การเมืองวันนี้ เปิดรายชื่อ ครม.แพทองธาร

รายชื่อ ครม.แพทองธาร หลัง เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่พระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

ข่าวการเมืองวันนี้ วันที่ 3 กันยายน 2567 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่พระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งได้เลือกสรรบุคคลที่เหมาะสมดำรงตำแหน่งเพื่อบริหารราชการแผ่นดิน โดยมีรายชื่อผู้ที่ได้รับแต่งตั้งในตำแหน่งสำคัญดังนี้

รายชื่อ ครม.แพทองธาร

รองนายกรัฐมนตรี

  • นายภูมิธรรม เวชยชัย (ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม)
  • นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ (ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม)
  • นายอนุทิน ชาญวีรกูล (ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย)
  • นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค (ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน)
  • นายพิชัย ชุณหวชิร (ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง)
  • นายประเสริฐ จันทรรวงทอง (ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม)

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสำคัญ

  • นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ (กระทรวงการต่างประเทศ)
  • นายสรวงศ์ เทียนทอง (กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา)
  • นายวราวุธ ศิลปอาชา (กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์)
  • นางสาวศุภมาส อิศรภักดี (กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม)
  • นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์)
  • นายพิชัย นริพทะพันธุ์ (กระทรวงพาณิชย์)
  • นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน (กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม)
  • พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง (กระทรวงยุติธรรม)
  • นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ (กระทรวงแรงงาน)
  • นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล (กระทรวงวัฒนธรรม)
  • พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ (กระทรวงศึกษาธิการ)
  • นายสมศักดิ์ เทพสุทิน (กระทรวงสาธารณสุข)
  • นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ (กระทรวงอุตสาหกรรม)

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสำคัญ

  • นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ (กระทรวงการคลัง)
  • นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล (กระทรวงการคลัง)
  • นายอัครา พรหมเผ่า (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์)
  • นายสุชาติ ชมกลิ่น (กระทรวงพาณิชย์)
  • นางสาวชาบีดา ไทยเศรษฐ์ (กระทรวงมหาดไทย)
  • นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล (กระทรวงศึกษาธิการ)

ประกาศมีผลตั้งแต่วันที่ 3 กันยายน 2567 เป็นต้นไป

ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 9-0 ยุบพรรคก้าวไกล ตัดสิทธิกก.บห. 10 ปี

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ 9-0 เสียง สั่งยุบพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นหมุดหมายสำคัญในประวัติศาสตร์การเมืองไทย

การตัดสินยุบพรรคก้าวไกล

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ 9-0 เสียง สั่งยุบพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นหมุดหมายสำคัญในประวัติศาสตร์การเมืองไทย การตัดสินครั้งนี้เป็นผลมาจากคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่มีมติเอกฉันท์เสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคและตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 10 ปี

ผลกระทบต่อกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล

ศาลรัฐธรรมนูญสั่งเพิกถอนสิทธิ์ของกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลที่ดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2564 – 31 มกราคม 2567 ซึ่งรวมถึงกรรมการบริหารพรรคทั้งสองยุค โดยเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ศาลมีคำสั่ง

ปฏิกิริยาจากสหรัฐอเมริกา

ล่าสุด สถานทูตสหรัฐและสถานกงสุลในประเทศไทยได้เผยแพร่แถลงการณ์โดยโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แมทธิว มิลเลอร์ เกี่ยวกับการยุบพรรคก้าวไกล ระบุว่า

“สหรัฐอเมริกามีความกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไทยในวันนี้ ซึ่งมีคำสั่งยุบพรรคก้าวไกลและตัดสิทธิทางการเมืองของแกนนำพรรค 11 คน”

แถลงการณ์ยังระบุเพิ่มเติมว่า

  • คำตัดสินนี้ลิดรอนสิทธิ์ของชาวไทยกว่า 14 ล้านคนที่ลงคะแนนเสียงให้พรรคก้าวไกลในการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤษภาคม 2566
  • คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญเสี่ยงต่อการบั่นทอนกระบวนการประชาธิปไตยของไทย และขัดกับความปรารถนาของชาวไทยต่ออนาคตที่มั่นคงและเป็นประชาธิปไตย
  • การมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนโดยทั่วถึงเสริมสร้างความสมานฉันท์ในสังคม และเป็นองค์ประกอบสำคัญของสถาบันระดับชาติที่เข้มแข็ง
  • สหรัฐฯ ไม่ได้สนับสนุนพรรคการเมืองใด แต่ในฐานะพันธมิตรและมิตรใกล้ชิดที่มีความสัมพันธ์อันแนบแน่นยาวนาน เรียกร้องให้ไทยดำเนินการเพื่อให้ประชาชนทุกคนมีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างแท้จริง และเพื่อปกป้องประชาธิปไตย รวมถึงเสรีภาพในการสมาคมและการแสดงออก

การยุบพรรคก้าวไกล และการตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลเป็นการกระทำที่มีผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อการเมืองไทย และได้ก่อให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ทั้งภายในประเทศและจากนานาชาติ

ย้อนโพสต์ “ธนาธร” เล่าถึงวันแรกที่ “พิธา” ที่เข้ามาพรรค

ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง กกต. วินิจฉัยสมาชิกภาพ ส.ส.ของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล

การเข้ามาของพิธา และการเติบโตในพรรคการเมือง

เมื่อวานนี้ (19 ก.ค.) ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง กกต. วินิจฉัยสมาชิกภาพ ส.ส.ของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล จากเหตุมีชื่อถือครองหุ้นสื่อบริษัท ไอทีวี จำกัด มหาชน จำนวน 42,000 หุ้น เรื่องนี้ได้ก่อให้เกิดกระแสร้อนแรงในวงการการเมืองและในโลกออนไลน์

ผู้สนับสนุนนายพิธาและพรรคก้าวไกลแสดงความไม่พอใจและมองว่าเป็นการสกัดขาทางการเมือง แฮชแท็ก #โหวตนายก #โหวตนายกรอบ2 #ประชุมสภา ติดเทรนด์ตลอดทั้งวัน มีประชาชนจำนวนมากโพสต์ให้กำลังใจนายพิธาและพรรคก้าวไกล

การสนับสนุนจากธนาธร

หนึ่งในผู้สนับสนุนคือ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และหัวหน้าคณะก้าวหน้า เขาได้ไปให้กำลังใจนายพิธาถึงที่ และถ่ายรูปคู่มาทวีตบอกว่า “ค่ำคืนนี้ มาให้กำลังใจคุณ #พิธา หัวหน้าพรรคก้าวไกล หนทางยังอีกไกล ขอให้เข้มแข็ง นำพี่น้องประชาชนไทยสู่อนาคตอันสดใสต่อไป”

เรื่องราวของพิธา กับ พรรคอนาคตใหม่

ธนาธร เคยเปิดเผยผ่านทางเฟซบุ๊กถึงวันแรกที่นายพิธาเดินเข้ามาที่พรรคอนาคตใหม่ จนกระทั่งพรรคถูกยุบ กรรมการบริหารถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง และกลายมาเป็นพรรคก้าวไกลที่แข็งแกร่ง โดยมีนายพิธาก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล

“วันแรกที่ทิมเดินเข้ามาที่พรรคอนาคตใหม่ ผมก็รู้แล้วว่าคนคนนี้หลักแหลมและมีอนาคตทางการเมืองยาวไกล และผมก็คาดไว้ไม่ผิด ทิมเป็นหัวหน้าพรรคที่ดีที่สุดเท่าที่ก้าวไกลจะมีได้ เขาไม่เพียงเป็นหัวหน้าพรรคที่กล้าพูดประเด็นแหลมคม สั่นสะเทือนในสภา แต่ยังเป็นหัวหน้าที่พร้อมสนับสนุน ส.ส. ในพรรคอยู่เสมอ

ผมเชื่อว่าทิมจะเป็น ส.ส. ที่ดี และวันนี้ ผมเชื่อว่าเขาเติบโตขึ้นทั้งในด้านประสบการณ์ ความรู้ ความลึกซึ้งทางการเมือง วันนี้ผมไม่เชื่อว่าเขาจะเป็นแค่ ‘ส.ส. ที่ดี’ แต่สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดีของคนไทยได้”

ที่ประชุม ก.ตร. มีมติเห็นชอบ บิ๊กโจ๊ก ออกจากราชการ

ในวันที่ 20 มิถุนายน 2567 ที่ประชุม ก.ตร. มีมติเห็นชอบตามมติของคณะอนุกรรมการ ก.ตร. วินัย ว่าคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ “บิ๊กโจ๊ก” ออกจากราชการ เป็นไปตามกฎหมาย

ในวันที่ 20 มิถุนายน 2567 ที่ประชุม ก.ตร. มีมติเห็นชอบตามมติของคณะอนุกรรมการ ก.ตร. วินัย ว่าคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือบิ๊กโจ๊กออกจากราชการ เป็นไปตามกฎหมาย

ผู้บัญชาการสำนักงาน ก.ตร. ชี้แจงว่าคำสั่งที่เกี่ยวข้องสองฉบับคือ คำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน และคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจออกจากราชการไว้ก่อน เป็นไปตามหลักเกณฑ์ในพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 โดย ก.ตร. ได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบโดยไม่มีผู้คัดค้าน

พร้อมยังกล่าวว่าการพิจารณายกเลิกหรือเพิกถอนคำสั่งดังกล่าวอยู่ในอำนาจของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) โดยผู้ร้องได้ใช้สิทธิ์ตามกฎหมายเรียบร้อยแล้ว และให้รอการพิจารณาของ ก.พ.ค.ตร. ต่อไป ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาพิจารณาประมาณ 120 วัน

รู้จัก ปารีณา ไกรคุปต์ อดีตนักการเมืองสาวสุดแซ่บ

ปารีณา ไกรคุปต์ เป็นนักการเมืองชื่อดังของประเทศไทย ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคการเมืองต่างๆ ในช่วงเวลาต่างกัน และมีชื่อเสียงในฐานะผู้ที่มีการตอบโต้และให้ความเห็นที่แข็งขันในเรื่องต่างๆ

ปารีณา ไกรคุปต์ เป็นนักการเมืองชื่อดังของประเทศไทย ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคการเมืองต่างๆ ในช่วงเวลาต่างกัน และมีชื่อเสียงในฐานะผู้ที่มีการตอบโต้และให้ความเห็นที่แข็งขันในเรื่องต่างๆ

ปารีณา ไกรคุปต์ มักจะเป็นข่าวหน้าหนึ่งในสื่อต่างๆ ด้วยการวิพากษ์วิจารณ์และมีส่วนร่วมในประเด็นสำคัญๆ ของสังคม บ่อยครั้งที่เธอมีปฏิสัมพันธ์กับสื่อมวลชนและประชาชนผ่านโซเชียลมีเดีย ทำให้เธอมีผู้ติดตามและผู้สนับสนุนจำนวนมาก แต่ก็มีผู้วิพากษ์วิจารณ์เช่นกัน

ประวัติ เอ๋ ปารีณา ไกรคุปต์

  • เอ๋ มีชื่อจริงว่า ปารีณา ไกรคุปต์
  • เกิด 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2519
  • ภูมิลำเนา เป็นคนอำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี
  • บิดาของปารีณา คือ ทวี ไกรคุปต์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดราชบุรี
  • มารดาของปารีณา คือ สิริบังอร ไกรคุปต์
  • ปารีณาสมรสกับอุปกิต ปาจรียางกูร (หย่า)
  • มีลูก 3 คนคือ กล้าเกล้า ไกรคุปต์, อดิศรา ปาจรียางกูร, และกิตตรา ปาจรียางกูร
  • การศึกษา ได้ปริญญาวิทยาศาสตรบัณฑิตและวิทยาศาสตรมหาบัณฑิตจากสหรัฐ

ข่าวการเมืองวันนี้ ยุบพรรคก้าวไกล ติดเทรนด์ทวิตเตอร์

กกต. มีมติเอกฉันท์ที่จะเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรคก้าวไกล พร้อมทั้งตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค

วันที่ 12 มีนาคม 2567 กลายเป็นอีกหนึ่งวันที่สำคัญในการเมืองไทย เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติเอกฉันท์ที่จะเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรคก้าวไกล พร้อมทั้งตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค

ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 92 และมาตรา 93 แล้ว

จากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย การกระทำของพรรคก้าวไกล มีพฤติการณ์ ใช้สิทธิเสรีภาพ เพื่อล้มล้างการปกครอง จากการเสนอแก้ไขและยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112