เลียม เพย์น One Direction เสียชีวิตในวัย 31 ปี ที่อาร์เจนตินา

ข่าวสุดช็อกในวงการเพลง เมื่อ เลียม เพย์น (Liam Payne) อดีตสมาชิกวงบอยแบนด์ระดับโลก One Direction

ข่าวสุดช็อกในวงการเพลง เมื่อ เลียม เพย์น (Liam Payne) อดีตสมาชิกวงบอยแบนด์ระดับโลก One Direction เสียชีวิตในวัยเพียง 31 ปี ที่โรงแรม Casa Sur กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2567

โดยสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เพย์นตกลงมาจากชั้น 3 ของโรงแรม และจากแถลงการณ์ของโฆษกกระทรวงความมั่นคงแห่งบัวโนสไอเรสยืนยันว่าเหตุการณ์นี้เกิดจากการที่เพย์นกระโดดลงจากระเบียงห้องของตนเอง หลังเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ามีชายแสดงอาการก้าวร้าว อาจอยู่ภายใต้อิทธิพลของยาและแอลกอฮอล์

การเดินทางในวงการเพลงและการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่

เลียม เพย์น เข้าสู่วงการบันเทิงจากการออดิชันรายการ The X Factor ในปี 2008 และกลับมาอีกครั้งในปี 2010 จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของวง One Direction ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามทั่วโลก วงมีอัลบั้มติดอันดับ 1 ของอังกฤษถึง 4 อัลบั้ม มียอดขายกว่า 70 ล้านแผ่น และประสบความสำเร็จอย่างมากกับซิงเกิลและการแสดงคอนเสิร์ตทั่วโลก

ผลงานเดี่ยวและชีวิตส่วนตัว

หลังการพักวงในปี 2015 เพย์นเปิดตัวผลงานเดี่ยวในปี 2017 ด้วยซิงเกิล Strip That Down ที่ไต่ชาร์ตสูงถึงอันดับ 3 ในสหราชอาณาจักร และผลงานร่วมกับ ริต้า โอรา ในเพลง For You ซาวด์แทร็กภาพยนตร์เรื่อง Fifty Shades Freed ก็ติด 10 อันดับแรกเช่นกัน ในด้านชีวิตส่วนตัว เพย์นแต่งงานกับ เชอรีล โคล ในปี 2016 และมีลูกชายด้วยกันก่อนที่จะเลิกราในปี 2018

การสูญสีย เลียม เพย์น เป็นความเศร้าโศกที่ส่งผลต่อวงการบันเทิงอย่างลึกซึ้ง แฟนๆ และผู้ที่รักเขาต่างร่วมแสดงความอาลัยต่อการจากไปของนักร้องมากความสามารถผู้นี้

ประวัติ ธเนตร วงษา เจ้าของวลีเด็ด ขยันถูกที่ปีเดียวรวย

ธเนตร วงษา เป็นที่รู้จักในฐานะนักธุรกิจพันล้านและอดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร หมายเลข 14 ในการเลือกตั้งปี พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา

ธเนตร วงษา เป็นที่รู้จักในฐานะนักธุรกิจพันล้านและอดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร หมายเลข 14 ในการเลือกตั้งปี พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา เขาเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในวงการธุรกิจขายตรงและมีชื่อเสียงในวงการธุรกิจไทยมานานกว่า 30 ปี ธเนตรเคยเป็นพนักงานใน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ก่อนจะก้าวออกมาสร้างตัวในวงการธุรกิจขายตรง ซึ่งเขาประสบความสำเร็จสูงสุดจากการทำงานร่วมกับบริษัท เจอเนสส์ โกลบอล (ประเทศไทย) ที่เขาเคยร่วมงานกับ บอสพอล วรัตน์พล วรัทย์วรกุล เจ้าของ The iCON Group

ธเนตร วงษา  ได้ยืนยันในรายการ กรรมกรข่าว คุยนอกจอ กับ สรยุทธ สุทัศนจินดา ว่าตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมาย และเคยทำธุรกิจขายตรงอย่างซื่อสัตย์มาตลอดชีวิต เขายังยอมรับว่าสนิทสนมกับบอสพอล เพราะบอสพอลเคยเป็นลูกทีมของตนมาก่อนในช่วงที่ทำงานขายตรงด้วยกันนานถึง 7 ปี ก่อนที่บอสพอลจะออกไปก่อตั้ง The iCON Group

หนึ่งในผลงานที่โดดเด่นของธเนตร คือการออกหนังสือชื่อ “ขยันถูกที่ ปีเดียวก็รวย” หนังสือที่ได้รับความนิยมอย่างสูง โดยภายในเล่มได้แนะนำแนวทางสู่ความสำเร็จทางธุรกิจอย่างเป็นระบบ ผ่านประสบการณ์ของเขาเองที่ทำให้เขากลายเป็นเศรษฐีพันล้าน หนังสือเล่มนี้มี 9 หัวข้อสำคัญที่สอนวิธีคิดและการดำเนินธุรกิจ ซึ่งได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนไทยจำนวนมากในการก้าวสู่ความสำเร็จทางการเงิน

นอกจากการเป็นนักธุรกิจแล้ว ธเนตร วงษา ยังเคยลงสมัครเป็นผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานครในปี พ.ศ. 2565 ด้วยแนวคิดที่ต้องการมอบความสุขและความสำเร็จให้กับคนกรุงเทพฯ เขามาพร้อมกับนโยบายที่หลากหลาย เช่น การเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน การแก้ไขปัญหาการจราจร และการส่งเสริมสุขภาพของคนกรุงเทพฯ โดยมุ่งเน้นให้ทุกนโยบายของเขามีผลลัพธ์ที่ชัดเจนและทำได้จริง

นโยบายสำคัญที่ธเนตร วงษา มุ่งเน้นในการสมัครผู้ว่าฯ กทม. ได้แก่

  1. การสร้างรายได้ให้ประชาชนเพิ่มขึ้น 1-10 เท่า
  2. การแก้ปัญหารถติดด้วยแนวคิดใหม่ที่เห็นผลใน 7 วัน
  3. การสร้างโปรโมชั่นส่งเสริมการท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ โดยใช้แหล่งท่องเที่ยวทางสมุนไพร เช่น ไร่ฟ้าทะลายโจร ไร่กระชายขาว

ด้วยแนวคิดและประสบการณ์ที่สั่งสมมากว่า 30 ปี ธเนตร วงษา ยังคงเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลในวงการธุรกิจและสังคมไทย และยังคงส่งต่อแนวทางความสำเร็จให้กับคนรุ่นใหม่ในทุกด้าน

งานหนังสือ 2567 งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 29 ปี 2567

งานหนังสือ 2567 งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 29 ปี 2567 จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 10-20 ตุลาคม 2567 ที่ ฮอลล์ 5-7 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

งานหนังสือ 2567 วันที่และสถานที่จัดงาน

งานหนังสือ 2567  งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 29 ปี 2567 จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 10-20 ตุลาคม 2567 ที่ ฮอลล์ 5-7 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยเปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. ทุกวัน

ธีมงานหนังสือ 2567 

ปีนี้งานมหกรรมหนังสือจัดขึ้นภายใต้ธีม “ผี” ในคอนเซปต์ “อ่านกันยันโลกหน้า” สร้างความตื่นเต้นให้กับนักอ่านที่ชื่นชอบแนวลี้ลับและความสนุกสนานจากเรื่องผี

ไฮไลต์งานหนังสือ

  • มีบูธร้านค้ากว่า 317 บูธ จากสำนักพิมพ์ชั้นนำ
  • มีหนังสือให้เลือกสรรมากกว่า 2 ล้านเล่ม ทั้งหนังสือใหม่และหนังสือหายาก
  • เตรียมเปิดตัวหนังสือใหม่กว่า 3,000 เล่ม สำหรับนักอ่านที่รักการค้นพบผลงานใหม่ๆ

โซนต่างๆ ภายในงาน

ภายในงานหนังสือ 2567 มีการจัดโซนหนังสือหลากหลายหมวดหมู่ เพื่อตอบโจทย์ทุกเพศทุกวัย ได้แก่:

  • โซนหนังสือทั่วไป: รวมหนังสือความรู้และเรื่องราวหลากหลาย
  • โซนหนังสือเด็กและการศึกษา: เหมาะสำหรับเด็กและครอบครัว
  • โซนหนังสือเก่า: สำหรับผู้ที่ชื่นชอบสะสมหนังสือโบราณ
  • โซนนิยายและวรรณกรรม: รวมทั้งนิยายไทยและต่างประเทศ
  • โซนการ์ตูนและวัยรุ่น: หนังสือการ์ตูนและวรรณกรรมสำหรับวัยรุ่น
  • โซน Non Books: สินค้าอื่นๆ ที่ไม่ใช่หนังสือ

กิจกรรมที่น่าสนใจ

งานมหกรรมหนังสือครั้งนี้มีกิจกรรมมากมายให้นักอ่านได้เพลิดเพลิน ได้แก่

  • ประกวดแต่งกายเป็น “ผีจากหนังสือผีเล่มโปรด”: สนุกกับการแต่งตัวในธีมผีสุดโปรด
  • แข่งขันสุดยอดนักขายเรื่องผี: ค้นหาผู้มีทักษะในการเล่าเรื่องผีอย่างชวนหลอน
  • เวิร์กชอปร่วมกับนักเขียน: โอกาสพิเศษในการทำเวิร์กชอปกับนักเขียนชั้นนำ
  • Global Author Spotlight: พบปะและพูดคุยกับนักเขียนชื่อดังจากต่างประเทศ
  • Book Swap: แลกเปลี่ยนหนังสือกับนักอ่านคนอื่นที่มีความชอบในแนวเดียวกัน
  • Kids Wall Painting: เปิดโอกาสให้น้องๆ ร่วมระบายสีผนังการ์ตูนใหญ่ เพียงโชว์หนังสือที่ซื้อภายในงาน
  • นิทรรศการ Key Visual และ “เพลน ผี บอก”: สัมผัสบรรยากาศลี้ลับอย่างใกล้ชิดกับ “กระสือแอร์ไลน์”
  • แข่งขันเขียนเรื่องสยอง 2 บรรทัด: ท้าทายนักเขียนให้สร้างความหลอนในเวลาอันสั้น

วิธีการเดินทางไปงานหนังสือ

เพื่อความสะดวกในการเดินทาง แนะนำให้ใช้บริการขนส่งสาธารณะเนื่องจากการจราจรที่คาดว่าจะหนาแน่น:

รถไฟฟ้า MRT

  • MRT: ลงที่สถานี ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (ทางออก 3)

รถไฟฟ้า BTS และ Airport Link

  • BTS: ลงสถานี สีลม หรือ อโศก แล้วเชื่อมต่อ MRT มายังสถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
  • Airport Link: ลงสถานี มักกะสัน แล้วเชื่อมต่อ MRT ที่สถานีเพชรบุรี

รถโดยสารประจำทาง

  • สาย 22, 102, 107, 136, 180, 185, 519, 3-54, 3-55, 71

บริการ LINE MAN RIDE

  • LINE MAN Eco: ใช้โค้ด “BOOKECO” รับส่วนลด 50 บาท
  • LINE MAN Bike: ใช้โค้ด “BOOKBIKE” รับส่วนลด 30 บาท

รถยนต์ส่วนตัว

  • ค่าจอดรถ: จอดฟรี 2 ชั่วโมงแรก และชั่วโมงต่อไป 30 บาท/ชั่วโมง

สิ้น หลวงปู่ทวี เกจิดังนนทบุรี ผู้สร้างตำนานน้ำมนต์จันทร์ซ้อนจันทร์

หลวงปู่ทวี สุทธวังโส เจ้าอาวาสวัดไทรใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ได้มรณภาพลงอย่างสงบที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า หลังจากรักษาโรคประจำตัวตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2567

วันที่ 9 ตุลาคม 2567 เวลา 14.00 น. มีรายงานว่า พระครูวิสุทธินนทคุณ หรือ หลวงปู่ทวี สุทธวังโส เจ้าอาวาสวัดไทรใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ได้มรณภาพลงอย่างสงบที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า หลังจากรักษาโรคประจำตัวตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2567 โดยท่านได้ละสังขารเมื่อเวลา 08.47 น. สร้างความเศร้าโศกแก่บรรดาลูกศิษย์และผู้ศรัทธาในตัวท่านเป็นอย่างยิ่ง

พิธีทางศาสนาจะจัดขึ้นที่วัดไทรใหญ่ อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี โดยจะมีการอัญเชิญสรีระสังขารของ หลวงปู่ทวี มาประกอบพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพในวันที่ 10 ตุลาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 12.00 – 17.00 น. ที่ศาลาอบรมสงฆ์วัดไทรใหญ่

ประวัติของหลวงปู่ทวี สุทธวังโส

หลวงปู่ทวี เกิดเมื่อปี 2481 ที่อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี ท่านได้บวชเป็นพระภิกษุเมื่ออายุครบ 20 ปี โดยมีพระมงคลนนทเขต หรือหลวงพ่อแจะ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงปู่ทวีมีบทบาทสำคัญในวงการพระพุทธศาสนาของจังหวัดนนทบุรี ท่านเป็นเจ้าคณะอำเภอไทรน้อยในปี 2548 และต่อมาได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดไทรใหญ่ในปี 2555 ในปี 2562 ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนนทบุรี

ตำนานน้ำมนต์จันทร์ซ้อนจันทร์

หลวงปู่ทวี สุทธวังโส เป็นที่รู้จักในฐานะเกจิอาจารย์ผู้มีความสามารถในการปลุกเสกน้ำมนต์จันทร์ซ้อนจันทร์ พิธีนี้จะจัดขึ้นในวันที่พระจันทร์เต็มดวงและตรงกับวันจันทร์ ซึ่งถือว่าเป็นวันพิเศษที่เกิดขึ้นไม่บ่อยในแต่ละปี น้ำมนต์นี้ถูกนำไปแจกจ่ายให้กับผู้ที่ศรัทธาเพื่อความเป็นสิริมงคล หลวงปู่ทวีได้รับความเคารพนับถือจากญาติโยมทั่วประเทศ รวมถึงในต่างแดน เช่น จีน สิงคโปร์ และไต้หวัน

ราตัน ทาทา มหาเศรษฐีและอดีตประธาน ทาทา กรุ๊ป เสียชีวิตแล้วในวัย 86 ปี

ราตัน ทาทา มหาเศรษฐีชาวอินเดียและอดีตประธานบอร์ดของกลุ่มบริษัท ทาทา กรุ๊ป เสียชีวิตลงด้วยวัย 86 ปี ตามแถลงการณ์ของบริษัท ทาทา กรุ๊ป เมื่อวันที่ผ่านมา

การจากไปของราตัน ทาทา

ราตัน ทาทา มหาเศรษฐีชาวอินเดียและอดีตประธานบอร์ดของกลุ่มบริษัท ทาทา กรุ๊ป เสียชีวิตลงด้วยวัย 86 ปี ตามแถลงการณ์ของบริษัท ทาทา กรุ๊ป เมื่อวันที่ผ่านมา เขาเป็นหนึ่งในนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงระดับโลกและมีอิทธิพลในวงการธุรกิจอินเดีย บริษัทที่เขาเคยเป็นผู้นำนั้นมีรายได้ต่อปีมากกว่า 100 พันล้านดอลลาร์

ผลงานที่โดดเด่นของราตัน ทาทา

ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งประธาน ทาทา กรุ๊ป ราตัน ทาทา ได้ทำการควบรวมกิจการหลายแห่ง รวมถึงบริษัทผลิตเหล็ก คอรัส, บริษัทผู้ผลิตรถยนต์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์ และบริษัทผลิตชา Tetley ซึ่งเขาได้รับการยกย่องจากวงการธุรกิจนานาชาติว่าเป็นผู้เปลี่ยนแปลงกลุ่มบริษัทครอบครัว ทาทา ให้กลายเป็นมหาอำนาจของโลก

การแสดงความอาลัย

ประธานคนปัจจุบันของ ทาทา กรุ๊ป นาทาราจัน จันทรเสการัน ได้ยกย่องราตัน ทาทาว่าเป็น “ผู้นำที่หายากอย่างแท้จริง” และนายกรัฐมนตรีอินเดีย นเรนทรา โมดี ได้โพสต์ข้อความแสดงความเสียใจและยกย่องเขาว่าเป็นผู้นำธุรกิจที่มีวิสัยทัศน์และมีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น

เปิดตัวกองทุนฟื้นฟูการอ่าน ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยปี 2567

ข่าวการเมือง จากข้อมูลล่าสุด อุทกภัยในปีนี้ได้สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจไทยกว่า 24,251 ล้านบาท

สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) ได้จัดตั้ง “กองทุนฟื้นฟูการอ่าน เพื่อผู้ประสบอุทกภัย ปี 2567” เพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งส่งผลกระทบต่อโรงเรียน ห้องสมุด และร้านหนังสือหลายแห่ง โดยสมาคมได้เริ่มต้นสมทบเงินจำนวน 200,000 บาท เพื่อช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประสบภัย

สถานการณ์อุทกภัยและความเสียหายที่เกิดขึ้น

ข่าวการเมือง จากข้อมูลล่าสุด อุทกภัยในปีนี้ได้สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจไทยกว่า 24,251 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีสถานศึกษาที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด 423 โรงเรียน และ 54 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาใน 32 จังหวัด อุทกภัยได้สร้างความเสียหายทั้งต่ออาคารเรียน อุปกรณ์การเรียนการสอน และสิ่งปลูกสร้างต่างๆ รวมถึงห้องน้ำและพื้นที่โดยรอบ

การเชิญชวนร่วมบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย

สมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ ได้ออกมาชักชวนสมาชิกและผู้สนใจร่วมบริจาคเงินเพื่อสนับสนุน “กองทุนฟื้นฟูการอ่าน เพื่อผู้ประสบอุทกภัย ปี 2567” โดยทุกการบริจาคจะถูกนำไปช่วยเหลือโรงเรียน ห้องสมุด และร้านหนังสือในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ  ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป

การติดต่อเพื่อขอรับความช่วยเหลือ

นอกจากการบริจาคแล้ว สมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ ยังเปิดช่องทางให้ผู้ประสบภัยสามารถแจ้งขอรับความช่วยเหลือได้ที่ อีเมล info@pubat.or.th ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้สามารถดำเนินการช่วยเหลือฟื้นฟูโรงเรียนและร้านหนังสือในพื้นที่ประสบอุทกภัยอย่างรวดเร็ว

สรุป
การจัดตั้งกองทุนนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการฟื้นฟูการอ่านและช่วยเหลือชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย สมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ หวังว่ากองทุนนี้จะช่วยลดความเดือดร้อนและสนับสนุนการฟื้นฟูโรงเรียน ห้องสมุด และร้านหนังสือในพื้นที่ที่ประสบภัย

ราชกิจจา ประกาศใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลบังคับใช้ใน 120 วัน

ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศ กฎหมายสมรสเท่าเทียม ซึ่งเป็นกฎหมายที่ปรับแก้เพื่อให้การสมรสของคู่สมรสเป็นไปอย่างเท่าเทียม

เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567 ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2567 หรือ กฎหมายสมรสเท่าเทียม ซึ่งเป็นกฎหมายที่ปรับแก้เพื่อให้การสมรสของคู่สมรสเป็นไปอย่างเท่าเทียม

โดยกฎหมายฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้หลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา 120 วัน หรือประมาณวันที่ 22 มกราคม 2568

สาระสำคัญของกฎหมายสมรสเท่าเทียม

พระราชบัญญัตินี้ได้มีการปรับแก้ มาตรา 43 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ โดยระบุว่าภูมิลำเนาของคู่สมรสเป็นถิ่นที่อยู่ที่คู่สมรสอยู่ด้วยกัน เว้นแต่คู่สมรสฝ่ายใดแสดงเจตนาว่ามีภูมิลำเนาแยกจากกัน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลให้สิทธิการสมรสของคู่สมรสมีความเท่าเทียมกันมากขึ้น

สำหรับผู้ที่ต้องการจดทะเบียนสมรสตามกฎหมายใหม่ จะต้องรอให้พ้นระยะเวลา 120 วันหลังจากประกาศใช้ หรือเริ่มตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม 2568 จึงจะสามารถดำเนินการจดทะเบียนสมรสตามกฎหมายใหม่ที่รับรองสิทธิสมรสเท่าเทียมได้

สมรสเท่าเทียม คือออะไร

สมรสเท่าเทียม คือ กฎหมายที่รับรองสิทธิให้บุคคลที่มีเพศเดียวกันสามารถจดทะเบียนสมรสกันได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย เช่นเดียวกับคู่สมรสชายหญิงทั่วไป กฎหมายนี้มีเป้าหมายเพื่อให้สิทธิและความคุ้มครองทางกฎหมายแก่คู่รักเพศเดียวกัน เช่น สิทธิในการเป็นคู่สมรสที่ถูกต้องตามกฎหมาย สิทธิในการรับมรดก สิทธิในการตัดสินใจเกี่ยวกับสุขภาพ และสิทธิอื่น ๆ ที่คู่สมรสเพศตรงข้ามมี

สมรสเท่าเทียม เริ่มใช้วันไหน

กฎหมายสมรสเท่าเทียมในประเทศไทย ได้รับการประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567 และจะมีผลบังคับใช้หลังจากประกาศ 120 วัน ซึ่งหมายความว่ากฎหมายจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม 2568

ลำปาง น้ำป่าไหลหลาก ต้องเร่งระบายน้ำด่วน

จังหวัดลำปาง เผชิญกับฝนตกหนักต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและทำให้เขื่อนกิ่วคอหมาเต็มความจุ จนต้องเร่งระบายน้ำลงสู่แม่น้ำวังเพื่อรักษาความปลอดภัยของเขื่อน

จังหวัดลำปาง เผชิญกับฝนตกหนักต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและทำให้เขื่อนกิ่วคอหมาเต็มความจุ จนต้องเร่งระบายน้ำลงสู่แม่น้ำวังเพื่อรักษาความปลอดภัยของเขื่อน

โดยในเช้าวันที่ 25 กันยายน 2567 เขื่อนกิ่วคอหมาระบายน้ำอยู่ที่ 255 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และเขื่อนกิ่วลมระบายน้ำที่ 322 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

ผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำ

การระบายน้ำจากเขื่อน จะส่งผลให้พื้นที่ลุ่มต่ำในจังหวัดลำปาง ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะหมู่ 1 บ้านบุญนาคพัฒนา ตำบลบุญนาคพัฒนา และพื้นที่ลุ่มต่ำในเขตเทศบาลนครลำปาง ระดับน้ำคาดว่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 70-85 เซนติเมตร ส่งผลกระทบต่อบริเวณถนนเลียบแม่น้ำวังและถนนในพื้นที่ลุ่มต่ำทั้งสองฝั่งแม่น้ำ

การเตรียมการและเฝ้าระวัง

กรมชลประทานได้ประสานกับจังหวัดลำปางและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแจ้งเตือนประชาชนให้เคลื่อนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ กรมชลประทานยืนยันว่าเขื่อนกิ่วลมและกิ่วคอหมามีความมั่นคงแข็งแรงและปลอดภัย

สนามบินแม่ฟ้าหลวง เชียงราย งดทำการบินทุกเที่ยวบิน

สนามบินแม่ฟ้าหลวง ล้อมรอบสนามบินทั้งทางด้านทิศใต้และทิศตะวันตก ท่วมถึงบ้านพักพนักงานทั้งหมด

เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 นาวาอากาศตรี ดร.สมชนก เทียมเทียบรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ได้รายงาน สถานการณ์น้ำท่วมบริเวณสนามบินแม่ฟ้าหลวง ผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยระบุว่าระดับน้ำจากแม่น้ำกกได้เพิ่มสูงขึ้น ล้อมรอบสนามบินทั้งทางด้านทิศใต้และทิศตะวันตก ท่วมถึงบ้านพักพนักงานทั้งหมด

นอกจากนี้ น้ำยังเข้ามาจากทางถนนที่มุ่งหน้ามาจากสโมสรเชียงราย ทำให้การเดินทางของผู้โดยสารในพื้นที่เป็นไปอย่างยากลำบากและไม่ปลอดภัย

คำแนะนำสำหรับผู้โดยสารและการยกเลิกเที่ยวบิน สนามบินแม่ฟ้าหลวง เชียงราย

สำหรับผู้โดยสารที่มีแผนการเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังเชียงราย ผู้อำนวยการท่าอากาศยานแนะนำว่าไม่ควรเดินทางในช่วงนี้ เนื่องจากพื้นที่สนามบินได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ ทำให้การออกจากสนามบินเป็นไปได้ยาก ในขณะที่สายการบินต่าง ๆ ก็ได้ยกเลิกเที่ยวบินหลายส่วน โดยเฉพาะสายการบินเวียตเจ็ทและไลอ้อนแอร์ที่ให้บริการเส้นทางนี้

ผู้โดยสารที่อยู่ในเชียงรายและต้องการเดินทางกลับกรุงเทพฯ ควรติดต่อสายการบินอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเที่ยวบินส่วนใหญ่ในช่วงนี้จะมุ่งเน้นการขนผู้โดยสารที่ตกค้างกลับกรุงเทพฯ ตามหลักการบริหารสาธารณภัย

สนามบินแม่ฟ้าหลวง

ประกาศจากท่าอากาศยานดอนเมืองและสุวรรณภูมิ

ในเวลาเดียวกัน ท่าอากาศยานดอนเมืองและสุวรรณภูมิได้ประกาศงดทำการบินของทุกสายการบินในประเทศที่มุ่งหน้าสู่สนามบินแม่ฟ้าหลวง เชียงราย โดยผู้โดยสารสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ประชาสัมพันธ์ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย หมายเลข 053-798-000

ประกาศ เพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวสำหรับข้าราชการและลูกจ้างประจำ

วันที่ 29 สิงหาคม 2567 ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ ระเบียบกระทรวงการคลังใหม่เกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวของข้าราชการและลูกจ้างประจำ ของส่วนราชการ โดยมีรายละเอียดที่สำคัญดังนี้

วันที่ 29 สิงหาคม 2567 ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ ระเบียบกระทรวงการคลังใหม่เกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวของข้าราชการและลูกจ้างประจำ ของส่วนราชการ โดยมีรายละเอียดที่สำคัญดังนี้

การปรับเพดานเงินเดือนและค่าจ้าง

  • เงินเดือนหรือค่าจ้างไม่ถึงเดือนละ 14,600 บาท: ข้าราชการและลูกจ้างประจำที่มีเงินเดือนไม่ถึงจำนวนนี้จะได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวเดือนละ 2,000 บาท แต่เมื่อรวมเงินเดือนหรือค่าจ้างแล้วจะต้องไม่เกินเดือนละ 14,600 บาท
  • กรณีที่เงินเดือนไม่ถึงเดือนละ 11,000 บาท: หากข้าราชการหรือลูกจ้างประจำมีรายได้รวมไม่ถึงเดือนละ 11,000 บาท จะได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวเพิ่มเติมเพื่อให้รายได้รวมถึงเดือนละ 11,000 บาท

ลูกจ้างชั่วคราว

  • เงินเดือนไม่ถึงเดือนละ 11,000 บาท: ลูกจ้างชั่วคราวที่มีวุฒิการศึกษาระดับต่ำกว่าปริญญาตรีและมีเงินเดือนไม่ถึงเดือนละ 11,000 บาท จะได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวเพิ่มขึ้นจนถึงเดือนละ 11,000 บาท

ทหารกองประจำการ

  • เงินเดือนรวมกับเบี้ยเลี้ยงไม่ถึงเดือนละ 11,000 บาท: ทหารกองประจำการที่ได้รับเงินเดือนรวมกับเบี้ยเลี้ยงประจำไม่ถึงเดือนละ 11,000 บาท จะได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวเพิ่มเติมตามอัตราที่กระทรวงกลาโหมกำหนด แต่ต้องไม่เกินเดือนละ 11,000 บาท

การปรับโครงสร้างเงินเดือนและค่าจ้างในอนาคต

หากมีการปรับโครงสร้างเงินเดือนของข้าราชการและโครงสร้างค่าจ้างของลูกจ้าง กระทรวงการคลังอาจเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อปรับปรุงหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวให้สอดคล้องกับโครงสร้างที่ปรับใหม่

หมายเหตุ: ระเบียบนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป