รู้จัก เรือหลวงช้าง เรืออเนกประสงค์ยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่

เรือหลวงช้าง (HTMS Chang) เป็นเรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ (LPD – Landing Platform Dock) ที่ได้รับการต่อขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของกองทัพเรือไทย

เรือหลวงช้าง (HTMS Chang) เป็นเรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ (LPD – Landing Platform Dock) ที่ได้รับการต่อขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของกองทัพเรือไทย ตามยุทธศาสตร์การป้องกันและการสนับสนุนการยกพลขึ้นบกของกองทัพเรือ โดยเรือลำนี้ได้รับพระราชทานชื่อจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ตามชื่อของเกาะช้างในจังหวัดตราด

ประวัติ เรือหลวงช้าง 

เรือหลวงช้าง เป็นเรือลำที่สามที่ใช้ชื่อว่า “เรือหลวงช้าง” ในกองทัพเรือไทย การต่อเรือเริ่มต้นภายใต้ความร่วมมือระหว่างกองทัพเรือไทยและบริษัท China Shipbuilding Trading จากประเทศจีนในปี พ.ศ. 2562 โดยเรือลำนี้ถูกปล่อยลงน้ำครั้งแรกในเดือนมกราคม พ.ศ. 2566 เรือลำนี้มีความยาว 210 เมตร กว้าง 28 เมตร ระวางขับน้ำสูงสุด 25,000 ตัน และสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 25 นอต

คุณลักษณะและภารกิจ เรือหลวงช้าง

เรือหลวงช้างมีคุณลักษณะเด่นในการรองรับการปฏิบัติการยุทธสะเทินน้ำสะเทินบก สามารถบรรทุกกำลังรบได้ 600 นาย และยานพาหนะต่าง ๆ เช่น รถสะเทินน้ำสะเทินบก (AAV) และยานเกราะล้อยาง นอกจากนี้ยังสามารถบรรทุกเรือระบายพลขนาดกลางและเล็กได้อีกด้วย ภารกิจหลักของเรือหลวงช้างรวมถึงการปฏิบัติการยุทธสะเทินน้ำสะเทินบก การขนส่งและลำเลียงกำลังพล และการสนับสนุนการปฏิบัติการของเรือดำน้ำ นอกจากนี้ยังมีบทบาทในการช่วยเหลือและบรรเทาสาธารณภัย และการอพยพประชาชนในกรณีฉุกเฉิน

ราคาและหมายเลข เรือหลวงช้าง

เรือหลวงช้างใช้งบประมาณในการจัดซื้อประมาณ 6,100 ล้านบาท และมีหมายเลขประจำเรือคือ LPD-792 โดยปัจจุบันมี นาวาเอก ธีรสาร คงมั่น เป็นผู้บังคับการเรือ

เรือหลวงช้าง เป็นหนึ่งในเรือที่สำคัญที่สุดในกองทัพเรือไทย ที่เสริมสร้างศักยภาพในการป้องกันและปฏิบัติภารกิจต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ

ขุดพบ โกลเด้นบอย (Golden Boy) 50 ปีก่อน เพชรประดับหายเกลี้ยง

ข่าวล่าสุดจากพิพิธภัณฑ์ศิลปะ The Metropolitan Museum of Art (The MET) รัฐนิวยอร์ค สหรัฐฯ ได้ตัดสินใจส่งคืนโบราณวัตถุสองชิ้นสำคัญให้แก่ประเทศไทย หนึ่งในนั้นคือ โกลเด้นบอย (Golden Boy)

การค้นพบและการส่งคืนโบราณวัตถุที่หายไปนานกว่า 50 ปีเป็นเหตุการณ์ที่สะเทือนใจและน่าภาคภูมิใจในเวลาเดียวกัน ข่าวล่าสุดจากพิพิธภัณฑ์ศิลปะ The Metropolitan Museum of Art (The MET) รัฐนิวยอร์ค สหรัฐฯ ได้ตัดสินใจส่งคืนโบราณวัตถุสองชิ้นสำคัญให้แก่ประเทศไทย หนึ่งในนั้นคือ โกลเด้นบอย (Golden Boy) ประติมากรรมสำริดอะไหล่ทองทั้งองค์ โบราณวัตถุเหล่านี้มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2567 การค้นพบว่าโกลเด้นบอยมีต้นกำเนิดจากหมู่บ้านยางโป่งสะเดา อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ทำให้เกิดความตื่นเต้นและความสนใจในเรื่องราวของการค้นพบนี้

ดร.ทนงศักดิ์ หาญวงษ์ นักวิชาการอิสระด้านโบราณคดี ได้เล่าถึงการสืบค้นโบราณวัตถุนี้ว่าต้องใช้เวลานานกว่า 3 ปี ในการต่อจิ๊กซอว์ข้อมูลจากหนังสือ ขแมร์บอนด์ และ ขแมร์โกลด์ ที่เขียนโดยดักลาส แลตช์ฟอร์ด นายหน้าค้าโบราณวัตถุ ซึ่งได้ระบุชัดเจนว่าโกลเด้นบอยพบที่จังหวัดบุรีรัมย์ โดยมีคำว่า “ละหาน” และ “บ้านยาง” ในพิกัดข้อมูล เมื่อนำทีมสำรวจลงพื้นที่ก็พบกับครอบครัวที่เคยขุดพบโกลเด้นบอย และได้ยืนยันว่ามีการค้นพบโกลเด้นบอยในบริเวณปราสาทบ้านยางโป่งสะเดา

นางนิล อายุ 69 ปี ผู้ขุดพบโกลเด้นบอยได้เล่าเรื่องราวการค้นพบในปี 2517 ขณะที่กำลังขุดมันบริเวณนั้นกับสามี เมื่อพบเห็นท่อนขาดำคล้ำและขุดต่อจนพบพระพุทธรูปโกลเด้นบอย นางนิลได้นำพระพุทธรูปกลับมาที่บ้านและล้างทำความสะอาดจนเห็นแสงพุ่งออกมา นางนิลจึงได้นำไปประกาศขายในกรุงเทพฯ และได้ขายให้กับชาวต่างชาติในราคา 1,200,000 บาท อย่างไรก็ตาม นางนิลได้แสดงความเสียใจที่โกลเด้นบอยในปัจจุบันขาดเพชรประดับต่างๆ ที่เคยมีบนองค์โกลเด้นบอย

การส่งคืนโกลเด้นบอยทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ต่างรู้สึกดีใจและภาคภูมิใจ ชาวบ้านต้องการให้มีการนำโกลเด้นบอยมาแสดงในพื้นที่เพื่อให้คนในท้องถิ่นได้เห็นและกราบไหว้เป็นสิริมงคล อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านก็ยอมรับว่าการเก็บรักษาโกลเด้นบอยในหมู่บ้านอาจไม่ปลอดภัย เนื่องจากมูลค่าที่สูง จึงเห็นสมควรให้เก็บรักษาในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เพื่อให้คนไทยทุกคนได้เห็นและศึกษาต่อไป

อิหร่าน เร่งค้นหา เฮลิคอปเตอร์ของประธานาธิบดีอิบราฮิม ระอีซี

อิหร่านกำลังเร่งค้นหาเฮลิคอปเตอร์ของประธานาธิบดีอิบราฮิม ระอีซี ที่ประสบปัญหาในคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยยังไม่ทราบชะตากรรมของประธานาธิบดีและเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่อยู่บนเฮลิคอปเตอร์

อิหร่านกำลังเร่งค้นหาเฮลิคอปเตอร์ของประธานาธิบดีอิบราฮิม ระอีซี ที่ประสบปัญหาในคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยยังไม่ทราบชะตากรรมของประธานาธิบดีและเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่อยู่บนเฮลิคอปเตอร์ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในพื้นที่ป่าทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศใกล้กับเมืองจอลฟา ซึ่งมีสภาพอากาศเลวร้าย ทำให้การกู้ภัยเป็นไปอย่างยากลำบาก

ประธานาธิบดีระอีซีกำลังเดินทางไปยังจังหวัดอาเซอร์ไบจานตะวันออกเพื่อเข้าร่วมพิธีเปิดเขื่อนกับประธานาธิบดีอาเซอร์ไบจาน แต่เฮลิคอปเตอร์ประสบกับปัญหาการลงจอดอย่างยากลำบาก รายงานระบุว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามเข้าถึงพื้นที่แต่พบอุปสรรคจากฝนตกหนัก หมอกหนา และลมกระโชกแรง

สื่อรอยเตอร์รายงานว่าพบผู้โดยสารและลูกเรือบางส่วนแล้ว แต่ยังไม่มีการยืนยันจากสภาเสี้ยววงเดือนแดงอิหร่าน ประธานาธิบดีอาเซอร์ไบจานได้แสดงความเสียใจและเสนอความช่วยเหลือ ส่วนอยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ได้ออกมาให้ความมั่นใจกับประชาชนว่าเหตุการณ์นี้จะไม่กระทบต่อกิจการของประเทศ ในขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

พยากรณ์อากาศ 20 พฤษภาคม 2567

วันนี้ (20 พ.ค.) กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่าลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น ลมกระโชกแรง

วันนี้ (20 พ.ค.) กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่าลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น ลมกระโชกแรง และฝนตกหนักบางพื้นที่ โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคกลาง (รวมถึงกรุงเทพฯ) ภาคตะวันออก และภาคใต้ คลื่นลมในทะเลอันดามันสูง 1-2 เมตร และสูงกว่า 2 เมตรในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

ช่วงวันที่ 22-26 พ.ค. 67 หย่อมความกดอากาศต่ำในอ่าวเบงกอลตอนล่างจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้มีฝนเพิ่มขึ้นและตกหนักในบางแห่ง โดยเฉพาะด้านตะวันตกของภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และเพิ่มความระมัดระวังในการเดินทาง ชาวเรือในทะเลอันดามันควรงดการเดินเรือ ส่วนอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

อ่านเพิ่มเติม ข่าวพยากรณ์อากาศ

ประวัติ บุ้ง ทะลุวัง นักกิจกรรมทางการเมือง จากผู้สนับสนุนสู่ผู้ถูกดำเนินคดี

น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือที่รู้จักในชื่อ บุ้ง ทะลุวัง เป็นนักกิจกรรมทางการเมืองวัย 26 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในแกนนำสำคัญของกลุ่มทะลุวัง

บุ้ง ทะลุวัง คือใคร 

น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือที่รู้จักในชื่อ บุ้ง ทะลุวัง เป็นนักกิจกรรมทางการเมืองวัย 26 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในแกนนำสำคัญของกลุ่มทะลุวัง กลุ่มเคลื่อนไหวที่เรียกร้องประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย บุ้งมีบทบาทเป็น “ฉากหลัง” ที่คอยสนับสนุนและดูแลการทำกิจกรรมทางการเมืองของกลุ่มทะลุวังอย่างต่อเนื่อง บุ้งเติบโตขึ้นในครอบครัวที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย โดยพ่อของเธอเป็นผู้พิพากษาและพี่สาวเป็นทนายความ

ด้านการศึกษา

พี่สาวของบุ้งเคยให้สัมภาษณ์กับ BBC Thai เมื่อปี พ.ศ. 2565 ระบุว่าบุ้งเป็นเด็กเรียนเก่ง มีผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์ดีมาก และยังเป็นเด็กกิจกรรมที่มีความรับผิดชอบสูง ในช่วงที่เรียนที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า บุ้งเคยทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการนักเรียน ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่เสริมสร้างความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่นและการเป็นผู้นำ

หลังจากจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษา บุ้งได้เข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยที่ภาควิชาการเงิน คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และในขณะเดียวกันก็ทำงานเป็นครูสอนพิเศษภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ให้กับเธอได้อย่างดี

บุ้ง ทะลุวัง เคยถูกจับกุมและต้องขังหลายครั้งเนื่องจากการเข้าร่วมกิจกรรมประท้วงต่างๆ และล่าสุดถูกขังที่ทัณฑสถานหญิงกลางตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม 2567 หลังถูกศาลอาญากรุงเทพใต้ตัดสินจำคุก 1 เดือนในข้อหาละเมิดอำนาจศาล การจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นจากการที่บุ้งและเพื่อนร่วมกลุ่มเข้าร่วมการประท้วงที่ศาลเพื่อเรียกร้องสิทธิของผู้ต้องขังทางการเมือง

ในระหว่างที่ถูกขัง บุ้งได้ประกาศอดอาหารและน้ำประท้วงตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2567 เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมในกระบวนการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชนสำหรับผู้ต้องขังทางการเมือง การประท้วงนี้เป็นการแสดงออกถึงความตั้งใจและความมุ่งมั่นของบุ้งในการต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนและความยุติธรรมในสังคม

บุ้ง ทะลุวัง เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยในประเทศไทย การเสียชีวิตของเธอเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่สำหรับกลุ่มนักเคลื่อนไหวและผู้ที่สนับสนุนการปฏิรูปสถาบันและการยุติความไม่เป็นธรรมในสังคมไทย

บุ้ง ทะลุวัง เสียชีวิตแล้ว

ข่าวด่วน บุ้ง ทะลุวัง เสียชีวิตแล้ว

น.ส.เนติพร หรือ บุ้ง ทะลุวัง ผู้ต้องขังคดีทางการเมือง ได้เสียชีวิตหลังหัวใจหยุดเต้นขณะอยู่ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์

วันที่ 14 พฤษภาคม 2567 น.ส.เนติพร หรือ บุ้ง ทะลุวัง ผู้ต้องขังคดีทางการเมือง ได้เสียชีวิตหลังหัวใจหยุดเต้นขณะอยู่ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ แม้ทีมแพทย์จะพยายามช่วยชีวิตและส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ แต่ไม่สามารถรักษาไว้ได้ ร่างของเธอถูกนำไปชันสูตรที่นิติเวชของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตยังไม่เปิดเผย

บุ้ง ทะลุวัง ถูกขังตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม 2567 หลังศาลอาญากรุงเทพใต้ตัดสินจำคุก 1 เดือนเนื่องจากละเมิดอำนาจศาล

จากนั้นเธอประกาศอดอาหารและน้ำประท้วงตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2567 เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงที่กลุ่มนักเคลื่อนไหวทางการเมืองอีกหลายคนก็กำลังอดอาหารประท้วงเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมเช่นกัน

ประวัติ บุ้ง ทะลุวัง

ชาวบ้านเก็บเห็ด เจอหินแกะสลัก เป็น พระนางสิริมหามายา

เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ชาวบ้านที่เข้าไปเก็บเห็ดในป่าเขากระเจียว ตำบลลำนางรอง อำเภอโนนดินแดง จังหวัดบุรีรัมย์ พบหินแกะสลักรูปสตรีคล้ายพระนางสิริมหามายา

เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ชาวบ้านที่เข้าไปเก็บเห็ดในป่าเขากระเจียว ตำบลลำนางรอง อำเภอโนนดินแดง จังหวัดบุรีรัมย์ พบหินแกะสลักรูปสตรีคล้ายพระนางสิริมหามายา 

หัวหน้าอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง จึงส่งนายสุทธินันท์ พรหมชัย นักโบราณคดีและทีมงานมาตรวจสอบ พบว่าหินแกะสลักมีความสมบูรณ์ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 6 เมตร แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นของโบราณ ต้องรอการตรวจพิสูจน์จากกรมศิลปากรอีกครั้ง

ชาวบ้านเชื่อว่าหินแกะสลักนี้มีความศักดิ์สิทธิ์ และน่าจะเป็นของโบราณ จึงนำดอกไม้ ธูป เทียนมากราบไหว้และขอพร ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ว่าน่าจะเป็นพระนางสิริมหามายา ขณะเหนี่ยวกิ่งสาละ ซึ่งเป็นพระมารดาของพระโคตมพุทธเจ้า และเป็นพระเชษฐภคินีของพระมหาปชาบดีโคตมีเถรี

นายสุทธินันท์ กล่าวว่า การตรวจสอบยังไม่สามารถยืนยันได้ชัดเจน ต้องรอผู้เชี่ยวชาญจากกรมศิลปากรมาตรวจพิสูจน์เพิ่มเติม และเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อยืนยันว่าหินแกะสลักนี้เป็นของโบราณหรือไม่ พร้อมวางแผนพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมในอนาคต

เรื่องย่อ ดาบพิฆาตอสูร ภาค 4 (Demon Slayer: Kimetsu no Yaiba Hashira Training Arc)

ดาบพิฆาตอสูร ภาค 4 การสั่งสอนของเสาหลัก (Demon Slayer: Kimetsu no Yaiba Hashira Training Arc) เป็นภาคที่นำเสนอเรื่องราวการฝึกฝนของทันจิโร่และเพื่อนๆ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้กับอสูรที่รุนแรงขึ้น

ดาบพิฆาตอสูร ภาค 4 การสั่งสอนของเสาหลัก” (Demon Slayer: Kimetsu no Yaiba Hashira Training Arc) เป็นภาคที่นำเสนอเรื่องราวการฝึกฝนของทันจิโร่และเพื่อนๆ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้กับอสูรที่รุนแรงขึ้น เนื้อเรื่องเริ่มต้นด้วยการที่ทันจิโร่และกลุ่มพรรคพวกได้รับการฝึกฝนจากเสาหลักทั้งหลาย ซึ่งเป็นนักดาบที่เก่งที่สุดในหน่วยพิฆาตอสูร

ดาบพิฆาตอสูร ภาค 4

ในการฝึกฝนครั้งนี้ ดาบพิฆาตอสูร ภาค 4 ทันจิโร่และพรรคพวกต้องเผชิญกับการฝึกที่หนักหน่วงและเข้มงวดจากเสาหลักแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นการฝึกการใช้ดาบ การเพิ่มพลังทางกายภาพ และการควบคุมพลังของตนเอง เสาหลักแต่ละคนมีวิธีการฝึกที่แตกต่างกันไปตามความสามารถและลักษณะเฉพาะตัว ซึ่งเป็นการท้าทายและผลักดันให้ทันจิโร่และเพื่อนๆ ต้องพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง

นอกจากการฝึกฝนแล้ว ภาคนี้ยังเผยให้เห็นความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างตัวละคร ทั้งความผูกพัน ความเสียสละ และความมุ่งมั่นในการต่อสู้กับอสูร ความขัดแย้งภายในและภายนอกของตัวละครทำให้เรื่องราวมีความลึกซึ้งและน่าติดตามมากยิ่งขึ้น ในท้ายที่สุด การฝึกฝนครั้งนี้ทำให้ทันจิโร่และพรรคพวกมีความพร้อมมากขึ้นในการเผชิญหน้ากับอสูรและปกป้องผู้คนที่พวกเขารักได้ดียิ่งขึ้น

สาวโพสต์ ดูดน้ำออกจากบ่อ หวังเอาปลาไปขาย เจอปลาซัคเกอร์ เต็ม!

เจ้าของบ่อได้สูบน้ำออกเพื่อจับปลาที่เลี้ยงไว้ไปขาย แต่แทนที่จะได้ปลาที่ตั้งใจกลับพบ “ปลาซัคเกอร์” หรือปลาที่มีชื่อเรียกอื่นๆ

เมื่อไม่นานมานี้ ผู้ใช้ TikTok บัญชี koryaw_ ได้โพสต์คลิปวิดีโอที่แสดงให้เห็นเหตุการณ์ที่บ่อปลาแห่งหนึ่งในจังหวัดปราจีนบุรี เจ้าของบ่อได้สูบน้ำออกเพื่อจับปลาที่เลี้ยงไว้ไปขาย แต่แทนที่จะได้ปลาที่ตั้งใจกลับพบ ปลาซัคเกอร์หรือปลาที่มีชื่อเรียกอื่นๆ เช่น ปลากดเกราะ หรือปลาดูดกระจก ซึ่งจำนวนที่พบนี้มากถึงเกือบ 10 ตัน ทำให้เจ้าของบ่อต้องจับปลาซัคเกอร์ขึ้นมาทิ้งบนบกเพื่อให้มันตาย เนื่องจากปลาชนิดนี้เป็นอันตรายต่อระบบนิเวศของปลาพื้นเมืองอย่างมาก

การโพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจและมีผู้แสดงความคิดเห็นอย่างล้นหลาม ชาวเน็ตต่างแสดงความเห็นใจเจ้าของบ่อที่ต้องพบกับปัญหานี้ ไม่เพียงแต่จะสูญเสียโอกาสในการขายปลาที่เลี้ยงไว้ แต่ปลาซัคเกอร์ยังเป็นปลาที่ขายยากหรือขายไม่ได้เลยด้วย ขณะเดียวกันก็มีบางคนแนะนำให้เอาปลาซัคเกอร์ไปทำอาหาร เนื่องจากมีเนื้ออร่อยแม้จะมีหนังแข็ง หรือบางคนแนะนำให้นำไปบดทำเป็นอาหารปลา

“ปลาซัคเกอร์” คืออะไร

ปลาซัคเกอร์ เป็นปลาสวยงามที่ถูกนำเข้ามาจากต่างประเทศและถือเป็นสิ่งมีชีวิตต่างถิ่น (Alien species) มีความอดทนสูง สามารถอาศัยในแหล่งน้ำได้เกือบทุกรูปแบบและกินอาหารได้เกือบทุกชนิด นอกจากนี้มันยังสามารถสืบพันธุ์ได้เองตามธรรมชาติ ซึ่งทำให้มันเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็ว การเพิ่มจำนวนของปลาซัคเกอร์ส่งผลกระทบต่อพันธุ์ปลาพื้นเมืองของไทยที่มีอยู่ตามธรรมชาติ เพราะมันจะกินไข่ปลาหรือลูกปลาวัยอ่อน ทำให้จำนวนปลาพื้นเมืองลดลงและมีผลกระทบต่อระบบนิเวศทางน้ำ

อันตรายของปลาซัคเกอร์

  1. การเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็ว: ปลาซัคเกอร์สามารถสืบพันธุ์ได้เองในธรรมชาติ และมีการเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้มีการเพิ่มจำนวนอย่างมากในแหล่งน้ำธรรมชาติ
  2. ผลกระทบต่อระบบนิเวศ: ปลาซัคเกอร์เป็นปลาที่กินทุกอย่างที่พบ รวมถึงไข่ปลาพื้นเมืองและลูกปลาวัยอ่อน ทำให้จำนวนปลาพื้นเมืองลดลงและส่งผลกระทบต่อความสมดุลของระบบนิเวศทางน้ำ
  3. การแย่งชิงอาหารและที่อยู่อาศัย: ปลาซัคเกอร์สามารถแย่งชิงอาหารและที่อยู่อาศัยจากปลาพื้นเมือง ทำให้ปลาพื้นเมืองขาดแคลนอาหารและที่อยู่อาศัย

เมนูที่ทำจากปลาซัคเกอร์

แม้ว่าปลาซัคเกอร์จะมีชื่อเสียงในด้านลบ แต่อย่างไรก็ตาม มีบางคนที่ได้นำมันไปทำอาหารโดยมีเมนูที่สามารถทำได้ดังนี้:

  1. ปลาซัคเกอร์ทอด: ล้างปลาซัคเกอร์ให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นแล้วนำไปทอดกรอบ สามารถทานกับน้ำจิ้มซีฟู้ดหรือน้ำจิ้มแจ่ว
  2. ต้มยำปลาซัคเกอร์: ปลาซัคเกอร์สามารถนำไปทำเป็นต้มยำโดยใส่เครื่องต้มยำ เช่น ตะไคร้ ใบมะกรูด พริก และเห็ด
  3. แกงส้มปลาซัคเกอร์: นำปลาซัคเกอร์มาต้มกับน้ำแกงส้ม ใส่ผักต่างๆ เช่น หน่อไม้ดอง และมะเขือเทศ เพื่อเพิ่มรสชาติ
  4. ปลาซัคเกอร์ย่างเกลือ: นำปลาซัคเกอร์มาหมักเกลือแล้วนำไปย่างจนหอม สามารถทานคู่กับน้ำจิ้มแจ่ว
  5. บดทำอาหารปลา: ปลาซัคเกอร์ที่ไม่ต้องการสามารถนำมาบดทำเป็นอาหารสำหรับปลาอื่นๆ ได้

แม้ว่าปลาซัคเกอร์จะมีเนื้ออร่อย แต่การจับและนำมาใช้ประโยชน์ต้องทำด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากมีผลกระทบต่อระบบนิเวศ ดังนั้นควรพิจารณาวิธีการจัดการที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของปลาชนิดนี้ในธรรมชาติ

รู้จัก ปารีณา ไกรคุปต์ อดีตนักการเมืองสาวสุดแซ่บ

ปารีณา ไกรคุปต์ เป็นนักการเมืองชื่อดังของประเทศไทย ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคการเมืองต่างๆ ในช่วงเวลาต่างกัน และมีชื่อเสียงในฐานะผู้ที่มีการตอบโต้และให้ความเห็นที่แข็งขันในเรื่องต่างๆ

ปารีณา ไกรคุปต์ เป็นนักการเมืองชื่อดังของประเทศไทย ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคการเมืองต่างๆ ในช่วงเวลาต่างกัน และมีชื่อเสียงในฐานะผู้ที่มีการตอบโต้และให้ความเห็นที่แข็งขันในเรื่องต่างๆ

ปารีณา ไกรคุปต์ มักจะเป็นข่าวหน้าหนึ่งในสื่อต่างๆ ด้วยการวิพากษ์วิจารณ์และมีส่วนร่วมในประเด็นสำคัญๆ ของสังคม บ่อยครั้งที่เธอมีปฏิสัมพันธ์กับสื่อมวลชนและประชาชนผ่านโซเชียลมีเดีย ทำให้เธอมีผู้ติดตามและผู้สนับสนุนจำนวนมาก แต่ก็มีผู้วิพากษ์วิจารณ์เช่นกัน

ประวัติ เอ๋ ปารีณา ไกรคุปต์

  • เอ๋ มีชื่อจริงว่า ปารีณา ไกรคุปต์
  • เกิด 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2519
  • ภูมิลำเนา เป็นคนอำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี
  • บิดาของปารีณา คือ ทวี ไกรคุปต์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดราชบุรี
  • มารดาของปารีณา คือ สิริบังอร ไกรคุปต์
  • ปารีณาสมรสกับอุปกิต ปาจรียางกูร (หย่า)
  • มีลูก 3 คนคือ กล้าเกล้า ไกรคุปต์, อดิศรา ปาจรียางกูร, และกิตตรา ปาจรียางกูร
  • การศึกษา ได้ปริญญาวิทยาศาสตรบัณฑิตและวิทยาศาสตรมหาบัณฑิตจากสหรัฐ