รองนายก ลงพื้นที่ลำปาง ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมและการฟื้นฟู

ข่าวการเมือง กรมชลประทานได้เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาอุทกภัยในระยะยาว โดยมีแผนศึกษาการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำของแม่น้ำวัง

ข่าวการเมือง เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2567 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ลงพื้นที่จังหวัดลำปาง เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วมจากพายุดีเปรสชั่นยางิและซูลิก ที่ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากลงสู่เขื่อนกิ่วคอหมาเกินความจุของเขื่อน ส่งผลให้ต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำเพื่อป้องกันความเสียหาย โดยมีนายเดช เล็กวิชัย รองอธิบดีกรมชลประทาน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่และบรรยายสรุปสถานการณ์ ณ เขื่อนกิ่วคอหมา อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง

ผลกระทบจากการระบายน้ำเขื่อนกิ่วคอหมา

สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดลำปางเกิดจากฝนที่ตกหนักต่อเนื่อง ทำให้มีปริมาณน้ำในเขื่อนกิ่วคอหมาและเขื่อนกิ่วลมเพิ่มขึ้น ต้องมีการระบายน้ำออก ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายน้ำในเขตอำเภอเมืองลำปาง พื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนหลายแห่งได้รับความเสียหาย กรมชลประทานได้ออกประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำเฝ้าระวังและยกของขึ้นที่สูง

การฟื้นฟูและช่วยเหลือประชาชน

ปัจจุบันสถานการณ์น้ำในพื้นที่คลี่คลายแล้ว หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มเติม คาดว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติในไม่ช้า กรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันสนับสนุนเครื่องมือและกำลังพลในการฟื้นฟูพื้นที่ เช่น การฉีดล้างทำความสะอาดบ้านเรือนและถนนหนทางที่ได้รับความเสียหาย

แนวทางแก้ไขปัญหาระยะยาว

ข่าวการเมือง กรมชลประทานได้เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาอุทกภัยในระยะยาว โดยมีแผนศึกษาการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำของแม่น้ำวัง การเพิ่มความจุของเขื่อนกิ่วคอหมาและเขื่อนกิ่วลม รวมถึงการก่อสร้างแนวผันน้ำเลี่ยงเขตเศรษฐกิจในอำเภอเมืองลำปาง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในอนาคต

รองนายกฯ ภูมิธรรม เปิดเผยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม และได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการฟื้นฟู เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็ว

Japan Airlines ห้องโดยสารเป็นสีชมพูอ่อน ต้อนรับบรรยากาศซากุระ

หลังจากข่าวต่างประเทศ เรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตพากันแสดงความคิดเห็นชื่นชมไอเดียของกัปตันที่เปลี่ยนการเดินทางธรรมดาให้กลายเป็นประสบการณ์สุดประทับใจ

ข่าวต่างประเทศ เมื่อวันที่ 28 กันยายน ที่ผ่านมา มีเรื่องราวสุดน่ารักที่สร้างความอบอุ่นใจในห้องโดยสารเครื่องบินของสายการบิน Japan Airlines ซึ่งถูกเผยแพร่โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยว YAMA (@yama31183) บนโซเชียลมีเดีย โดย YAMA เล่าถึงการเดินทางที่เกิดขึ้นในค่ำคืนฝนตก ท้องฟ้ามืดมิด ไม่มีทิวทัศน์ใดให้ชม แต่แล้วจู่ๆ กัปตันของเที่ยวบินก็สร้างเซอร์ไพรส์เล็กๆ ด้วยการเปลี่ยนแสงไฟในห้องโดยสารให้กลายเป็นสีชมพูอ่อน ราวกับมีดอกซากุระโปรยปรายทั่วห้องโดยสาร

คำประกาศสุดโรแมนติกของกัปตัน

นอกจากการเปลี่ยนแสงไฟในห้องโดยสารแล้ว กัปตันยังได้ประกาศคำพูดที่ทำให้หัวใจของผู้โดยสารอบอุ่นขึ้นว่า “ผมหวังว่าวันพรุ่งนี้ของคุณจะสวยงามเหมือนดอกซากุระที่เบ่งบาน” คำพูดเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความหมายนี้ ได้สร้างความรู้สึกพิเศษให้กับผู้โดยสารทุกคน

ชาวเน็ตแห่ชื่นชมไอเดียสุดสร้างสรรค์

หลังจากข่าวต่างประเทศ เรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตพากันแสดงความคิดเห็นชื่นชมไอเดียของกัปตันที่เปลี่ยนการเดินทางธรรมดาให้กลายเป็นประสบการณ์สุดประทับใจ หลายคนบอกว่าการเปลี่ยนแสงไฟในห้องโดยสารเช่นนี้ไม่เพียงสร้างบรรยากาศใหม่ๆ แต่ยังทำให้ผู้โดยสารรู้สึกอิ่มใจและผ่อนคลายได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ผู้โดยสารหลายคนต่างประหลาดใจและชื่นชมว่า “แผนการที่มีสไตล์ของนักบิน” หรือ “ฉันไม่เคยรู้มาก่อนว่าสามารถเปลี่ยนสีไฟบนเครื่องบินได้” ยิ่งทำให้เรื่องราวนี้กลายเป็นที่จดจำในโลกออนไลน์

อาลัย “โจว จุนเฉิง” ชายหนุ่มผู้ขยัน อดทน สู้โรคหายากจนวาระสุดท้าย

ข่าวต่างประเทศ เรื่องราวของ “โจว จุนเฉิง” หนุ่มจากมณฑลหูเป่ย์ ประเทศจีน เป็นเรื่องที่สร้างความสะเทือนใจอย่างมากให้กับชาวเน็ต เขาเป็นชายหนุ่มผู้ขยันขันแข็ง แม้จะเติบโตมาในครอบครัวที่ยากจนและพ่อแม่ล้มป่วย

ข่าวต่างประเทศ เรื่องราวของ “โจว จุนเฉิง” หนุ่มจากมณฑลหูเป่ย์ ประเทศจีน เป็นเรื่องที่สร้างความสะเทือนใจอย่างมากให้กับชาวเน็ต เขาเป็นชายหนุ่มผู้ขยันขันแข็ง แม้จะเติบโตมาในครอบครัวที่ยากจนและพ่อแม่ล้มป่วย แต่เขายังคงทำงานหนักเพื่อช่วยเหลือครอบครัวเสมอ อย่างไรก็ตาม ชะตาชีวิตกลับไม่เป็นใจ เมื่อเขาต้องเผชิญกับโรคตับอ่อนอักเสบและโรคหลอดเลือดสมองโมยาโมยา (Moya-Moya disease) ซึ่งเป็นโรคที่หายาก ส่งผลให้ชีวิตของเขาสั้นลงและเสียชีวิตลงในวัยเพียง 34 ปี

โจว จุนเฉิง กับความยากลำบากในชีวิตและอุบัติเหตุที่เปลี่ยนแปลงทุกอย่าง

โจวได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคร้ายแรง แต่เขายังคงทำงานหาเงินช่วยครอบครัว กระทั่งเกิดอุบัติเหตุเมื่อเขาขี่มอเตอร์ไซค์กลับบ้านหลังทำงานล่วงเวลา ส่งผลให้บาดเจ็บที่ศีรษะ แม้จะมีคนช่วยเหลือ แต่เขากลับปฏิเสธไม่ไปโรงพยาบาลเพราะครอบครัวไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาล เขายอมทนเจ็บและเลือกที่จะ “รอตาย” ที่บ้าน ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่บีบหัวใจผู้คนที่ได้รับรู้เรื่องราวนี้

การช่วยเหลือและการจากไปอย่างน่าเศร้า

หลังจากเรื่องราวของโจวถูกเผยแพร่ ชาวเน็ตได้ร่วมบริจาคเงินกว่า 2.6 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลและปรับปรุงสภาพแวดล้อมในบ้าน อย่างไรก็ตาม โชคชะตาไม่เป็นใจ เมื่อโจวล้มป่วยอีกครั้งในเดือนมิถุนายน และเสียชีวิตในวันที่ 24 กันยายน แม้ในช่วงเวลาสุดท้าย เขายังคงกล่าวคำขอโทษต่อเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์และทุกคนที่เกี่ยวข้อง ด้วยจิตใจที่อ่อนน้อมและมีน้ำใจเสมอ

ข่าวต่างประเทศ เรื่องราวของโจว จุนเฉิง สะท้อนถึงความยากลำบากในชีวิตที่ต้องเผชิญกับโรคร้ายและความยากจน แม้เขาจะต่อสู้จนถึงวาระสุดท้าย แต่การจากไปของเขาก็ทิ้งไว้ซึ่งความเศร้าใจและความเห็นใจในหมู่ผู้คนที่ได้รับรู้

เกาะอาโอชิมะ เกาะแมวญี่ปุ่น ใกล้สิ้นสุด แมวและผู้สูงอายุกำลังลดจำนวนลง

กาะอาโอชิมะ จังหวัดเอฮิเมะ ประเทศญี่ปุ่น หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “เกาะแมวญี่ปุ่น” เป็นสถานที่ที่เคยมีชื่อเสียงจากจำนวนแมวที่อาศัยอยู่มากกว่าคนถึง 6 เท่า

เกาะอาโอชิมะ จังหวัดเอฮิเมะ ประเทศญี่ปุ่น หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “เกาะแมวญี่ปุ่น” เป็นสถานที่ที่เคยมีชื่อเสียงจากจำนวนแมวที่อาศัยอยู่มากกว่าคนถึง 6 เท่า โดยในอดีตมีแมวมากกว่า 120 ตัวบนเกาะ ในขณะที่มีผู้อาศัยเพียง 20 คน แต่ปัจจุบันเกาะแห่งนี้กำลังเผชิญกับช่วงวิกฤต เนื่องจากแมวบนเกาะส่วนใหญ่อายุมากขึ้น และจำนวนประชากรแมวกำลังลดลงเรื่อย ๆ

การลดจำนวนของแมวและอนาคตของเกาะ

ทวิตเตอร์ทางการของเกาะอาโอชิมะ ได้เปิดเผยว่า แมวที่เหลืออยู่บนเกาะขณะนี้มีอายุเกิน 7 ปีแล้ว และตั้งแต่เดือนตุลาคม 2561 หลังการทำหมันแมวทั้งหมด ไม่มีลูกแมวเกิดใหม่เลย ทำให้คาดการณ์ว่าแมวบนเกาะอาโอชิมะอาจจะหายไปในอีก 2-3 ปีข้างหน้า

นอกจากประชากรแมวที่ลดลง จำนวนประชากรบนเกาะก็ลดลงอย่างมากเช่นกัน โดยปัจจุบันมีผู้สูงอายุอาศัยอยู่บนเกาะเพียง 5 คนเท่านั้น ซึ่งหากไม่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนเกาะเหมือนที่เคย มีการพูดถึงการลดจำนวนเที่ยวเรือหรือยกเลิกการเดินเรือเฟอร์รี่ทั้งหมด หากการเดินทางมายังเกาะยุติลง เกาะอาโอชิมะอาจสิ้นสุดในฐานะ “เกาะแมว”

มรดกแห่งเกาะแมวญี่ปุ่น

แม้ว่าปัจจุบันเกาะอาโอชิมะ จะเผชิญกับการลดจำนวนทั้งของประชากรแมวและคน แต่เกาะแห่งนี้ยังคงเป็นที่จดจำในฐานะสถานที่ที่แมวและคนอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน แมวเหล่านี้เคยช่วยชาวประมงในการไล่จับหนูบนเรือและบ้านเรือน สร้างความสัมพันธ์ที่น่ารักระหว่างชาวเกาะและแมวที่ยากจะลืม

สำหรับผู้ที่เคยฝันอยากมาเยี่ยมชม “เกาะแมวญี่ปุ่น” อาโอชิมะ นี่อาจเป็นโอกาสสุดท้ายในการมาเยือนก่อนที่ทั้งแมวและผู้อาศัยจะหายไปจากเกาะ

โรเซ่ เซ็นสัญญากับ Atlantic Records ในฐานะศิลปินเดี่ยว

โรเซ่ (Rosé) สมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดัง BLACKPINK ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าเธอได้เซ็นสัญญากับค่ายเพลงระดับโลก Atlantic Records

โรเซ่ (Rosé) สมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดัง BLACKPINK ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าเธอได้เซ็นสัญญากับค่ายเพลงระดับโลก Atlantic Records ในฐานะศิลปินเดี่ยว โดยเธอได้โพสต์ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว @roses_are_rosie ว่า

“ฉันรู้สึกตื่นเต้นมากที่จะประกาศให้ทุกคนทราบว่า ฉันได้เซ็นสัญญากับ @atlanticrecords แล้ว!!! ฉันรู้ว่าทุกคนรอช่วงเวลานี้มานานมากกกก แต่ฉันก็หวังว่าทุกคนจะพร้อมสำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ฉันแทบรอไม่ไหวที่จะให้ทุกคนได้ยินทุกอย่าง อดใจรออีกนิดนะ! คิดถึงพวกคุณมากๆ”

ก้าวใหม่ของโรเซ่ในฐานะศิลปินเดี่ยว

ข่าวต่างประเทศวันนี้ การเซ็นสัญญาครั้งนี้ถือเป็นก้าวใหม่ที่สำคัญสำหรับโรเซ่ โดยเธอจะได้ทำงานกับค่าย Atlantic Records ซึ่งเป็นบ้านของศิลปินระดับโลกอย่าง Bruno Mars, Silk Sonic, Cardi B และศิลปินชั้นนำอื่น ๆ อีกมากมาย ทำให้แฟน ๆ ต่างคาดหวังและตั้งตารอผลงานใหม่จากโรเซ่ที่กำลังจะเปิดตัวในอนาคต

การเคลื่อนไหวของโรเซ่

นอกจากนี้โรเซ่ยังทิ้งท้ายในโพสต์ว่า

“ป.ล. ติดตาม @vampirehollie เพื่อรับการอัปเดตอย่างรวดเร็ว รวมถึงโมเมนต์น่ารัก ๆ จากทีมได้เลย”

ซึ่งเพิ่มความตื่นเต้นให้กับแฟน ๆ ที่อยากติดตามความเคลื่อนไหวของเธออย่างใกล้ชิด

การเซ็นสัญญาครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ถึงศักยภาพและความสำเร็จของโรเซ่ในฐานะศิลปินเดี่ยวที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง

“พร้อมพงศ์” ปิดสวิตช์ ประวิตร พร้อมเปิดหลักฐานการลาประชุม

ข่าวการเมืองวันนี้ จากการตรวจสอบพบว่า พลเอกประวิตรขาดการโหวตกฎหมายสำคัญถึง 13 ครั้ง จากทั้งหมด 16 ครั้ง ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 81.25

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย ได้ออกมาเปิดเผยว่า ในวันพุธที่ 25 กันยายนนี้ เขาจะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ตรวจสอบการลาประชุมของ ส.ส. โดยเฉพาะพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ โดยพร้อมพงศ์ยืนยันว่า จากหลักฐานที่รวบรวมมา เชื่อว่าจะสามารถเอาผิดพลเอกประวิตรได้

ข่าวการเมืองวันนี้ จากการตรวจสอบพบว่า พลเอกประวิตรขาดการโหวตกฎหมายสำคัญถึง 13 ครั้ง จากทั้งหมด 16 ครั้ง ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 81.25 ในขณะที่ส.ส.ส่วนใหญ่มีการลาประชุมเฉลี่ยเพียงร้อยละ 3.91 พร้อมพงศ์ตั้งข้อสังเกตว่าการขาดประชุมนี้อาจเป็นการละเลยหน้าที่ และเป็นการทรยศต่อประชาชนที่ไว้วางใจเลือกเข้ามาทำงานในสภาฯ

พร้อมพงศ์ ยังยืนยันว่า ในวันพุธนี้ เขาจะเปิดเผยหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่าพลเอกประวิตรไปทำอะไรในวันที่ขาดการประชุม โดยในบางครั้งพลเอกประวิตรได้ลงพื้นที่ช่วยประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี แต่ควรทำในวันศุกร์ เสาร์ หรืออาทิตย์ แทนที่จะขาดประชุมสภาฯ นอกจากนี้ นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล ยังเปิดเผยว่า ตลอดการประชุมสภาฯ พลเอกประวิตรไม่เคยเข้าร่วมประชุมเลย

พร้อมพงศ์ ยังย้ำว่า การตรวจสอบครั้งนี้จะไม่มี “มวยล้มต้มคนดู” และประชาชนจะต้องตะลึงกับหลักฐานที่ถูกเปิดเผย

บิ๊กแจ๊ด ผลการเลือกตั้ง อบจ.ปทุมธานี

ผลการเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี บิ๊กแจ๊ด พลตำรวจโท คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง คว้าชัยชนะ

ผลการเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี บิ๊กแจ๊ด พลตำรวจโท คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง คว้าชัยชนะ

ข่าวการเมือง เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2567 การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปทุมธานี ได้เสร็จสิ้นลง โดยคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำ อบจ.ปทุมธานี ได้สรุปผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการดังนี้

  • จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด: 953,302 คน
  • จำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง: 357,695 คน
  • บัตรดี: 325,393 ใบ
  • บัตรเสีย: 7,258 ใบ
  • บัตรไม่เลือกผู้สมัครใด: 25,044 ใบ

ผลการเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี

  1. พลตำรวจโท คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง: 187,975 คะแนน
  2. นายชาญ พวงเพ็ชร์: 120,007 คะแนน
  3. นายนพดล ลัดดาแย้ม: 9,736 คะแนน
  4. นายอธิวัฒน์ สอนเนย: 7,675 คะแนน

ข่าวการเมือง จากผลการเลือกตั้ง พลตำรวจโท คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ได้รับคะแนนสูงสุด โดยมีคะแนนมากกว่านายชาญ พวงเพ็ชร์ ถึง 67,968 คะแนน ซึ่งผลการเลือกตั้งนี้ มีผู้มาใช้สิทธิมากกว่า 30% ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด

ราชกิจจา ประกาศใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลบังคับใช้ใน 120 วัน

ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศ กฎหมายสมรสเท่าเทียม ซึ่งเป็นกฎหมายที่ปรับแก้เพื่อให้การสมรสของคู่สมรสเป็นไปอย่างเท่าเทียม

เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567 ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2567 หรือ กฎหมายสมรสเท่าเทียม ซึ่งเป็นกฎหมายที่ปรับแก้เพื่อให้การสมรสของคู่สมรสเป็นไปอย่างเท่าเทียม

โดยกฎหมายฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้หลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา 120 วัน หรือประมาณวันที่ 22 มกราคม 2568

สาระสำคัญของกฎหมายสมรสเท่าเทียม

พระราชบัญญัตินี้ได้มีการปรับแก้ มาตรา 43 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ โดยระบุว่าภูมิลำเนาของคู่สมรสเป็นถิ่นที่อยู่ที่คู่สมรสอยู่ด้วยกัน เว้นแต่คู่สมรสฝ่ายใดแสดงเจตนาว่ามีภูมิลำเนาแยกจากกัน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลให้สิทธิการสมรสของคู่สมรสมีความเท่าเทียมกันมากขึ้น

สำหรับผู้ที่ต้องการจดทะเบียนสมรสตามกฎหมายใหม่ จะต้องรอให้พ้นระยะเวลา 120 วันหลังจากประกาศใช้ หรือเริ่มตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม 2568 จึงจะสามารถดำเนินการจดทะเบียนสมรสตามกฎหมายใหม่ที่รับรองสิทธิสมรสเท่าเทียมได้

สมรสเท่าเทียม คือออะไร

สมรสเท่าเทียม คือ กฎหมายที่รับรองสิทธิให้บุคคลที่มีเพศเดียวกันสามารถจดทะเบียนสมรสกันได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย เช่นเดียวกับคู่สมรสชายหญิงทั่วไป กฎหมายนี้มีเป้าหมายเพื่อให้สิทธิและความคุ้มครองทางกฎหมายแก่คู่รักเพศเดียวกัน เช่น สิทธิในการเป็นคู่สมรสที่ถูกต้องตามกฎหมาย สิทธิในการรับมรดก สิทธิในการตัดสินใจเกี่ยวกับสุขภาพ และสิทธิอื่น ๆ ที่คู่สมรสเพศตรงข้ามมี

สมรสเท่าเทียม เริ่มใช้วันไหน

กฎหมายสมรสเท่าเทียมในประเทศไทย ได้รับการประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567 และจะมีผลบังคับใช้หลังจากประกาศ 120 วัน ซึ่งหมายความว่ากฎหมายจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม 2568

งดเก็บ ค่าไฟ ก.ย.-ต.ค. ช่วยน้ำท่วม ใช้ทางรัฐ จ่ายเงินเยียวยา

ครม. อนุมัติยกเว้นค่าไฟฟ้าและลดค่าไฟในพื้นที่ประสบอุทกภัย พร้อมศึกษาความเป็นไปได้ในการใช้แอป “ทางรัฐ” ในสถานการณ์ฉุกเฉิน

ครม. อนุมัติยกเว้นค่าไฟฟ้าและลดค่าไฟ ในพื้นที่ประสบอุทกภัย พร้อมศึกษาความเป็นไปได้ในการใช้แอป “ทางรัฐ” ในสถานการณ์ฉุกเฉิน

เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แถลงข่าวหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า รัฐบาลเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ มาตรการช่วยเหลือด้านค่าไฟฟ้าสำหรับประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยในเดือนกันยายน 2567 จะยกเว้นการเก็บค่าไฟฟ้า และในเดือนตุลาคม 2567 จะลดค่าไฟลง 30% ก่อนคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

มาตรการพักชำระหนี้และการฟื้นฟูลูกหนี้เกษตรกร

คณะรัฐมนตรี ได้อนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ มาตรการพักชำระหนี้ให้กับลูกหนี้รายย่อยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ โดยมาตรการนี้จะมีระยะเวลาสองช่วงคือ ช่วงแรกตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2567 – 30 กันยายน 2568 และช่วงที่สองตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2568 – 30 กันยายน 2569 เพื่อให้เกษตรกรได้รับการช่วยเหลือและสามารถฟื้นตัวจากภาระหนี้สินได้

พัฒนาแอปทางรัฐ เพื่อใช้ในสถานการณ์วิกฤต

รัฐบาลได้สั่งการให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมศึกษาความเป็นไปได้ในการใช้แอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ในการรายงานเหตุฉุกเฉินและแบ่งหน้าที่การทำงานของอาสาสมัครในช่วงสถานการณ์อุทกภัย เพื่อลดความซ้ำซ้อนและเพิ่มความรวดเร็วในการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ยังมีการเร่งรัดการใช้ระบบ Cell Broadcast เพื่อแจ้งเตือนภัยอย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีแนะนำให้ประชาชนโหลดแอป “ทางรัฐ” ไว้ล่วงหน้า เพราะแอปนี้จะสามารถใช้ในการลงทะเบียนรับเงินเยียวยา และ เช็คสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วในอนาคต

ลำปาง น้ำป่าไหลหลาก ต้องเร่งระบายน้ำด่วน

จังหวัดลำปาง เผชิญกับฝนตกหนักต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและทำให้เขื่อนกิ่วคอหมาเต็มความจุ จนต้องเร่งระบายน้ำลงสู่แม่น้ำวังเพื่อรักษาความปลอดภัยของเขื่อน

จังหวัดลำปาง เผชิญกับฝนตกหนักต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและทำให้เขื่อนกิ่วคอหมาเต็มความจุ จนต้องเร่งระบายน้ำลงสู่แม่น้ำวังเพื่อรักษาความปลอดภัยของเขื่อน

โดยในเช้าวันที่ 25 กันยายน 2567 เขื่อนกิ่วคอหมาระบายน้ำอยู่ที่ 255 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และเขื่อนกิ่วลมระบายน้ำที่ 322 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

ผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำ

การระบายน้ำจากเขื่อน จะส่งผลให้พื้นที่ลุ่มต่ำในจังหวัดลำปาง ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะหมู่ 1 บ้านบุญนาคพัฒนา ตำบลบุญนาคพัฒนา และพื้นที่ลุ่มต่ำในเขตเทศบาลนครลำปาง ระดับน้ำคาดว่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 70-85 เซนติเมตร ส่งผลกระทบต่อบริเวณถนนเลียบแม่น้ำวังและถนนในพื้นที่ลุ่มต่ำทั้งสองฝั่งแม่น้ำ

การเตรียมการและเฝ้าระวัง

กรมชลประทานได้ประสานกับจังหวัดลำปางและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแจ้งเตือนประชาชนให้เคลื่อนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ กรมชลประทานยืนยันว่าเขื่อนกิ่วลมและกิ่วคอหมามีความมั่นคงแข็งแรงและปลอดภัย