด้วยกันก่อนที่จะเลิกราในปี 2018

การสูญสีย เลียม เพย์น เป็นความเศร้าโศกที่ส่งผลต่อวงการบันเทิงอย่างลึกซึ้ง แฟนๆ และผู้ที่รักเขาต่างร่วมแสดงความอาลัยต่อการจากไปของนักร้องมากความสามารถผู้นี้

ประวัติ ธเนตร วงษา เจ้าของวลีเด็ด ขยันถูกที่ปีเดียวรวย

ธเนตร วงษา เป็นที่รู้จักในฐานะนักธุรกิจพันล้านและอดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร หมายเลข 14 ในการเลือกตั้งปี พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา

ธเนตร วงษา เป็นที่รู้จักในฐานะนักธุรกิจพันล้านและอดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร หมายเลข 14 ในการเลือกตั้งปี พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา เขาเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในวงการธุรกิจขายตรงและมีชื่อเสียงในวงการธุรกิจไทยมานานกว่า 30 ปี ธเนตรเคยเป็นพนักงานใน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ก่อนจะก้าวออกมาสร้างตัวในวงการธุรกิจขายตรง ซึ่งเขาประสบความสำเร็จสูงสุดจากการทำงานร่วมกับบริษัท เจอเนสส์ โกลบอล (ประเทศไทย) ที่เขาเคยร่วมงานกับ บอสพอล วรัตน์พล วรัทย์วรกุล เจ้าของ The iCON Group

ธเนตร วงษา  ได้ยืนยันในรายการ กรรมกรข่าว คุยนอกจอ กับ สรยุทธ สุทัศนจินดา ว่าตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมาย และเคยทำธุรกิจขายตรงอย่างซื่อสัตย์มาตลอดชีวิต เขายังยอมรับว่าสนิทสนมกับบอสพอล เพราะบอสพอลเคยเป็นลูกทีมของตนมาก่อนในช่วงที่ทำงานขายตรงด้วยกันนานถึง 7 ปี ก่อนที่บอสพอลจะออกไปก่อตั้ง The iCON Group

หนึ่งในผลงานที่โดดเด่นของธเนตร คือการออกหนังสือชื่อ “ขยันถูกที่ ปีเดียวก็รวย” หนังสือที่ได้รับความนิยมอย่างสูง โดยภายในเล่มได้แนะนำแนวทางสู่ความสำเร็จทางธุรกิจอย่างเป็นระบบ ผ่านประสบการณ์ของเขาเองที่ทำให้เขากลายเป็นเศรษฐีพันล้าน หนังสือเล่มนี้มี 9 หัวข้อสำคัญที่สอนวิธีคิดและการดำเนินธุรกิจ ซึ่งได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนไทยจำนวนมากในการก้าวสู่ความสำเร็จทางการเงิน

นอกจากการเป็นนักธุรกิจแล้ว ธเนตร วงษา ยังเคยลงสมัครเป็นผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานครในปี พ.ศ. 2565 ด้วยแนวคิดที่ต้องการมอบความสุขและความสำเร็จให้กับคนกรุงเทพฯ เขามาพร้อมกับนโยบายที่หลากหลาย เช่น การเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน การแก้ไขปัญหาการจราจร และการส่งเสริมสุขภาพของคนกรุงเทพฯ โดยมุ่งเน้นให้ทุกนโยบายของเขามีผลลัพธ์ที่ชัดเจนและทำได้จริง

นโยบายสำคัญที่ธเนตร วงษา มุ่งเน้นในการสมัครผู้ว่าฯ กทม. ได้แก่

  1. การสร้างรายได้ให้ประชาชนเพิ่มขึ้น 1-10 เท่า
  2. การแก้ปัญหารถติดด้วยแนวคิดใหม่ที่เห็นผลใน 7 วัน
  3. การสร้างโปรโมชั่นส่งเสริมการท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ โดยใช้แหล่งท่องเที่ยวทางสมุนไพร เช่น ไร่ฟ้าทะลายโจร ไร่กระชายขาว

ด้วยแนวคิดและประสบการณ์ที่สั่งสมมากว่า 30 ปี ธเนตร วงษา ยังคงเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลในวงการธุรกิจและสังคมไทย และยังคงส่งต่อแนวทางความสำเร็จให้กับคนรุ่นใหม่ในทุกด้าน

งานหนังสือ 2567 งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 29 ปี 2567

งานหนังสือ 2567 งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 29 ปี 2567 จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 10-20 ตุลาคม 2567 ที่ ฮอลล์ 5-7 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

งานหนังสือ 2567 วันที่และสถานที่จัดงาน

งานหนังสือ 2567  งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 29 ปี 2567 จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 10-20 ตุลาคม 2567 ที่ ฮอลล์ 5-7 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยเปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. ทุกวัน

ธีมงานหนังสือ 2567 

ปีนี้งานมหกรรมหนังสือจัดขึ้นภายใต้ธีม “ผี” ในคอนเซปต์ “อ่านกันยันโลกหน้า” สร้างความตื่นเต้นให้กับนักอ่านที่ชื่นชอบแนวลี้ลับและความสนุกสนานจากเรื่องผี

ไฮไลต์งานหนังสือ

  • มีบูธร้านค้ากว่า 317 บูธ จากสำนักพิมพ์ชั้นนำ
  • มีหนังสือให้เลือกสรรมากกว่า 2 ล้านเล่ม ทั้งหนังสือใหม่และหนังสือหายาก
  • เตรียมเปิดตัวหนังสือใหม่กว่า 3,000 เล่ม สำหรับนักอ่านที่รักการค้นพบผลงานใหม่ๆ

โซนต่างๆ ภายในงาน

ภายในงานหนังสือ 2567 มีการจัดโซนหนังสือหลากหลายหมวดหมู่ เพื่อตอบโจทย์ทุกเพศทุกวัย ได้แก่:

  • โซนหนังสือทั่วไป: รวมหนังสือความรู้และเรื่องราวหลากหลาย
  • โซนหนังสือเด็กและการศึกษา: เหมาะสำหรับเด็กและครอบครัว
  • โซนหนังสือเก่า: สำหรับผู้ที่ชื่นชอบสะสมหนังสือโบราณ
  • โซนนิยายและวรรณกรรม: รวมทั้งนิยายไทยและต่างประเทศ
  • โซนการ์ตูนและวัยรุ่น: หนังสือการ์ตูนและวรรณกรรมสำหรับวัยรุ่น
  • โซน Non Books: สินค้าอื่นๆ ที่ไม่ใช่หนังสือ

กิจกรรมที่น่าสนใจ

งานมหกรรมหนังสือครั้งนี้มีกิจกรรมมากมายให้นักอ่านได้เพลิดเพลิน ได้แก่

  • ประกวดแต่งกายเป็น “ผีจากหนังสือผีเล่มโปรด”: สนุกกับการแต่งตัวในธีมผีสุดโปรด
  • แข่งขันสุดยอดนักขายเรื่องผี: ค้นหาผู้มีทักษะในการเล่าเรื่องผีอย่างชวนหลอน
  • เวิร์กชอปร่วมกับนักเขียน: โอกาสพิเศษในการทำเวิร์กชอปกับนักเขียนชั้นนำ
  • Global Author Spotlight: พบปะและพูดคุยกับนักเขียนชื่อดังจากต่างประเทศ
  • Book Swap: แลกเปลี่ยนหนังสือกับนักอ่านคนอื่นที่มีความชอบในแนวเดียวกัน
  • Kids Wall Painting: เปิดโอกาสให้น้องๆ ร่วมระบายสีผนังการ์ตูนใหญ่ เพียงโชว์หนังสือที่ซื้อภายในงาน
  • นิทรรศการ Key Visual และ “เพลน ผี บอก”: สัมผัสบรรยากาศลี้ลับอย่างใกล้ชิดกับ “กระสือแอร์ไลน์”
  • แข่งขันเขียนเรื่องสยอง 2 บรรทัด: ท้าทายนักเขียนให้สร้างความหลอนในเวลาอันสั้น

วิธีการเดินทางไปงานหนังสือ

เพื่อความสะดวกในการเดินทาง แนะนำให้ใช้บริการขนส่งสาธารณะเนื่องจากการจราจรที่คาดว่าจะหนาแน่น:

รถไฟฟ้า MRT

  • MRT: ลงที่สถานี ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (ทางออก 3)

รถไฟฟ้า BTS และ Airport Link

  • BTS: ลงสถานี สีลม หรือ อโศก แล้วเชื่อมต่อ MRT มายังสถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
  • Airport Link: ลงสถานี มักกะสัน แล้วเชื่อมต่อ MRT ที่สถานีเพชรบุรี

รถโดยสารประจำทาง

  • สาย 22, 102, 107, 136, 180, 185, 519, 3-54, 3-55, 71

บริการ LINE MAN RIDE

  • LINE MAN Eco: ใช้โค้ด “BOOKECO” รับส่วนลด 50 บาท
  • LINE MAN Bike: ใช้โค้ด “BOOKBIKE” รับส่วนลด 30 บาท

รถยนต์ส่วนตัว

  • ค่าจอดรถ: จอดฟรี 2 ชั่วโมงแรก และชั่วโมงต่อไป 30 บาท/ชั่วโมง

NOAA เตือนภัย พายุแม่เหล็กโลกระดับร้ายแรง G4 เสี่ยงทวีความรุนแรง

พายุแม่เหล็กโลก เกิดจากการปะทุของลมสุริยะที่พุ่งเข้าหาสนามแม่เหล็กโลก ทำให้เกิดความปั่นป่วนในชั้นบรรยากาศโลก ถึงแม้ปรากฏการณ์นี้จะเกิดขึ้นในอวกาศ

การเตือนภัยพายุแม่เหล็กโลกจาก NOAA

เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2567 เพจเฟซบุ๊กสมาคมดาราศาสตร์ไทยได้ออกประกาศเตือนถึงพายุแม่เหล็กโลกที่อาจทวีความรุนแรง โดยระบุว่า NOAA (องค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐอเมริกา) ได้เฝ้าระวังพายุแม่เหล็กโลกระดับ G4 ซึ่งอาจทวีความรุนแรงสู่ระดับ G5 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดที่สามารถสร้างผลกระทบอย่างมากต่อเทคโนโลยีอวกาศ ระบบสื่อสาร และการส่งกำลังไฟฟ้า

พายุแม่เหล็กโลกคืออะไร และเกิดจากอะไร?

พายุแม่เหล็กโลก เกิดจากการปะทุของลมสุริยะที่พุ่งเข้าหาสนามแม่เหล็กโลก ทำให้เกิดความปั่นป่วนในชั้นบรรยากาศโลก ถึงแม้ปรากฏการณ์นี้จะเกิดขึ้นในอวกาศ แต่ก็ส่งผลกระทบต่อดาวเทียม การส่งสัญญาณไฟฟ้า และการสื่อสารวิทยุ อย่างไรก็ตาม ผลกระทบโดยตรงต่อมนุษย์มีไม่มากนัก ยกเว้นอาจมีผลกระทบต่อมนุษย์อวกาศและยานอวกาศที่อยู่นอกชั้นบรรยากาศโลก เนื่องจากไม่ได้รับการปกป้องจากสนามแม่เหล็กของโลก

ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากพายุแม่เหล็กโลก

ผลกระทบจากพายุแม่เหล็กโลกระดับ G4 ได้แก่ความเสียหายต่อระบบควบคุมแรงดันไฟฟ้าในบางพื้นที่ ระบบสื่อสารดาวเทียมอาจได้รับผลกระทบ การกระจายสัญญาณความถี่สูงอาจขัดข้องเป็นระยะ และยังมีโอกาสที่แสงออโรร่าจะปรากฏให้เห็นในพื้นที่ที่อยู่ใกล้ขั้วโลก เช่น สหรัฐอเมริกาตอนเหนือ หรือแอละแบมาและแคลิฟอร์เนียตอนเหนือ

หากพายุแม่เหล็กโลก รุนแรงขึ้นถึงระดับ G5 ซึ่งเป็นระดับสุดขั้ว ระบบไฟฟ้าทั้งบนพื้นผิวโลกและในอวกาศอาจเสียหายอย่างถาวรได้ ซึ่งอาจส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก

บอสพอล วรัตน์พล ออกมาพูดแล้ว ปม The iCON Group

บอสพอล วรัตน์พล วรัทย์วรกุล และ บริษัท The iCON Group กำลังเผชิญกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจของพวกเขา บอสพอลได้ยืนยันว่าตนและบริษัทจะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงผ่านกระบวนการยุติธรรม

เมื่อไม่นานมานี้ บอสพอล วรัตน์พล วรัทย์วรกุล ผู้ก่อตั้งและ CEO ของบริษัท The iCON Group ตกเป็นกระแสข่าวร้อนแรง เนื่องจากมีข้อกล่าวหาเกี่ยวกับธุรกิจของเขาที่หลายคนมองว่าอาจมีการหลอกลวงนักลงทุน ข้อกล่าวหานี้มีผู้เสียหายหลายรายออกมาเปิดเผยว่าพวกเขาได้เข้าร่วมธุรกิจและประสบปัญหาทางการเงิน บางรายถึงขั้นบอกว่าขาดทุนและไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้

การตอบกลับจากบอสพอล วรัตน์พล

บอสพอล ได้ออกมาโพสต์ข้อความชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยยืนยันว่าตนและบริษัท The iCON Group ได้ดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องและโปร่งใสตลอด 6 ปีที่ผ่านมา บอสพอลยังแสดงความเสียใจต่อการที่มีผู้เสียหายเกิดขึ้นจากการทำธุรกิจกับบริษัท แต่เขายืนยันว่ามีหลายเคสที่ไม่เกี่ยวข้องกับตัวแทนจำหน่ายของบริษัทโดยตรง และบางรายที่เคยได้รับกำไรจากธุรกิจก็กลับมาต่อว่าบริษัทในโซเชียลมีเดีย

บอสพอลยังกล่าวว่าตนเองรู้สึกงงและสับสนกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และขอย้ำว่าตนพร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง เขาได้ชี้แจงว่าพร้อมมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและรอพิสูจน์ความจริงผ่านกระบวนการยุติธรรม บอสพอลขอให้ผู้คนอดใจรอข้อมูลและหลักฐานที่จะเปิดเผยผ่านกระบวนการทางกฎหมาย หากมีการพิสูจน์ว่าตนทำผิด เขายอมรับว่าจะต้องได้รับโทษตามกฎหมาย แต่จนกว่าจะถึงวันนั้น เขาขอให้ทุกคนหยุดการตัดสินล่วงหน้าและให้โอกาสบริษัทในการพิสูจน์ตนเอง

ความคิดเห็นจากผู้สนับสนุนและผู้วิจารณ์

โพสต์ของบอสพอลได้รับการตอบรับจากทั้งผู้สนับสนุนและผู้วิจารณ์อย่างมาก บางส่วนของผู้ที่เข้ามาคอมเมนต์แสดงความเชื่อมั่นในตัวบอสพอลและบริษัท โดยให้กำลังใจเขาในการผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ ขณะเดียวกันก็มีบางความคิดเห็นจากอดีตตัวแทนจำหน่ายที่กล่าวถึงประสบการณ์ด้านลบจากการทำธุรกิจกับบริษัท ทั้งในเรื่องการลงทุนที่ไม่ประสบความสำเร็จ การขายสินค้าที่กองไว้จำนวนมาก และการใช้เงินไปกับค่าโฆษณาโดยไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่คาดหวัง

สรุป

บอสพอล วรัตน์พล วรัทย์วรกุล และ บริษัท The iCON Group กำลังเผชิญกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจของพวกเขา บอสพอลได้ยืนยันว่าตนและบริษัทจะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงผ่านกระบวนการยุติธรรม และเขาเองพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับข้อกล่าวหาเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเองและบริษัท

สิ้น หลวงปู่ทวี เกจิดังนนทบุรี ผู้สร้างตำนานน้ำมนต์จันทร์ซ้อนจันทร์

หลวงปู่ทวี สุทธวังโส เจ้าอาวาสวัดไทรใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ได้มรณภาพลงอย่างสงบที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า หลังจากรักษาโรคประจำตัวตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2567

วันที่ 9 ตุลาคม 2567 เวลา 14.00 น. มีรายงานว่า พระครูวิสุทธินนทคุณ หรือ หลวงปู่ทวี สุทธวังโส เจ้าอาวาสวัดไทรใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ได้มรณภาพลงอย่างสงบที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า หลังจากรักษาโรคประจำตัวตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2567 โดยท่านได้ละสังขารเมื่อเวลา 08.47 น. สร้างความเศร้าโศกแก่บรรดาลูกศิษย์และผู้ศรัทธาในตัวท่านเป็นอย่างยิ่ง

พิธีทางศาสนาจะจัดขึ้นที่วัดไทรใหญ่ อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี โดยจะมีการอัญเชิญสรีระสังขารของ หลวงปู่ทวี มาประกอบพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพในวันที่ 10 ตุลาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 12.00 – 17.00 น. ที่ศาลาอบรมสงฆ์วัดไทรใหญ่

ประวัติของหลวงปู่ทวี สุทธวังโส

หลวงปู่ทวี เกิดเมื่อปี 2481 ที่อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี ท่านได้บวชเป็นพระภิกษุเมื่ออายุครบ 20 ปี โดยมีพระมงคลนนทเขต หรือหลวงพ่อแจะ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงปู่ทวีมีบทบาทสำคัญในวงการพระพุทธศาสนาของจังหวัดนนทบุรี ท่านเป็นเจ้าคณะอำเภอไทรน้อยในปี 2548 และต่อมาได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดไทรใหญ่ในปี 2555 ในปี 2562 ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนนทบุรี

ตำนานน้ำมนต์จันทร์ซ้อนจันทร์

หลวงปู่ทวี สุทธวังโส เป็นที่รู้จักในฐานะเกจิอาจารย์ผู้มีความสามารถในการปลุกเสกน้ำมนต์จันทร์ซ้อนจันทร์ พิธีนี้จะจัดขึ้นในวันที่พระจันทร์เต็มดวงและตรงกับวันจันทร์ ซึ่งถือว่าเป็นวันพิเศษที่เกิดขึ้นไม่บ่อยในแต่ละปี น้ำมนต์นี้ถูกนำไปแจกจ่ายให้กับผู้ที่ศรัทธาเพื่อความเป็นสิริมงคล หลวงปู่ทวีได้รับความเคารพนับถือจากญาติโยมทั่วประเทศ รวมถึงในต่างแดน เช่น จีน สิงคโปร์ และไต้หวัน

ติ๊ก ชิโร่ ขับรถชน จยย. 3 พี่น้อง เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บสาหัส 1 คน

ติ๊ก ชิโร่ นักร้องชื่อดัง ขับชนรถจักรยานยนต์ที่มีพี่น้อง 3 คน ขี่ซ้อนกันมา ทำให้เกิดการสูญเสียและบาดเจ็บรุนแรง

อุบัติเหตุรุนแรงบนถนนสุขาภิบาล 5

เกิดเหตุการณ์อุบัติเหตุ ที่สร้างความสะเทือนใจ เมื่อรถตู้ของนายศิริศักดิ์ นันทเสน หรือที่รู้จักกันในชื่อ ติ๊ก ชิโร่ นักร้องชื่อดัง ขับชนรถจักรยานยนต์ที่มีพี่น้อง 3 คน ขี่ซ้อนกันมา ทำให้เกิดการสูญเสียและบาดเจ็บรุนแรง

รายละเอียดเหตุการณ์

เหตุเกิดขึ้นเมื่อพี่น้องทั้งสามคนจอดรถริมสะพานเพื่อเก็บขวดน้ำที่หล่นบนถนน ขณะนั้นรถตู้ที่ขับมาด้วยความเร็วของติ๊ก ชิโร่ได้ชนเข้ากับรถจักรยานยนต์อย่างรุนแรง ทำให้ น.ส.เทียนพรเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ และนายจักรภัคร น้องชาย กระเด็นตกจากสะพานสูง 10 เมตร ได้รับบาดเจ็บสาหัส

ติ๊ก ชิโร่ ยอมรับผิด พร้อมขอโทษครอบครัวผู้เสียหาย

หลังเกิดเหตุ ติ๊ก ชิโร่ ได้ยืนรอมอบตัวกับตำรวจและขอโทษครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ พร้อมทั้งรับปากว่าจะเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย เจ้าหน้าที่ได้นำตัวเขาไปตรวจวัดแอลกอฮอล์ในร่างกายและสอบสวนเพิ่มเติม