ข่าวราคาทองคำ 14 มิถุนายน 2562 (ภาคเช้า)

ราคาทองคําวานนี้ ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคําได้รับแรงหนุนจากหลายปัจจัย ดังนี้ (1.) การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับเยนและสวิสฟรังก์ หลังข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐที่เปิดเผยในสัปดาห์นี้ ยังคงซบเซา บวกรวมกับวานนี้จํานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐออกมาอ่อนแอเกินคาด จึงเป็นปัจจัยกระตุ้นการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) (2.) แรงซื้อทองคําในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจากสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐที่มีแนวโน้มยืดเยื้อ ขณะที่ล่าสุดนายเก่าเฟิง โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีน กล่าวว่า จีนจะต่อสู้จนถึงที่สุด ถ้าหากสหรัฐยังคงเพิ่มความขัดแย้งทางการค้า (3.) วานนี้เกิดเหตุการณ์โจมตีเรือบรรทุกนํ้ามัน 2 ลําในช่องแคบฮอร์มุซ เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความกังวลเกี่ยวกับการเผชิญหน้ากันครั้งใหม่ระหว่างอิหร่านและสหรัฐ ซึ่งสหรัฐออกมากล่าวหาว่าอิหร่านอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ดังกล่าว นอกจากข่าวนี้จะหนุนราคานํ้ามันให้ปรับตัวสูงขึ้นแล้ว ยังกระตุ้นแรงซื้อทองคําในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มเติมอีกด้วย สําหรับวันนี้ แนะนํานักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ เช่น ยอดค้าปลีกเดือนพ.ค., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน พ.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนเม.ย. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนมิ.ย.   ที่มา ylgbullion.co.th

>>  อัพเดตราคาทองวันนี้  <<

ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 1 กรกฎาคม 2562

ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล
ตรวจผลสลากกินแบ่งรัฐบาล ตรวจหวย งวดประจำวันที่ 1 กรกฎาคม 2562

เตรียมตรวจหวยแบบเต็มรูปแบบได้ที่ >> https://www.sanook.com/news/7820358/

ข่าวราคาทองคำ 27 มีนาคม 2562 (ภาคเช้า)

ราคาทองย้อนหลัง ปิดปรับตัวลดลง 6.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ตัวเลขสหรัฐทั้งตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้าน, การอนุญาตก่อสร้างบ้านและดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจาก Conference Board จะอ่อนแอเกินคาด แต่ราคาทองคํากลับอ่อนตัวลง โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ฟื้นตัวขึ้ นจากจุดตํ่าสุดในรอบ 15 เดือน ขณะที่ความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงฟื้ นตัวขึ้ นเช่นกัน เนื่องจากนักลงทุนเริ่มคลายความวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ ส่งผลให้ราคาทองวันนี้ ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้ น 140.90 จุด ปัจจัยดังกล่าวกดดันราคาทองคําให้ปรับตัวลดลงจากระดับสูงสุด นับตั้ งแต่วันที่ 28 ก.พ.บริเวณ 1,324.52 ดอลลาร์ต่อออนซ์ที่ขึ้ นไปทดสอบเมื่อวันจันทร์ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคําเพิ่มวานนี +3.23 ตัน สําหรับวันนี้ ติดตามการเปิดเผยดุลการค้าของสหรัฐ นอกจากนี้ แนะนําจับตาการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐที่กรุงปักกิ่งของจีน นําโดยนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้า และนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลัง ในระหว่างวันที่ 28-29 มี.ค.นี้ รวมไปถึงติดตามการลงมติในสมาชิกสภานิติบัญญัติอังกฤษ ต่อทางเลือกต่างๆ (amendments) เกี่ยวกับ Brexit ในวันนี ตามเวลาอังกฤษ ซึ่งอาจทําให้ทิศทางของ Brexit มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ที่มา ylgbullion.co.th

>>  อัพเดตราคาทองวันนี้  <<

ข่าวราคาทองคำ 04 มีนาคม 2562 (ภาคค่ำ)

นักเศรษฐศาสตร์ ประเมินว่า อินเดีย ซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับ 3 ของเอเชีย และเป็นประเทศที่บริโภคทองคําอันดับ 2 ของโลกรองจากจีน สูญเสียแรงผลักดันในไตรมาสสุดท้ายของปี 2018 ในขณะที่อัตราการเติบโตรายปี ร่วงสู่ 6.6% ซึ่งตํ่ากว่าที่คาดหมายอย่างมากและชะลอตัวมากที่สุดในรอบ 5 ไตรมาส แนวโน้มเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงส่งผลให้แรงซื้อทองคําจากอินเดียชะลอตัวลงมา ขณะที่นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย ซึ่งหวังชนะศึกเลือกตั้ง สมัย 2 ที่มีกําหนดจัดขึ้นในเดือนพ.ค. นักเศรษฐศาสตร์ระบุว่า การใช้จ่ายก่อนเลือกตั้งหลายพันล้านดอลลาร์ของรัฐบาลอินเดียและพรรคการเมืองต่างๆในช่วง 2 เดือนข้างหน้า อาจจะไม่สามารถยับยั้งเศรษฐกิจของประเทศจากการชะลอตัวเพิ่มเติม แนะนําเมื่อราคาทองขยับขึ้นให้นักลงทุนจับตาแนวต้านระดับ 1,303-1,312 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคําทดสอบและยังไม่สามารถขึ้นไปยืนได้ นักลงทุนอาจแบ่งขายบางส่วนในลักษณะทยอยขายทํากําไรออกมาเมื่อราคาขยับขึ้น และรอเข้าซื้อคืนเพื่อทํากําไรระยะสั้น ทั้งนี้ ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,289-1,276 ดอลลาร์ต่อออนซ์และควรวางแผนการลงทุนอย่างรอบคอบเพื่อป้องกันความผันผวนของราคา ที่มา ylgbullion.co.th

>>  อัพเดตราคาทองวันนี้  <<

 

วิเคราะห์ราคาทอง ภาคเช้า 13 กุมภาพันธ์ 2562

ราคาทองคําวานนี้ ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้ น 2.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคําได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังมีสัญญาณบ่งชี้ว่าการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐมีความคืบหน้า ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าววานนี้ ว่า อาจมีการเลื่อนกําหนดเส้นตายในการบรรลุข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนจากเดิมในวันที่ 2 มี.ค.ออกไปก่อน หากสหรัฐและจีนสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าได้ ทําให้นักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวส่งผลให้เกิดแรงขายทํากําไรในสกุลเงินดอลลาร์หลังจากที่ทะยานขึ้นก่อนหน้านี้ ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย อย่างไรก็ดีการปรับตัวขึ้นของราคาทองคําในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ถูกสกัดช่วงบวกจากการพุ่งขึ้นกว่า 1% ของดัชนีดาวโจนส์, S&P500 และ Nasdaq ขานรับมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ รวมไปถึงรายงานที่ว่าสมาชิกพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันสามารถบรรลุข้อตกลงชั่วคราวเพื่อหลีกเลี่ยงชัตดาวน์รอบที่ 2 ซึ่งแม้จะเป็นข้อตกลงที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ไม่พอใจนัก แต่ก็ไม่ได้มีท่าทีปฏิเสธข้อตกลงดังกล่าวแต่อย่างใดทําให้ความเป็นไปได้ที่จะเกิดภาวะชัตดาวน์ลดลง ด้านกองทุน SPDR ลดการถือครองทองคําลงวานนี้ อีก -3.23 ตัน สําหรับวันนี้ ติดตามการเปิดเผยดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซน และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)ของสหรัฐ ที่มา ylgbullion.co.th

>>  อัพเดตราคาทองวันนี้  <<

 

 

บทวิเคราะห์ราคาทอง ภาคเช้า 31 มกราคม 2562

ราคาทองคําวานนี้ ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้ น 8.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคําได้รับหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติ คงอัตราดอกเบี้ยไว้ตามคาด ที่สําคัญคือเฟดระบุในแถลงการณ์หลังการประชุมว่า จะใช้ความอดทนต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้ งต่อไป โดยจะจับตาภาวะเศรษฐกิจ พร้อมกันนี้ เฟดได้ระบุถึงความพร้อมที่จะทําการพิจารณาใหม่เกี่ยวกับการปรับลดการถือครองพันธบัตรในงบดุลของเฟด หากสภาวะเศรษฐกิจบ่งชี้ ถึงความจําเป็น ซึ่งถือเป็นท่าทีในเชิงพิราบ (Dovish) ทําให้ตลาดยิ่งปรับลดการคาดการณ์เกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ ลงตํ่ากว่าช่วงก่อนการประชุมเฟดเสร็จสิ้ น สะท้อนจาก FedWatch Tool ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ภาวะการซื้ อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ ยสหรัฐจาก CME Group พบว่า เทรดเดอร์คาดว่าเฟดจะไม่สามารถปรับขึ้ นดอกเบี้ ยแม้แต่ครั้ งเดียวในปีนี้ ประเด็นนี้ กดดันดอลลาร์ให้ร่วงลงจนหนุนให้ราคาทองคําทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 8 เดือนบริเวณ 1,323.38ดอลลาร์ต่อออนซ์ในระหว่างการซื้ อขาย สําหรับวันนี้ ติดตามการเปิดเผยดัชนีการใช้จ่ายส่วนบุคคลพื้ นฐาน (Core PCE), การใช้จ่ายและรายได้ส่วนบุคคล, จํานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้ อ (PMI) เขตชิคาโกของสหรัฐ ที่มา ylgbullion.co.th

>>  อัพเดตราคาทองวันนี้  <<

ทำไม ? ร่างกายถึงยังได้รับ ‘แคลเซียม’ ไม่เพียงพอเสียที

ทำไม ? ร่างกายถึงยังได้รับ 'แคลเซียม' ไม่เพียงพอเสียที

แคลเซียม นั้นเป็นแร่ธาตุสำคัญที่ร่างกายต้องการ แต่ด้วยความที่ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์แคลเซียลขึ้นเองได้ จึงจำเป็นต้องรับมาจากอาหาร ย่อยและดูดซึมผ่านลำไส้เล็ก ซึ่งการดูดซึมแคลเซียมของเด็กและผู้ใหญ่ ร่างกายจะดูดซึมได้ประมาณ 20 – 25 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลือก็จะถูกขับถ่ายทิ้งไป วันนี้เราจะทำความรู้จักกับเจ้าแคลเซียมให้มากขึ้น พร้อมทั้งหาสาเหตุว่าทำไม ร่างกายของเราจึงยังได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอเสียที

‘แคลเซียม’ นั้นสำคัญอย่างไร ?

แคลเซียม นอกจากจะเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของกระดูกและฟันแล้ว แร่ธาตุตัวนี้ยังมีหน้าที่ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย ช่วยให้เลือดแข็งตัว เสริมสร้างการทำงานของกล้ามเนื้อ ระบบประสาท ช่วยกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ และช่วยควบคุมสมดุลของกรด – ด่างในร่างกายอีกด้วย หากร่างกายของเราขาดแคลเซียมไป ยิ่งเป็นวัยเด็ก ก็จะทำให้เกิดโรคกระดูกอ่อน ทำให้การเจริญเติบโตของกระดูกผิดปกติ หากขาดแคลเซียมในผู้หญิงที่อยู่ในวัยหมดประจำเดือน ก็จะทำให้เกิดโรคกระดูกพรุน อีกทั้งยังเป็นสาเหตุของโรคกระดูกเสื่อม ยิ่งไปกว่านั้น หากร่างกายของเราขาดแคลเซียมอย่างรุนแรง ก็อาจก่อให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อเกร็ง กระตุกและชัก ฉะนั้น จึงควรหันมาบำรุงและเติมแคลเซียมในปริมาณที่ร่างกายต้องการอยู่สม่ำเสมอ แล้วไม่ลืมที่จะออกกำลังกายเพื่อช่วยเสริมความแข็งแรงอยู่เป็นประจำก็จะยิ่งดี

ร่างกายควรได้รับ ‘แคลเซียม’ ในปริมาณเท่าไหร่ ?

ร่างกายของเราควรได้รับแคลเซียมในปริมาณที่เหมาะสมของแต่ละช่วงวัย โดยมีปริมาณที่ไม่เท่ากัน

  • ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 40 – 50 ปี ควรได้รับแคลเซียมในปริมาณ 800 – 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน
  • ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป ควรได้รับแคลเซียมในปริมาณ 1,000 – 1,200 มิลลิกรัมต่อวัน
  • ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป และผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ ควรได้รับแคลเซียมในปริมาณ 1,200 มิลลิกรัมต่อวัน

ปัจจัยใดที่ทำให้ร่างกายได้รับ ‘แคลเซียม’ ที่ไม่เพียงพอ ?

  • ไม่ออกกำลังกาย
  • ดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่มากจนเกินไป
  • ดื่มกาแฟในปริมาณมากๆ
  • ได้รับแคลเซียมผ่านทางอาหารไม่เพียงพอ
  • ขาดฮอร์โมนเอสโตรเจนในหญิงวัยหมดประจำเดือน
  • มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคกระดูกพรุน หรือเคยกระดูกหักมาก่อน

จะรับ ‘แคลเซียม’ ได้อย่างเพียงพอต้องทำยังไง ?

ในอาหารที่เรากินกันอยู่ปกติ บางอย่างก็อุดมไปด้วยแคลเซียมโดยที่ไม่ต้องไปถึงการกินอาหารเสริม อย่าง กะปิ , กุ้งแห้ง , งาดำ , ปลา หรือสัตว์น้ำขนาดเล็กที่สามารถกินได้ทั้งตัว , นม ผลิตภัณฑ์จากนม , เต้าหู้ , พืชตระกูลถั่ว ผลิตภัณฑ์จากถั่ว ไปจนถึงตำลึง , พริก , กระถิน , ใบยอ , โหระพา , กะเพรา , กระเจี๊ยบ , ผักกวางตุ้ง , คะน้า , ผักกาดเขียว ซึ่งการเลือกกินนั้นให้กินในปริมาณที่เหมาะสม อีกทั้งแนะนำให้ออกกำลังกายเพิ่มเติมในช่วงเวลา 7 โมง ถึง 9 โมงเช้า  เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามินดีจากแสงแดด เป็นวิตามินที่ช่วยในการดูดซึมแคลเซียม นอกจากนั้น หากมีความจำเป็นที่จะต้องกินแคลเซียมเพิ่มเติม ก็ควรไปขอคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ไม่ควรไปหาแคลเซียมมากินเอง เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพของเรา

ซินแสหนึ่งเผยดวงชะตา 12 นักษัตร ในปีครึ่งหลัง 2561

ซินแสเป็นหนึ่ง วงษ์ภูดร เผยดวงชะตาในครึ่งปีหลังของนักษัตรทั้ง 12 นักษัตร ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมจนถึงเดือนธันวาคมใน ปี 2561 ว่าจะเป็นอย่างไรกันบ้าง และจะมีวิธีการแก้ดวงยังไงไปดูกันเลย

ปีชวด 2561

ปีนี้ค่อนข้างที่จะเจอกับอุปสรรค โดยเฉพาะเพื่อนร่วมงาน ในเรื่องของความเข้าใจผิด ควรต้องระมัดระวังคำพูด เพราะถ้าเกิดปัญหาขึ้นมาในระหว่างการทำงานแล้วจะทำให้หมดสนุกทันที

ปีฉลู 2561

ดวงของคนที่เกิดปีฉลูนั้น ดวงจะเปลี่ยนแปลงงาน จะมีคนชวนไปทำงานที่ใหม่บ่อย ถ้าต้องเปลี่ยนงานจริงๆนั้นก็ต้องดูให้ดีๆ เพราะอาจจะหนีเสือแะจรเข้ก็เป็นได้ ควรคิดและไตร่ตรองก่อนตัดสินใจไป

ปีขาล 2561

ดวงของคนที่เกิดปีขาลนั้น ครึ่งปีหลังอย่าพึ่งคิดเรื่องเปลี่ยนงาน โดยเฉพาะเวลาที่มีใครมาชักจูง ไม่ว่าจะเป็นคนรู้จัก หรือเจ้านายเก่า เพราะมีความเสี่ยงมากที่จะถูกลอยแพ

ปีเถาะ 2561 

สำหรับคนที่ทำงานในด้านข้าราชการนั้นจะมีโอกาสได้เลื่อนขั้น หรือปรับตำแหน่ง สำหรับคนที่คิดจะเริ่มต้นหาอะไรทำใหม่ๆนั้นก็ค่อนข้างที่จะมีแนวโน้มในทิศทางที่ดี เพราะดวงการทำงานของคนที่เกิดในนักษัตรนี้ค่องข้างที่จะไปได้ดีเลย

ปีมะโรง 2561

คนที่เกิดปีนักษัตรนี้นั้นระวังในเรื่องโดนยุแยงให้ลงงทุน โดยการใช้ผลประโยชน์มาหลอกล่อ เพราะตั้งแต่ครึ่งปีหลังนี้ถึง 31 ธันวาคม 2561 ค่อนข้างที่จะมีความเสี่ยงที่จะเหนื่อยฟรีๆ กับงานที่ไม่ค่อยถนัด ต้องระมัดระวังหากไม่อยากที่จะเสียเวลา เพราะคนที่สนิทนั้นอาจจะทำให้เสียทรัพย์

ปีมะเส็ง 2561

คนที่เกิดในนักษัตรนี้ บอกเลยว่า งานรุ่ง พุ่งแรงมากๆ เจ้านาย หรือ เพื่อนร่วมงานนั้นจะคอยช่วยเหลือ สำหรับคนที่ทำธุรกิจนั้นก็จะมีงานเข้ามาต่อเนื่องไม่ขาดมือ แทบจะทำไม่ทันเลยทีเดียว

ปีมะเมีย 2561

คนที่เกิดในปีนักษัตรนี้ จะมีโอกาสก้าวไกลในด้านธุรกิจออนไลน์ คนที่มีงานประจำนั้นก็มีโอกาสที่จะได้ปรับตำแหน่งหรือเลื่อนขั้นในตำแหน่งที่ต้องเดินทางต่างแดน ซึ่งเป็นอีกโอกาสที่จะได้รับเพราะฉนั้นห้ามปฏิเสธเด็ดขาด

ปีมะแม 2561

คนที่เกิดในนักษัตรนี้ควรระมัดระวังในเรื่องของการรับปากใครในสิ่งที่ตัวเองไม่มั่นใจหรือทำไม่ได้ เพราะว่าอาจจะเกิดข้อผิดพลาด จนทำให้เกิดความเสียหายของงานก็ได้ ควรต้องระวังเป็นพิเศษ

ปีวอก 2561

ครึ่งปีหลังของคนที่เกิดนักษัตรนี้นั้น ค่อนข้างจะมีโอกาสที่ดี ในการเปลี่ยนแปลงงาน โดยเฉพาะงานใหม่ เพราะมีโอกาสที่จะได้ปรับตำแหน่งงานสูงขึ้นกว่างานที่ทำอยู่

ปีระกา 2561

คนที่เกิดปีนี้บอกเลยวว่า ต้องเป็นคนขยันห้ามขี้เกียจเด็ดขาด เพราะอาจจะตกงานเมื่อไหร่ก็ได้เกิดจากดวงที่ตกงานนั้นมาแรง จากความประมาทเลินเล่อของอารมณ์ ทำให้คนรอบข้างและเพื่อนร่วมงานนั้นเอือมระอาในอารมณ์ของเราในช่วงนี้ เพราะฉนั้นต้องควบคุมสติให้มากๆ

ปีจอ 2561

คนที่เกิดในนักษัตรนี้ควรที่จะพูดน้อยๆ ทำให้มากๆ เพราะอาจจะถูกเจ้านายหรือเพื่อนร่วมงาน ในแบบที่เราอาจจะรับไม่ได้ เพราะช่วงนี้เป้นช่วงที่ะพระศุกร์เข้า และพระเสาร์เข้ามาแทรก ควรระวังในเรื่องของอารมณ์ให้มากๆ ยิ้มเข้าไว้ เรียกสติทุกครั้งที่เกิดอารมณ์

ปีกุล 2561

แน่นอนว่าครึ่งปีหลังของคนที่เกิดในนักษัตรนี้นั้น ค่อนข้างที่จะมีปัญหากับเจ้านาย ต้องระวังมนเรื่องของอารมณ์ เพราะสิ่งที่เขาพูดนั้นล้วนแล้วคือการตักเตือนแต่มีความจริงใจที่เรารับไม่ได้ แต่ปีนี้นั้นเราค่อนข้างจะขี้เกียจหน่อย อาจจะเนื่องจากเหนื่อยงาน หรือ เบื่องาน โดนบ่นเยอะ และเป็นคนค่อนข้างจะขี้รำคาญ ควรต้องระวังเพราะถ้าเจ้านายไม่เอาใครสักคนแล้วนั้นเราจะอยู่ลำบาก

 

อยากหัด ‘เวทเทรนนิง’ ต้องเริ่มต้นยังไงบ้าง ?

อยากหัด 'เวทเทรนนิง' ต้องเริ่มต้นยังไงบ้าง ?

คนในยุคสมัยนี้ต่างหันมาให้ความสำคัญกับสุขภาพของตัวเอง ยิ่งใช้ชีวิตอยู่ในเมืองที่ต้องเร่งรีบ การดูแลจึงเป็นเรื่องสำคัญเพื่อไม่ให้ต้องเจ็บป่วยจนล้มหมอนนอนเสื่อ หากจะหันมาควบคุมเรื่องของอาหารการกินก็เห็นจะยาก เพราะการทำงานในแต่ละวันที่ยาวนาน ทำให้ร่างกายต้องการอาหารดีๆ เพื่อเติมเต็มพลังงานสำหรับเริ่มต้นวันใหม่ ฉะนั้น การออกกำลังกายจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดทางหนึ่ง

การออกกำลังกายของผู้คนที่อยู่ในเมืองมีอยู่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งอยู่ในสวนยามเช้า หรือการหากีฬาสนุกๆ เล่นกับเพื่อนๆ หลังเลิกงาน หรือหากใครที่อยากให้ร่างกายดูสมส่วนขึ้นมาหน่อย ก็หันมาลองเวทเทรนนิง เรียกได้ว่าตอนนี้กลายเป็นการออกกำลังยอดนิยมของหนุ่มๆ เชียวล่ะ

การออกกำลังกายด้วยวิธีเวทเทรนนิง หรือการออกกำลังกายแบบมีแรงต้าน ได้รับการพิสูจน์มาแล้วว่าให้ประโยชน์ต่อร่างกายเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะคุณผู้ชายที่มีอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป เพราะเมื่อเราแก่ตัวมากขึ้น มวลกล้ามเนื้อและความหนาแน่นของมวลกระดูกก็จะลดน้อยถอยไป การเล่นเวทเทรนนิงจึงเป็นการช่วยลดการสูญเสียนั้นได้ ลองคิดภาพตามดูว่า หากเราไม่ออกกำลังกายเลย เอาแต่ทำงาน กิน นอน กล้ามเนื้อจะค่อยๆ ถูกแทนที่ด้วยไขมัน แต่เมื่อไหร่ที่เราเริ่มออกกำลังกาย ได้ออกแรงแขน ขา หรือมีการขยับเขยื้อน ไขมันนั้นก็จะเปลี่ยนกล้ามเนื้อ ร่างกายของเราก็จะค่อยๆ ดูดีขึ้น

ได้เวลาเริ่มต้นออกกำลังกาย !

ขอแนะนำเอาไว้ก่อนว่า หากหนุ่มๆ คนไหนที่เป็นมือใหม่เพิ่งจะเริ่มออกกำลังกาย ก็ควรมีที่ปรึกษาแบบมืออาชีพ เพื่อให้การออกกำลังกายเป็นไปด้วยความปลอดภัยและถูกต้อง จะได้ไม่เกิดอาการบาดเจ็บหลังออกกำลังกาย อย่าไปกลัวนะ การเป็นคนไม่รู้ไม่ใช่เรื่องผิด เพราะขนาดคนที่อยู่ในแวดวงการออกกำลังกายมาเป็นเวลานาน ก็อาจเกิดความไม่เข้าใจเกี่ยวกับท่าทางในการออกกำลังกายจนเกิดความผิดพลาดได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นถ้าอยากรู้อะไรให้ถาม

ส่วนเรื่องการออกกำลังกายในยิม ขอให้เลิกความคิดที่จะเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นเด็ดขาด เนื่องจากเราเพิ่งเริ่มต้น หากอยากเริ่มเล่นเวทเทรนนิง ก็ให้เลือกยกจากน้ำหนักเบาๆ ประมาณ 4.5 กิโลกรัมก่อน ต่อจากนั้นเมื่อร่างกายมีความแข็งแรงมากขึ้นจึงค่อยเพิ่มน้ำหนักเข้าไป ท่าที่ใช้ในการเวทเทรนนิงก็ได้แก่ Barbell Squat, Barbell Row, Bench Press, Shoulder Press, Barbell Curl และท่า Crunch ส่วนจำนวนครั้งที่ใช้ในการยกให้นับ 14 – 15 ครั้งเป็น 1 เซต มือใหม่ให้ซ้อมยก 2 – 3 เซตก็น่าจะเพียงพอแล้ว

ต้องออกกำลังกายบ่อยแค่ไหน ?

เรื่องความถี่ในการออกกำลังกายนั้นไม่ได้มีกำหนดไว้แน่นอนตายตัว ขึ้นอยู่กับความสะดวกของคุณผู้ชายเป็นหลัก แต่จากคำแนะนำของ American College of Sports Medicine ได้บอกเอาไว้ว่า ควรออกกำลังกายด้วยเวทเทรนนิงประมาณ 2 – 3 ต่อสัปดาห์ ระยะเวลาต่อครั้งประมาณ 30 นาที ที่สำคัญ จะต้องเฉลี่ยเวลาในการฝึกกล้ามเนื้อแต่ละส่วนของร่างกายให้เท่าๆ กัน ไม่ว่าจะเป็น กล้ามเนื้อหน้าอก, กล้ามเนื้อหลัง, กล้ามเนื้อแขน และกล้ามเนื้อขา เพื่อให้เกิดความสมดุล

บทวิเคราะห์ราคาทอง ภาคเช้า 07 มิย 61

ราคาทองคําวานนี้ ปิดทรงตัวแทบไม่เปลี่ยนแปลง ถึงแม้จะได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการแข็งค่า ของสกุลเงินยูโร หลังนายปีเตอร์ แพรท สมาชิกคณะกรรมการบริหารของธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวว่า ECB จะทําการหารือกันในการประชุมกําหนดนโยบายการเงินในวันที่ 14 มิ.ย. เกี่ยวกับการถอนตัวจากการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) โดยราคาทองคําในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ยได้รับแรงกดดันจากแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED)ในการประชุมวันที่ 12-13 มิ.ย.นี้ นอกจากนี้ การปิดพุ่งถึง 346.41 จุดของดัชนีดาวโจนส์นําโดยหุ้นกลุ่มธนาคารการเป็นปัจจัยกดดันเพิ่มเติม ในขณะเดียวกันนักลงทุนระมัดระวังในการเข้าสถานะเพิ่มเพื่อรอความชัดเจนจากประเด็นข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและชาติพันธมิตรในการประชุมสุดยอดผู้นํา G7 ที่จะเริ่มต้นในวันศุกร์นี้ รวมไปถึงแนวโน้มการดําเนินนโยบายการเงินของ ECB และ FED ในการประชุมสัปดาห์หน้า ด้านกองทุน SPDR ลดการถือครองทองคําลง – 3.54 ตัน สําหรับวันนี้ ติดตามการเปิดเผยจํานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐ ที่มา ylgbullion.co.th

อัพเดตราคาทอง