เศรษฐา ทวีสิน พ้นตำแหน่ง พร้อมคณะรัฐมนตรี

ศาลรัฐธรรมนูญได้มีมติ 5 ต่อ 4 เสียง วินิจฉัยให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลง

คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ประเด็นเศรษฐา ทวีสิน

วันนี้ (14 ส.ค. 2567) ศาลรัฐธรรมนูญได้มีมติ 5 ต่อ 4 เสียง วินิจฉัยให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลง เนื่องจากการแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยศาลเห็นว่านายเศรษฐาทราบหรือควรรู้อยู่แล้วว่านายพิชิต ขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ แต่ยังคงนำความกราบบังคมทูลเพื่อโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ถือเป็นการปฏิบัติที่มิชอบตามรัฐธรรมนูญ และฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง

ประเด็น เศรษฐา ทวีสิน ที่นำมาสู่คำวินิจฉัย

สมาชิกวุฒิสภาจำนวน 40 คนได้ยื่นคำร้องต่อประธานวุฒิสภาให้ส่งเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่าการแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน ซึ่งเคยถูกศาลฎีกามีคำสั่งจำคุก 6 เดือนในคดีละเมิดอำนาจศาล และถูกมองว่าเป็นบุคคลที่กระทำการอันไม่ซื่อสัตย์สุจริต ส่งผลให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนายพิชิต ชื่นบาน สิ้นสุดลง

ผลกระทบจากคำวินิจฉัย

จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนี้ ส่งผลให้คณะรัฐมนตรีของนายเศรษฐาทั้งคณะพ้นจากตำแหน่ง ถือเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญในประวัติศาสตร์การเมืองไทย คำวินิจฉัยนี้ยังชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการปฏิบัติหน้าที่อย่างซื่อสัตย์สุจริตและเป็นที่ประจักษ์ตามมาตรฐานจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

ความเป็นมา

กรณีนี้สืบเนื่องมาจากการแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีการตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับคุณสมบัติและพฤติกรรมในอดีตของนายพิชิต ทั้งนี้ รัฐบาลได้สอบถามไปยังสำนักงานกฤษฎีกาและได้รับคำยืนยันว่าสามารถแต่งตั้งได้ แต่ในท้ายที่สุด ศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่าการแต่งตั้งดังกล่าวเป็นการขาดความซื่อสัตย์สุจริตและไม่เหมาะสม

เหตุการณ์นี้เป็นการตอกย้ำถึงความสำคัญของการพิจารณาคุณสมบัติและจริยธรรมของบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และความรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรีในการตัดสินใจแต่งตั้งบุคคลในคณะรัฐมนตรี

พาทัวร์บ้านพุ่มพวง ดวงจันทร์ คอหวยตาลุกวาว เลขเด็ดมาเต็ม!

ราชินีลูกทุ่งในตำนาน “พุ่มพวง ดวงจันทร์” ที่ล่าสุดเพชรได้พาแฟนๆ ไปเยี่ยมชมบ้านคุณแม่ที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นครั้งแรก ผ่านช่องทางติ๊กต๊อก

เปิดบ้าน “พุ่มพวง ดวงจันทร์” ครั้งแรก 

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งคนบันเทิงที่สร้างความประทับใจและคอนเทนต์ดีๆ ให้แฟนคลับได้ติดตามกันอยู่เสมอ สำหรับ “เพชร พุ่มพวง” ทายาทคนเก่งของราชินีลูกทุ่งในตำนาน “พุ่มพวง ดวงจันทร์” ที่ล่าสุดเพชรได้พาแฟนๆ ไปเยี่ยมชมบ้านคุณแม่ที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นครั้งแรก ผ่านช่องทางติ๊กต๊อก

บ้านหลังนี้เป็นสถานที่ที่ “พ่อไกรสร” พักอาศัยและดูแลอย่างดี แม้ว่าข้าวของเครื่องใช้เก่าๆ จะยังคงอยู่ที่เดิม ไม่ว่าจะเป็นก้อนหิน ต้นไม้ หรือโต๊ะทานข้าว หลายมุมภายในบ้านเต็มไปด้วยความทรงจำ รวมถึงภาพถ่ายของ “แม่ผึ้ง พุ่มพวง” ที่ถูกติดตามมุมต่างๆ ของบ้าน เรียกได้ว่าเอ็กซ์คูลซีฟสุดๆ สำหรับแฟนเพลงที่รักและคิดถึงแม่ผึ้ง

เลขเด็ดจากบ้าน แม่ผึ้ง 199 / 529 แฟนหวยไม่พลาด!

และที่ไม่ทำให้เหล่าคอหวยผิดหวัง คือการถ่ายซูมเลขที่บ้านอย่างชัดเจน เป็นเลข 199 / 529 ทำเอาหลายคนหยิบปากกาจดเลขเด็ดไปเสี่ยงโชคในงวดวันที่ 16 สิงหาคม 2567 ที่จะถึงนี้

ทำบุญวันเกิด พุ่มพวง ดวงจันทร์ ที่วัดสันทรายมูล ความทรงจำที่ไม่มีวันลืม

ในขณะเดียวกัน เพชรยังได้พวงมาลัยไปไหว้หุ่นขี้ผึ้งของแม่ผึ้งที่วัดภาษี เอกมัย ในวันแม่ปีนี้ พร้อมโพสต์ภาพและแคปชั่นสุดซึ้งที่บรรดาแฟนคลับต่างเข้ามาคอมเมนต์ชื่นใจเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้ เมื่อช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เพชรและพ่อไกรสร ยังได้ไปทำบุญครบรอบวันเกิดของแม่ผึ้งที่วัดสันทรายมูล จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมโพสต์ภาพที่บอกว่าหากแม่ยังมีชีวิตอยู่ก็จะมีอายุครบ 63 ปีในปีนี้ การทำบุญครั้งนี้เป็นการสานต่อความรักและความทรงจำที่เพชรมีต่อแม่ผึ้งอยู่เสมอ

คอหวยแห่ตีเลขเด็ด งานทำบุญวันเกิด พุ่มพวง ดวงจันทร์

ไม่เพียงเท่านั้น บรรยากาศวันเกิดของ พุ่มพวง ดวงจันทร์ ก็ยังเต็มไปด้วยความอบอุ่นและศรัทธา น้องสาวของแม่ผึ้ง นำโดย “โอ่ง สลักจิต” และ “ไก่ จันทร์จวง” ได้ร่วมกันจัดงานทำบุญที่วัดทับกระดาน จังหวัดสุพรรณบุรี มีแฟนเพลงและนักเสี่ยงโชคมาร่วมงานกันคับคั่ง

ภายในงานมีเค้กทั้งหมด 13 ก้อนวางอยู่ครบทุกหุ่นของแม่ผึ้ง แต่เค้กก้อนหลักที่เป็นไฮไลต์ในปีนี้คือเค้ก 2 ชั้นที่ปั้นเป็นรูปแม่ผึ้งสวมชุดลายเสือดาว ท่ามกลางดอกกุหลาบสีแดงและผึ้งตัวน้อย พร้อมเทียนเลข 63 ที่ปักอย่างสวยงาม

ตำรวจหญิง และลูกสาว เสียชีวิตในบ้าน คาดเกิดจากโซดาไฟ

ศูนย์พิษวิทยาศิริราช ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับอันตรายของโซดาไฟ หรือ โซเดียมไฮดรอกไซด์ (NaOH) ซึ่งเป็นสารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อนสูงและสามารถปล่อยก๊าซพิษต่างๆ

เหตุการณ์เศร้าสลด

เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2567 เกิดเหตุสลดที่บ้านพักในตำบลบางปลาสร้อย อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี เมื่อพบผู้เสียชีวิต 3 รายภายในบ้าน โดยทั้งหมดเป็นผู้หญิง ซึ่งรวมถึง ร.ต.อ.(หญิง) อนัญญา อายุ 60 ปี รองสารวัตรสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองชลบุรี และลูกสาวทั้งสองคน คือ น.ส.จิตรพิสุทธิ์ อายุ 34 ปี และ น.ส.ปัณณิกา อายุ 25 ปี ภายในบ้านยังพบขวด สารเคมีน้ำยาล้างท่ออุดตัน หรือ โซดาไฟ ตกอยู่

การตรวจสอบและสาเหตุที่เป็นไปได้

พล.ต.ต.ฉัตรชัย สุรเชษฐ์พงษ์ รอง ผบช.ภ. 2 ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุและพบสารเคมีโซดาไฟซึ่งเป็นสารที่อาจเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตทั้งสามราย โดยขณะนี้ตำรวจกำลังตรวจสอบเพิ่มเติมและยังไม่ตัดประเด็นใดๆ ทิ้ง

อันตรายจากการใช้โซดาไฟ

ศูนย์พิษวิทยาศิริราช ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับอันตรายของโซดาไฟ หรือ โซเดียมไฮดรอกไซด์ (NaOH) ซึ่งเป็นสารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อนสูงและสามารถปล่อยก๊าซพิษต่างๆ ได้เมื่อเกิดปฏิกิริยากับสารเคมีอื่น การใช้โซดาไฟในพื้นที่ที่ไม่มีการระบายอากาศที่ดีอาจทำให้เกิดการสะสมของก๊าซพิษและเป็นอันตรายต่อผู้ใช้

ข้อควรระวังในการใช้โซดาไฟ

ศูนย์พิษวิทยาศิริราชแนะนำวิธีการใช้โซดาไฟอย่างปลอดภัย:

  1. ระบายอากาศ: ควรแน่ใจว่ามีการไหลเวียนของอากาศที่ดีโดยเปิดหน้าต่างหรือใช้พัดลมระบายอากาศ
  2. หลีกเลี่ยงการสัมผัสและการสูดดม: สวมอุปกรณ์ป้องกัน เช่น ถุงมือ แว่นตานิรภัย และหน้ากากเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
  3. ไม่ควรผสมสารเคมีหลายชนิด: ห้ามผสมโซดาไฟกับสารเคมีอื่นที่มีฤทธิ์ต่างกัน เช่น น้ำยาฟอกขาวหรือแอมโมเนีย
  4. เก็บรักษาอย่างระมัดระวัง: เก็บโซดาไฟในที่เย็นและแห้ง ห่างจากสารเคมีอื่นๆ และพ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง

ความคืบหน้าของการสืบสวน

เพื่อนสนิทของผู้เสียชีวิตคนหนึ่งให้ข้อมูลว่า แม่ผู้เสียชีวิตได้ขอให้ไปซื้อโซดาไฟมาใช้ล้างท่อที่อุดตันในห้องน้ำ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตจากการสูดดมสารเคมีดังกล่าวในพื้นที่ที่มีการระบายอากาศไม่ดี ตำรวจและเจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดต่อไป

วิกฤตชามตราไก่ จีนทุ่ม ทำขายใบละ 5 บาท กระทบไทยหนัก

ชามตราไก่ ที่เป็นสินค้า GI ของจังหวัดลำปาง ชามตราไก่จากประเทศจีนได้เข้ามาทุ่มตลาดในไทยในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา

สถานการณ์ชามตราไก่ 

นายปรีชา ศรีมาลา นายกสมาคมเครื่องปั้นดินเผาจังหวัดลำปาง ได้เปิดเผยถึงสถานการณ์ที่วิกฤตหนักในอุตสาหกรรมเซรามิกของไทย โดยเฉพาะ ชามตราไก่ ที่เป็นสินค้า GI ของจังหวัดลำปาง ชามตราไก่จากประเทศจีนได้เข้ามาทุ่มตลาดในไทยในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา โดยขายในราคาถูกเพียงใบละ 5 บาท ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อผู้ประกอบการเซรามิกลำปาง

ผลกระทบต่อผู้ประกอบการเซรามิกในลำปาง

จากสถานการณ์นี้ ทำให้ผู้ประกอบการเซรามิกขนาดกลางและขนาดเล็กในจังหวัดลำปางที่เคยมีมากกว่า 300 โรงงาน ต้องหยุดกิจการไปกว่า 200 โรงงาน เนื่องจากไม่สามารถแข่งขันกับสินค้าจีนที่เข้ามาในราคาที่ต่ำกว่าต้นทุนการผลิตของไทยได้ นายปรีชาได้ระบุว่า แม้จะได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานราชการในจังหวัด แต่ก็ยังไม่เพียงพอ และหากรัฐบาลไม่เข้ามาแก้ไขปัญหา อุตสาหกรรมเซรามิกลำปาง ชามตราไก่ ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานอาจสูญพันธุ์ได้

การชี้แจงจากประธานกิตติมศักดิ์สภาอุตสาหกรรมลำปาง

นายอธิภูมิ กำธรวรรินทร์ ประธานกิตติมศักดิ์สภาอุตสาหกรรมจังหวัดลำปาง ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กเพื่อชี้แจง 7 ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับชามตราไก่ลำปางและปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

  1. ลายไก่ของชามตราไก่เดิมมาจากประเทศจีนและถูกนำมาผลิตที่ลำปางโดยชาวจีนที่มาตั้งรกราก
  2. ชามไก่จีนใช้รูปลอกเซรามิกในการผลิตแทนการเขียนลายด้วยมือเหมือนในลำปาง
  3. ชามไก่จีนใบละ 5 บาทเป็นสินค้าที่มีตำหนิและเน้นขายถูกเพื่อดึงดูดลูกค้า
  4. เซรามิกลำปางประสบปัญหายิ่งขายยิ่งถูกและคุณภาพยิ่งต่ำ เนื่องจากแข่งขันกันภายในประเทศ
  5. สินค้าจีนอาจมีปัญหาเรื่องสารพิษในบางส่วน แต่ไม่ใช่ทั้งหมด
  6. ตั้งแต่มกราคม – พฤษภาคม 2567 มีการนำเข้าเซรามิกจากจีนมากกว่า 3,000 ตันในราคาเฉลี่ย 8.96 บาทต่อกิโลกรัม
  7. การนำเข้าเซรามิกจากจีนอาจมีปริมาณมากกว่าที่แสดงในพิธีการศุลกากรถึง 2-3 เท่า

ทั้งนี้ นายอธิภูมิ ยังระบุว่าปัญหานี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความท้าทายที่เซรามิกลำปางต้องเผชิญ และเตรียมจะให้ข้อมูลเพิ่มเติมในรายละเอียดอื่น ๆ ในอนาคต

ความต้องการการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน

นายปรีชา ได้เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วน เพราะหากยังปล่อยให้จีนเข้ามาตีตลาดโดยไม่มีการควบคุม จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซรามิกของไทย ชามตราไก่ เป็นอย่างมาก ซึ่งอาจเกิดผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อภาคเศรษฐกิจของประเทศในวงกว้าง

ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 9-0 ยุบพรรคก้าวไกล ตัดสิทธิกก.บห. 10 ปี

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ 9-0 เสียง สั่งยุบพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นหมุดหมายสำคัญในประวัติศาสตร์การเมืองไทย

การตัดสินยุบพรรคก้าวไกล

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ 9-0 เสียง สั่งยุบพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นหมุดหมายสำคัญในประวัติศาสตร์การเมืองไทย การตัดสินครั้งนี้เป็นผลมาจากคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่มีมติเอกฉันท์เสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคและตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 10 ปี

ผลกระทบต่อกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล

ศาลรัฐธรรมนูญสั่งเพิกถอนสิทธิ์ของกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลที่ดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2564 – 31 มกราคม 2567 ซึ่งรวมถึงกรรมการบริหารพรรคทั้งสองยุค โดยเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ศาลมีคำสั่ง

ปฏิกิริยาจากสหรัฐอเมริกา

ล่าสุด สถานทูตสหรัฐและสถานกงสุลในประเทศไทยได้เผยแพร่แถลงการณ์โดยโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แมทธิว มิลเลอร์ เกี่ยวกับการยุบพรรคก้าวไกล ระบุว่า

“สหรัฐอเมริกามีความกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไทยในวันนี้ ซึ่งมีคำสั่งยุบพรรคก้าวไกลและตัดสิทธิทางการเมืองของแกนนำพรรค 11 คน”

แถลงการณ์ยังระบุเพิ่มเติมว่า

  • คำตัดสินนี้ลิดรอนสิทธิ์ของชาวไทยกว่า 14 ล้านคนที่ลงคะแนนเสียงให้พรรคก้าวไกลในการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤษภาคม 2566
  • คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญเสี่ยงต่อการบั่นทอนกระบวนการประชาธิปไตยของไทย และขัดกับความปรารถนาของชาวไทยต่ออนาคตที่มั่นคงและเป็นประชาธิปไตย
  • การมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนโดยทั่วถึงเสริมสร้างความสมานฉันท์ในสังคม และเป็นองค์ประกอบสำคัญของสถาบันระดับชาติที่เข้มแข็ง
  • สหรัฐฯ ไม่ได้สนับสนุนพรรคการเมืองใด แต่ในฐานะพันธมิตรและมิตรใกล้ชิดที่มีความสัมพันธ์อันแนบแน่นยาวนาน เรียกร้องให้ไทยดำเนินการเพื่อให้ประชาชนทุกคนมีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างแท้จริง และเพื่อปกป้องประชาธิปไตย รวมถึงเสรีภาพในการสมาคมและการแสดงออก

การยุบพรรคก้าวไกล และการตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลเป็นการกระทำที่มีผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อการเมืองไทย และได้ก่อให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ทั้งภายในประเทศและจากนานาชาติ

ย้อนโพสต์ “ธนาธร” เล่าถึงวันแรกที่ “พิธา” ที่เข้ามาพรรค

ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง กกต. วินิจฉัยสมาชิกภาพ ส.ส.ของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล

การเข้ามาของพิธา และการเติบโตในพรรคการเมือง

เมื่อวานนี้ (19 ก.ค.) ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง กกต. วินิจฉัยสมาชิกภาพ ส.ส.ของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล จากเหตุมีชื่อถือครองหุ้นสื่อบริษัท ไอทีวี จำกัด มหาชน จำนวน 42,000 หุ้น เรื่องนี้ได้ก่อให้เกิดกระแสร้อนแรงในวงการการเมืองและในโลกออนไลน์

ผู้สนับสนุนนายพิธาและพรรคก้าวไกลแสดงความไม่พอใจและมองว่าเป็นการสกัดขาทางการเมือง แฮชแท็ก #โหวตนายก #โหวตนายกรอบ2 #ประชุมสภา ติดเทรนด์ตลอดทั้งวัน มีประชาชนจำนวนมากโพสต์ให้กำลังใจนายพิธาและพรรคก้าวไกล

การสนับสนุนจากธนาธร

หนึ่งในผู้สนับสนุนคือ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และหัวหน้าคณะก้าวหน้า เขาได้ไปให้กำลังใจนายพิธาถึงที่ และถ่ายรูปคู่มาทวีตบอกว่า “ค่ำคืนนี้ มาให้กำลังใจคุณ #พิธา หัวหน้าพรรคก้าวไกล หนทางยังอีกไกล ขอให้เข้มแข็ง นำพี่น้องประชาชนไทยสู่อนาคตอันสดใสต่อไป”

เรื่องราวของพิธา กับ พรรคอนาคตใหม่

ธนาธร เคยเปิดเผยผ่านทางเฟซบุ๊กถึงวันแรกที่นายพิธาเดินเข้ามาที่พรรคอนาคตใหม่ จนกระทั่งพรรคถูกยุบ กรรมการบริหารถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง และกลายมาเป็นพรรคก้าวไกลที่แข็งแกร่ง โดยมีนายพิธาก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล

“วันแรกที่ทิมเดินเข้ามาที่พรรคอนาคตใหม่ ผมก็รู้แล้วว่าคนคนนี้หลักแหลมและมีอนาคตทางการเมืองยาวไกล และผมก็คาดไว้ไม่ผิด ทิมเป็นหัวหน้าพรรคที่ดีที่สุดเท่าที่ก้าวไกลจะมีได้ เขาไม่เพียงเป็นหัวหน้าพรรคที่กล้าพูดประเด็นแหลมคม สั่นสะเทือนในสภา แต่ยังเป็นหัวหน้าที่พร้อมสนับสนุน ส.ส. ในพรรคอยู่เสมอ

ผมเชื่อว่าทิมจะเป็น ส.ส. ที่ดี และวันนี้ ผมเชื่อว่าเขาเติบโตขึ้นทั้งในด้านประสบการณ์ ความรู้ ความลึกซึ้งทางการเมือง วันนี้ผมไม่เชื่อว่าเขาจะเป็นแค่ ‘ส.ส. ที่ดี’ แต่สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดีของคนไทยได้”

Intersex ภาวะเพศกำกวม คืออะไร หลังมีดราม่าในโอลิมปิก

อินเตอร์เซ็กซ์ (Intersex) หรือ ภาวะเพศกำกวม เป็นภาวะที่เกิดขึ้นกับ 1.7% ของประชากรทั่วโลก ผู้ที่มีลักษณะทางกายภาพที่แตกต่างจากอัตลักษณ์ทางเพศปกติ

อินเตอร์เซ็กซ์ (Intersex) คืออะไร?

อินเตอร์เซ็กซ์ (Intersex) หรือ ภาวะเพศกำกวม เป็นภาวะที่เกิดขึ้นกับ 1.7% ของประชากรทั่วโลก ผู้ที่มีลักษณะทางกายภาพที่แตกต่างจากอัตลักษณ์ทางเพศปกติ อาจมีอวัยวะสืบพันธุ์ของทั้งสองเพศ หรือมีปริมาณฮอร์โมนหรือโครโมโซมเพศที่ผิดปกติ อินเตอร์เซ็กซ์ไม่สามารถระบุเพศได้อย่างชัดเจน และไม่ได้หมายถึงเพศสภาพหรือรสนิยมทางเพศแต่อย่างใด

การตรวจเพศในนักกีฬา

การตรวจเพศในนักกีฬา เริ่มต้นในช่วงทศวรรษที่ 1930 โดยในช่วงแรกใช้การตรวจด้านเอกสารยืนยันทางการแพทย์ แต่ยังไม่เพียงพอ จากนั้นได้พัฒนาเป็นการตรวจโครโมโซมในปี 1967 อย่างไรก็ตาม การตรวจโครโมโซมถูกตั้งคำถามถึงความเป็นธรรมและต่อมาได้มีการใช้การตรวจระดับเทสโทสเตอโรน ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศชายที่มีผลต่อความได้เปรียบในการแข่งขันกีฬา

เทสโทสเตอโรนและการแข่งขันกีฬา

ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน มีส่วนสำคัญในการสร้างกล้ามเนื้อและให้ความได้เปรียบในการแข่งขันกีฬา โดยในเพศชายจะมีระดับเทสโทสเตอโรนสูงกว่าเพศหญิง ดังนั้นการตรวจเพศนักกีฬาหญิงจึงต้องพิจารณาระดับเทสโทสเตอโรนด้วย

กรณีอีมาน เคลิฟ

เคลิฟ ไม่ผ่านการตรวจเพศกับทางสมาคมมวยสากลนานาชาติ (IBA) เนื่องจากการตรวจโครโมโซม ขณะที่การตรวจเพศในกีฬาโอลิมปิกใช้เกณฑ์การตรวจระดับเทสโทสเตอโรน การตรวจเพศในกีฬาจึงยังคงเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การแข่งขันมีความยุติธรรม

ความแตกต่างระหว่าง Intersex และ Transgender

Intersex และ Transgender มีความแตกต่างกัน โดย Transgender สามารถระบุเพศกำเนิดได้และภายหลังสามารถผ่าตัดเพื่อเปลี่ยนเพศสภาพตามเจตนาของตนเองได้ ส่วน Intersex ไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าเป็นเพศหญิงหรือเพศชาย เนื่องจากมีระบบสืบพันธุ์หรือลักษณะทางกายภาพที่มีทั้งสองเพศ

ดรามาหลังการแข่งขันมวยสากล

การแข่งขันมวยสากลโอลิมปิก 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เกิดดรามาร้อนระหว่าง อีมาน เคลิฟ นักชกจากแอลจีเรีย วัย 25 ปี และ แองเจลา คารินี่ นักชกจากอิตาลี วัย 24 ปี เคลิฟซึ่งเป็นหนึ่งในสองนักมวยหญิงที่ไม่ผ่านการตรวจเพศ แต่ได้รับอนุญาตจากไอโอซี ให้ลงแข่งโอลิมปิก 2024 ได้ลงแข่งขันในรอบ 16 คน รุ่น 66 กก. ผลการแข่งขันใช้เวลาเพียง 46 วินาที เคลิฟไล่ต่อยคู่ชกจนกรรมการยุติการชกหลังคู่แข่งขอยอมแพ้

ประเด็นการตรวจเพศของอีมาน เคลิฟ

เคลิฟเคยถูกตัดสิทธิ์ก่อนชิงชนะเลิศปี 2023 เนื่องจากผลการทดสอบ DNA พบว่าเธอมีโครโมโซม XY ซึ่งเป็นลักษณะของเพศชาย ขณะที่เพศหญิงตามปกติจะมีโครโมโซม XX นอกจากนี้ยังพบว่าเคลิฟมีระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนสูง อย่างไรก็ตาม ภาพที่ปรากฏในวัยเด็กของเคลิฟยังคงแสดงลักษณะเป็นเพศหญิงตามปกติ แต่มีภาวะเพศกำกวมและมีฮอร์โมนเพศชายสูงกว่า

สรุปการแข่งขันฟุตบอลโอลิมปิก 2024

รอบแบ่งกลุ่มเสร็จสิ้น ทีมที่ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย

  • กลุ่ม A: ฝรั่งเศส, สหรัฐอเมริกา
  • กลุ่ม B: โมร็อกโก, อาร์เจนติน่า
  • กลุ่ม C: อียิปต์, สเปน
  • กลุ่ม D: ญี่ปุ่น, ปารากวัย

รอบแบ่งกลุ่มเสร็จสิ้น ทีมที่ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย

โปรแกรมรอบ 8 ทีมสุดท้าย

  • 2 ส.ค.: โมร็อกโก vs สหรัฐฯ, ญี่ปุ่น vs สเปน
  • 3 ส.ค.: อียิปต์ vs ปารากวัย, ฝรั่งเศส vs อาร์เจนติน่า

ผู้ชนะจะเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลโอลิมปิก 2024 ต่อไป

ลิลลี่ เหงียน เปิดใจกรณีดรามา ใช้คำผิดพลาดในรายการแฉ

ลิลลี่ เหงียน นักแสดงสาวชื่อดัง ได้แถลงข่าวเปิดใจต่อกรณีดราม่าที่เกิดขึ้นหลังจากที่เธอได้ไปร่วมรายการ “แฉ”

ขอโทษและชี้แจงเรื่องคำพูดที่ไม่เหมาะสม

ลิลลี่ เหงียน นักแสดงสาวชื่อดัง ได้แถลงข่าวเปิดใจต่อกรณีดราม่าที่เกิดขึ้นหลังจากที่เธอได้ไปร่วมรายการ “แฉ” และใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสมในการเล่าถึงสามีคนที่ 3 โดยใช้คำว่า “ประมุขของประเทศไทย” ซึ่งทำให้เกิดความเข้าใจผิดและการโยงถึงบุคคลสำคัญในวงการการเมือง

ลิลลี่ ได้ออกมาขอโทษและชี้แจงว่า การใช้คำว่า “ประมุขของประเทศไทย” นั้นเป็นความเข้าใจผิดของเธอเอง ซึ่งที่จริงแล้วอดีตแฟนคนที่ 3 ของเธอเป็นนักการเมืองและอดีตประธานสภาฯ เธอเข้าใจผิดว่าตำแหน่งนี้เปรียบเสมือนตำแหน่งประมุขของประเทศไทย ลิลลี่ได้ยกมือไหว้และขอโทษอย่างจริงใจต่อความเข้าใจผิดดังกล่าว

ชี้แจงข้อกล่าวหาว่าเป็นเมียน้อย

นอกจากนี้ ลิลลี่ เหงียน ได้ชี้แจงเรื่องที่เธอถูกนายเอิร์ก เลเดอเรอร์ กล่าวหาว่าเป็นเมียน้อย โดยเธอยืนยันว่าเธอได้ขออนุญาตจากอดีตแฟนและครอบครัวของเขาแล้ว และไม่ได้มีการกระทำใดที่ผิดศีลธรรม เธอเล่าถึงความเจ็บปวดในวัยเด็กที่พ่อแม่แยกทางกันและพ่อเอาคนใช้มาเป็นภรรยา ทำให้เธอมีปมที่ไม่อยากเป็นเมียน้อยของใคร

ขอโทษกรณีโยงไปถึงทักษิณ ชินวัตร

เมื่อถูกถามถึงกระแสดรามาที่ถูกโยงไปถึง ทักษิณ ชินวัตร ลิลลี่ได้ยกมือไหว้และขอโทษอีกครั้ง โดยยืนยันว่าเธอไม่มีเจตนาและไม่รู้จักทักษิณโดยส่วนตัว เธอขออภัยหากการกระทำของเธอทำให้ครอบครัวของทักษิณต้องเดือดร้อน

บทเรียนครั้งนี้คงเป็นการเตือนใจให้เราทุกคนระมัดระวังในการใช้คำพูดและการแสดงความคิดเห็นในที่สาธารณะเสมอ เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดและกระทบต่อบุคคลอื่น.

ดวงจันทร์บังดาวเสาร์ ครั้งแรกของปี มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เช้ามืด 25 ก.ค.นี้

สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ เผยเช้ามืดวันที่ 25 กรกฎาคม 2567 จะเกิดปรากฏการณ์ “ดวงจันทร์บังดาวเสาร์” ซึ่งสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าทั่วประเทศไทย หากฟ้าใสและไร้เมฆฝน

สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NARIT ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) ประกาศว่า เช้ามืดวันที่ 25 กรกฎาคม 2567 จะเกิดปรากฏการณ์ “ดวงจันทร์บังดาวเสาร์” ซึ่งสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าทั่วประเทศไทย หากฟ้าใสและไร้เมฆฝน

รายละเอียดปรากฏการณ์ ดวงจันทร์บังดาวเสาร์

ปรากฏการณ์นี้จะเกิดขึ้นระหว่างเวลา 03:09 – 04:27 น. (ตามเวลากรุงเทพมหานคร) โดยดาวเสาร์จะค่อย ๆ ลับหายไปหลังดวงจันทร์และกลับมาปรากฏอีกครั้ง ช่วงเวลานี้สามารถสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่าหรือผ่านกล้องโทรทรรศน์ หากมองด้วยกล้องโทรทรรศน์จะเห็นรายละเอียดของวงแหวนดาวเสาร์ที่ชัดเจนมากขึ้น

นายศุภฤกษ์ คฤหานนท์ ผู้อำนวยการศูนย์บริการวิชาการและสื่อสารทางดาราศาสตร์ สดร. เปิดเผยว่า การเกิดปรากฏการณ์นี้ วัตถุทั้งสองจะปรากฏอยู่บริเวณกลางท้องฟ้า โดยดาวเสาร์จะอยู่ใกล้กับส่วนสว่างของดวงจันทร์

วิธีการสังเกตปรากฏการณ์ ดวงจันทร์บังดาวเสาร์

สามารถสังเกตปรากฏการณ์นี้ได้ทุกจังหวัดทั่วไทย ตั้งแต่เวลา 02:30 น. เป็นต้นไป โดยสดร. จะมีการถ่ายทอดสดผ่านทางเฟซบุ๊ก NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ

ความสำคัญของปรากฏการณ์ ดวงจันทร์บังดาวเสาร์

นายศุภฤกษ์ อธิบายเพิ่มเติมว่า การบังกันของวัตถุท้องฟ้า (Occultations) มีความสำคัญอย่างมากต่อวงการวิจัยดาราศาสตร์ เนื่องจากสามารถใช้ในการคำนวณหาขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของวัตถุ คำนวณหาระยะห่างระหว่างโลกกับดวงจันทร์ ตรวจหาและศึกษาโครงสร้างของชั้นบรรยากาศ รวมถึงการใช้ตรวจหาวงแหวนของดาวเคราะห์ชั้นนอก

ปรากฏการณ์ครั้งถัดไป

ปรากฏการณ์ “ดวงจันทร์บังดาวเสาร์” ในปีนี้จะเกิดขึ้นอีกครั้งในวันที่ 15 ตุลาคม 2567 ช่วงเช้ามืด เวลาประมาณ 02:19 – 03:00 น. ซึ่งสามารถสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่าในพื้นที่ภาคเหนือ บางส่วนของภาคกลาง ภาคตะวันตก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลปรากฏการณ์เพิ่มเติมได้ทางเฟซบุ๊ก NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ