ผลการดีเบต ทรัมป์-แฮร์ริส โพลชี้ แฮร์ริสชนะ

การดีเบตระหว่างสองแคนดิเดตประธานาธิบดีของสหรัฐฯ คือ คามาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต และ โดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน เป็นที่จับตามองอย่างมาก

การดีเบตระหว่างสองแคนดิเดตประธานาธิบดีของสหรัฐฯ คือ คามาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต และ โดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน เป็นที่จับตามองอย่างมาก ผลสำรวจความเห็นทันทีหลังการดีเบตโดยสำนักข่าว CNN ระบุว่า แฮร์ริสได้รับคะแนนสนับสนุนสูงถึง 63% ขณะที่ทรัมป์ได้เพียง 37% นับเป็นการพลิกโพลจากการดีเบตครั้งก่อน ที่ทรัมป์เอาชนะประธานาธิบดีโจ ไบเดนด้วยคะแนน 67-33% อย่างชัดเจน

ผลการดีเบตและความเห็นจากสองฝ่าย

หลังการดีเบตจบลง นักการเมืองจากทั้งสองพรรคต่างออกมาแสดงความคิดเห็น ทอม คอตตอน วุฒิสมาชิก จากพรรครีพับลิกัน กล่าวว่าทรัมป์สามารถปกป้องตนเองได้ดี โดยเน้นย้ำว่าช่วงที่เขาเป็นประธานาธิบดี สถานการณ์ดีขึ้นมากกว่าในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา ส่วนคริส เมอร์ฟี วุฒิสมาชิกจากพรรคเดโมแครตกล่าวว่าทรัมป์ไม่สามารถอธิบายได้ว่าเขาจะนำพาประเทศไปในทิศทางใดหากได้รับเลือกตั้งอีกครั้ง ขณะที่แฮร์ริสแสดงจุดยืนที่ชัดเจนมากกว่า

ผลสำรวจและสถานการณ์ในรัฐสมรภูมิ

ผลสำรวจจาก New York Times-Siena College ระบุว่าคะแนนนิยมในระดับชาติของทรัมป์นำแฮร์ริสที่ 48-47% อย่างไรก็ตาม แฮร์ริสนำอยู่เล็กน้อยในหลายโพลที่สำรวจในรัฐสมรภูมิสำคัญ เช่น วิสคอนซิน มิชิแกน และเพนซิลเวเนีย ขณะที่ในรัฐอื่น ๆ อย่างแอริโซนา จอร์เจีย เนวาดา และนอร์ธแคโรไลนา ทั้งคู่มีคะแนนเท่ากัน รัฐสมรภูมิทั้งเจ็ดนี้ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะชี้ขาดผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี

หากแฮร์ริสชนะการเลือกตั้ง เธอจะสร้างประวัติศาสตร์เป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐฯ และเป็นผู้ที่มีเชื้อสายเอเชียใต้คนแรก รวมถึงเป็นประธานาธิบดีคนที่สองของสหรัฐฯ ที่เป็นคนผิวดำ

อ่านเพิ่มเติม https://www.sanook.com/news/9558114/

การเมืองวันนี้ เปิดรายชื่อ ครม.แพทองธาร

รายชื่อ ครม.แพทองธาร หลัง เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่พระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

ข่าวการเมืองวันนี้ วันที่ 3 กันยายน 2567 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่พระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งได้เลือกสรรบุคคลที่เหมาะสมดำรงตำแหน่งเพื่อบริหารราชการแผ่นดิน โดยมีรายชื่อผู้ที่ได้รับแต่งตั้งในตำแหน่งสำคัญดังนี้

รายชื่อ ครม.แพทองธาร

รองนายกรัฐมนตรี

  • นายภูมิธรรม เวชยชัย (ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม)
  • นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ (ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม)
  • นายอนุทิน ชาญวีรกูล (ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย)
  • นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค (ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน)
  • นายพิชัย ชุณหวชิร (ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง)
  • นายประเสริฐ จันทรรวงทอง (ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม)

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสำคัญ

  • นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ (กระทรวงการต่างประเทศ)
  • นายสรวงศ์ เทียนทอง (กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา)
  • นายวราวุธ ศิลปอาชา (กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์)
  • นางสาวศุภมาส อิศรภักดี (กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม)
  • นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์)
  • นายพิชัย นริพทะพันธุ์ (กระทรวงพาณิชย์)
  • นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน (กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม)
  • พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง (กระทรวงยุติธรรม)
  • นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ (กระทรวงแรงงาน)
  • นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล (กระทรวงวัฒนธรรม)
  • พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ (กระทรวงศึกษาธิการ)
  • นายสมศักดิ์ เทพสุทิน (กระทรวงสาธารณสุข)
  • นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ (กระทรวงอุตสาหกรรม)

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสำคัญ

  • นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ (กระทรวงการคลัง)
  • นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล (กระทรวงการคลัง)
  • นายอัครา พรหมเผ่า (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์)
  • นายสุชาติ ชมกลิ่น (กระทรวงพาณิชย์)
  • นางสาวชาบีดา ไทยเศรษฐ์ (กระทรวงมหาดไทย)
  • นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล (กระทรวงศึกษาธิการ)

ประกาศมีผลตั้งแต่วันที่ 3 กันยายน 2567 เป็นต้นไป

บิ๊กโจ๊ก สุรเชชษฐ์ หักพาล พ้นจากตำแหน่ง รอง ผบ.ตร.

จากกรณีที่ที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) มีมติเอกฉันท์ 12 ต่อ 0 เห็นชอบคำสั่งให้ บิ๊กโจ๊ก สุรเชชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

จากกรณีที่ที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) มีมติเอกฉันท์ 12 ต่อ 0 เห็นชอบคำสั่งให้ บิ๊กโจ๊ก สุรเชชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ออกจากราชการไว้ก่อน เนื่องจากถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง โดยคำสั่งดังกล่าวได้ถูกยืนยันว่าเป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กฎหมายกำหนด

สุรเชชษฐ์ หักพาล ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งนี้ต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) ซึ่งในวันที่ 5 สิงหาคม 2567 ก.พ.ค.ตร. ได้มีมติว่าคำสั่งดังกล่าวเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย

ล่าสุด ราชกิจจานุเบกษาได้ประกาศจากสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่องการให้ข้าราชการพ้นจากตำแหน่ง โดยระบุว่าพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2567 เนื่องจากถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง จึงมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนและขอให้นำความกราบบังคมทูลเพื่อโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พ้นจากตำแหน่งตามมาตรา 140 และมาตรา 179 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 ประกอบข้อ 11 ของกฎ ก.ตร. ว่าด้วยการสั่งพักราชการและการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พ.ศ. 2547

บัดนี้ ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ บิ๊กโจ๊ก สุรเชชษฐ์ หักพาล พ้นจากตำแหน่ง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2567